Skip to main content
sharethis

สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียน เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบรรณาธิการไทยโพสต์ เพื่อแสดงความเห็นต่อบทความ "คึกฤทธิ์คนสำคัญของโลก" ในคอลัมน์ บังอบายเบิกฟ้า ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา


 


โดยสุลักษณ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ต่อยูเนสโกเพื่อให้รับรองเป็นบุคคลสำคัญของโลก นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลทำประชามติก่อน หากจะมีการเสนอชื่อผู้ใด ไม่ใช่ทำกันแต่เป็นการภายใน โดยไม่สนใจประชาชน


 


 


(เนื้อความจดหมาย มีดังนี้)


๑๒๗ ซอยสันติภาพ  ถนนนเรศ


บางรัก กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐


 


๘ มกราคม ๒๕๕๒


 


 


เรียนบรรณาธิการไทยโพสต์


 


ผมรู้จักคุณธรรมเกียรติ กันอริ มาตั้งแต่เขาเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม และนิยมชมชอบสำนวนการเขียนหนังสือของเขามาแต่สมัยนั้น หนังสือของเขาที่ดีที่สุดเมื่อเขายังอยู่ในวัยฉกรรจ์ คือเล่มที่ว่าด้วยคึกฤทธิ์ ปราโมช ลอกคราบคุณชายผู้นั้นอย่างสะใจ และใช้โวหารหลอกล้อ ดังที่คุณชายชอบใช้เล่ห์เช่นนั้นกับมหาชน ให้ใครๆ เห็นว่าคุณคึกฤทธิ์เป็นคนกะล่อน แต่เมื่อมาอ่านบทความของเขาเรื่อง "คึกฤทธิ์คนสำคัญของโลก" ในไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๔ มกราคม แล้วรู้สึกอ่อนใจ แสดงว่า คุณธรรมเกียรติ ในวัยที่สังขารเริ่มร่วงโรยไปนั้น กลับเห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปเสียแล้ว


 


ก็การเสนอชื่อบุคคลให้ UNESCO รับรองว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกนั้น คนๆ นั้น น่าจะมีความดีประกอบไปกับความรู้ความสามารถในทางการศึกษา (Education) วิทยาศาสตร์ (Science) และวัฒนธรรม (Culture) ตามชื่อขององค์การแห่งนั้นของสหประชาชาติ  ที่แล้วๆ มา สามัญชนคนไทยที่รัฐบาลเสนอไป ล้วนเป็นปูชนียบุคคลที่ควรแก่การกราบไหว้บูชาทุกท่าน นอกเหนือไปจากอัจริยภาพของท่านนั้นๆ ในทางการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นพระยาอนุมานราชธน นายปรีดี พนมยงค์ นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือพุทธทาสภิกขุ รัฐบาลไทยไม่เคยเสนอชื่อสามัญชนที่เป็นคนกึ่งดิบกึ่งดี ที่มีความสามารถอย่างฉ้อฉลหรือบิดเบือนไปให้ยูเนสโกพิจารณามาก่อนเลย หาไม่หลวงวิจิตรวาทการ น่าจะเป็นบุคคลสำคัญของโลกไปแล้ว ในฐานะที่มอมเมาคนไทยได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคึกฤทธิ์ ปราโมช


 


อาจารย์สายชล สัตยานุรักษ์ แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการวิจัย (สกว.) ให้เรียบเรียงประวัติปัญญาชนไทย ๑๐ คน ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย ในจำนวนดังกล่าว มีหลวงวิจิตรวาทการ และ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช รวมอยู่ด้วย ผลงานของเธอ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ว่าบุคคลทั้งสองนี้ใช้เล่ห์เพทุบาย ในการมอมเมาผู้คนยิ่งกว่าให้ข้อเท็จจริงอย่างสุจริตใจ


 


เมื่อคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในสมัยรัฐบาล คมช. ได้เสนอให้คุณชายคึกฤทธิ์ เป็นบุคคลสำคัญของโลกมาทีหนึ่งแล้ว (โดยที่ภารกิจนี้เคยเป็นของกระทรวงศึกษาธิการ) และผมได้เขียนคัดค้านไปลงพิมพ์ใน ช่อการเกด ของคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี เป็นเหตุให้น้องชายของท่านรัฐมนตรีผู้นั้นสั่งไม่ให้ลงเรื่องที่ผมเขียนหรือแม้แต่ชื่อของผมในหนังสือพิมพ์และนิตยสารในสังกัดของเขาเอาเลย ตราบเท่าจนบัดนี้


 


วิธีการเช่นนี้ คุณชายคึกฤทธิ์ใช้มากับผมและบุคคลอื่นๆ ที่เธอรังเกียจก่อนแล้วที่สยามรัฐ ก็ถ้าสื่อมวลชนใช้อคติส่วนตัวของผู้บริหารสูงสุดเป็นตัวกำหนด ว่าควรเอ่ยชื่อใครหรือไม่ และบทความของใครควรลงพิมพ์หรือไม่ โดยที่คนๆ นั้นเป็นคนที่ผู้บริหารสูงสุดรังเกียจเสียแล้วละก็  สื่อมวลชนดังกล่าวมีความเป็นกลางละหรือ รักสัจจะหรืออาสัตย์อาธรรม์กันแน่


 


แม้อนันตริยกรรมข้อนี้ ประการเดียว บุคคลคนนั้น ยังควรได้รับยกย่องให้เป็นคนสำคัญของโลกอีกละหรือ โดยไม่จำต้องเอ่ยว่าสี่แผ่นดิน นั้นเป็นนวนิยายที่ใช้ล้างสมองให้คนเห็นว่าประชาธิปไตยเป็นของเลว ราชาธิปไตยเป็นของวิเศษ ชาติวุฒิสำคัญยิ่งกว่าคุณวุฒิของสามัญชนคนธรรมดา และแล้วเราก็ยังถูกสะกดให้อยู่ในอีหรอบนี้อยู่ หรือมิใช่


 


ทั้งนี้มิใยต้องเอ่ยยถึงว่า ไผ่แดง ก็ดี กาเหว่าที่บางเพลง ก็ดี แม้จน ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา ก็ล้วนลอกเลียนเอามาจากฝรั่ง อย่างหน้าด้านๆ อีกด้วย ในวงวรรณกรรมสากล ถือว่านี่คือการโขมยหรือปล้นสดมภ์มาเลยทีเดียว  แล้วบุคคลเช่นนี้ละหรือที่ควรเป็นบุคคลสำคัญของโลก


 


ยังการที่เขาดูถูกสาธารณรัฐประชาชนลาว โดยกล่าวหาว่าเลวร้ายและล้าหลัง จนถึงจะข้ามไปเผาเวียงจันทน์ด้วยแล้ว นี่มิเป็นการสร้างความอหังการอย่างผิดๆ ให้นักอ่านไทย ในกระแสชาตินิยมดอกหรือ แล้วเพื่อนบ้านของเราทางฝั่งโขงข้างโน้นจะรู้สึกอย่างไร


 


ก็บัดนี้ เรามีรัฐบาลที่มีทีท่าว่าจะเป็นประชาธิปไตยยิ่งๆ ขึ้น ในทางเนื้อหา ถ้ารัฐบาลจะเสนอบุคคลใดให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก น่าจะแสวงหาประชามติสนับสนุน ไม่ใช่งุบงิบกันกระทำเป็นการภายใน โดยมองไม่เห็นหัวราษฎรทั้งหลายเอาเลย


 


รัฐบาลและสื่อมวลชนกระแสหลัก จักรับฟังข้อเสนอของผมดังกล่าวนี้ได้ จำต้องกล้าเผชิญกับสัจจะ และมีความกล้าหาญทางจริยธรรม โดยถอนตัวออกมาจากความมอมเมาต่างๆ ที่รับกันเรื่อยๆ มา จาก ม.ร.ว. คึกฤทธ์ ปราโมช เป็นต้นมา


 


ขอแสดงความนับถือ


 


(นายสุลักษณ์  ศิวรักษ์)


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net