Skip to main content
sharethis

ตามที่นายชนาภัทร ณ นคร หรือที่รู้จักกันในนาม "เตมูจิน" เป็นผู้ฟ้องร้องต่อกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า มีการตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดประชาไท อันอาจจะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ


 


ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 50 นายประจิณ ฐานังกรณ์ ประธานกลุ่มธรรมาธิปไตย และเป็นผู้เล่นเว็บบอร์ดประชาไท แจ้งข้อมูลความคืบหน้า ผ่านทางเว็บบอร์ด พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่า กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งหมายเรียกพยานเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการตั้งกระทู้ดังกล่าว (ในหมายเรียกพยาน ระบุว่า ผู้ต้องหา "ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด" -ประชาไท, ดูหมายเรียกพยาน)


 


อย่างไรก็ดี หมายนัดเรียกพยานนั้น ระบุวันนัดหมายว่าให้ไปให้ปากคำในวันที่ 4 ต.ค. โดยส่งหนังสือมาทางไปรษณีย์ แต่เนื่องจากนายประจิณไม่ได้อยู่บ้าน และไปรษณีย์ระบุให้ไปรับจดหมายภายใน 15 วัน เขาจึงยังไม่ได้ไปรับในทันที ทำให้ไม่ทราบรายละเอียดและวันนัดหมาย


 


เช้าวันที่ 4 ต.ค. พ.ต.ท.อภิชน เจริญผล พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม โทรศัพท์มาสอบถามเขาว่า ที่นัดไว้มาได้หรือไม่ จึงทำให้เขาเพิ่งได้ทราบว่า มีการส่งหมายเรียกพยาน อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะได้ทราบรายละเอียด ก็เป็นวันที่เลยกำหนดนัดแล้ว ล่าสุด นายประจิณกล่าวว่า ยังไม่ได้นัดวันที่จะไปให้ปากคำกับตำรวจ แต่คาดว่าอาจจะเป็นสัปดาห์หน้านี้


นายประจิณ กล่าวว่า ได้สอบถามกับ พ.ต.ท.อภิชน ว่ากระทู้ที่นายชนาภัทรฟ้องนั้นเป็นกระทู้ใด และได้คำตอบว่า เป็นข้อความในกระทู้เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2549


นายประจิณ จึงลองย้อนไปค้นหาว่า ในวันดังกล่าว ว่าเขาได้ตั้งกระทู้หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดบ้าง พบว่า มีการเขียนถึง "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" (ดูเพิ่มเติม กระทู้ "ความคืบหน้า คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๐")


อย่างไรก็ดี กองบังคับการปราบปราม ได้เรียกนายประจิณเข้าไปให้ข้อมูล ในฐานะ "พยาน" ในคดีข้อความบนเว็บบอร์ดประชาไท อาจจะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งยังไม่ทราบว่า กระทู้ที่นายชนาภัทรอ้างถึงนั้น เป็นกระทู้ใด แสดงความเห็นโดยใคร โดย พ.ต.ท.อภิชนบอกกับนายประจิณเอาไว้ว่า ถ้าข้อความที่อาจจะเข้าข่าย ไม่ใช่เป็นข้อความของนายประจิณ เจ้าหน้าที่ก็จะสอบและลงบันทึกไว้ว่า ไม่ใช่เป็นข้อความของเขา แต่หากข้อความนั้น เป็นของนายประจิณ กระบวนการขั้นต่อไปก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ ที่จะสรุปว่า ข้อความนั้นๆ เข้าข่ายความผิดกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่


เมื่อถามว่า รู้จักกับนายชนาภัทร ณ นคร เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายประจิณ กล่าวว่า เคยชุมนุมต้านรัฐประหารด้วยกันครั้งหนึ่งที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2549 เท่านั้น


 


นายประจิณ แสดงความเห็นต่อกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า คดีนี้น่ากลัว แต่ก็ท้าทาย เพราะคิดว่า คนไทยหลายคนอึดอัดกับคดีอย่างนี้เหมือนกัน น่าจะมีซักคนต่อสู้คดีนี้แบบยุติธรรมซักตั้ง


 


"โลกเปลี่ยนแล้วไม่ควรมีกฎหมายแบบนี้ ขนาดสมัยพระพุทธเจ้ายังไม่มีกฎหมายแบบนี้ ที่บอกว่าห้ามว่า ตอนที่ออกพรรษา พระพุทธเจ้ายังปวารณากับพระภิกษุ ว่าถ้ามีข้อบกพร่องให้พระภิกษุตำหนิได้ ขนาดพระพุทธเจ้ายังให้ตำหนิได้ ยุคสมัยนี้น่าจะคุยกันได้ ถ้าผิดก็ใช้กฎหมายหมิ่นประมาท ไม่ใช่ห้ามวิจารณ์เลย" นายประจิณ กล่าวและว่า จะลองดูกับคดีนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนไทยในภายภาคหน้า แต่เสี่ยงหน่อย


 


อนึ่ง นายประจิณ ฐานังกรณ์ เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางกระดานข่าวต่างๆ อาทิ ประชาไท ฟ้าเดียวกัน และกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ และส่วนใหญ่ เขามักจะแสดงความคิดเห็น โดยเปิดเผยชื่อสกุล พร้อมทั้งช่องทางต่างๆ ที่ให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงและพูดคุยกับเขากลับได้ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์


 


ทั้งนี้ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีความแตกต่างจากคดีหมิ่นประมาทกรณีทั่วไป ตรงที่คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยินยอมให้ผู้ใดก็ตาม สามารถฟ้องร้องได้ ต่างจากคดีหมิ่นประมาท ที่ผู้ฟ้อง ต้องเป็นผู้เสียหายเท่านั้น


 


 


บางส่วนจาก กระทู้ "ความคืบหน้า คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๐"



 ความคืบหน้า.......

เมื่อวันจันทร์ ที่ ๘ ตุลาคม ๕๐ ผมได้โทรศัพท์ไปปรึกษา พ.ต.ท. อภิชน เจริญผล รองผู้กำกับการกองปราบ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี โดยผมขอถามปรึกษา ๔ คำถาม คือ......

๑.  ในเมื่อทางเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกว่า "หมายเรียกพยาน" ผมสามารถไม่ไปได้หรือไม่ และจะมีความผิดหรือไม่?
๒.  ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ คือ นายชนาภัทร ร้องเรื่องอะไร เป็นข้อความเกี่ยวกับอะไร?
๓.  ถ้าข้อความที่นายชนาภัทรร้องทุกข์กล่าวโทษ ถ้าไม่ใช่เป็นข้อความของผม ผลจะเป็นอย่างไรเพราะผมก็ยังไม่ทราบว่าเป็นข้อความอะไรและผมจะต้องทำอย่างไรต่อไป?
๔.  ถ้าข้อความนั้นบังเอิญเป็นข้อความของผม ผลจะเป็นอย่างไร และในวันที่ผมไปให้ปากคำ ผมจะต้องเตรียมประกันตัวด้วยหรือไม่?

ตามที่ผมถามปรึกษา ใน ๔ ข้อ นี้ กับท่านรอง อภิชน เจริญผล ผมได้รับการตอบคำถามด้วยอัธยาศัยที่ดียิ่ง และท่านยังบอกอีกว่า ถ้ามีข้อสงสัยอะไรถามปรึกษาได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ ผมขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ

คำถามแรก.....
๑.  ในเมื่อทางเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกว่า "หมายเรียกพยาน" ผมสามารถไม่ไปได้หรือไม่ และจะมีความผิดหรือไม่?

คำตอบคือ.....
"ไม่ได้" เพราะจะเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๖๘
"ผู้ใดขัดขืนคำบังคับตามกฎหมายของพนักงานอัยการผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งให้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาง หรือทั้งจำทั้งปรับ"

คำถามที่ ๒......
๒.  ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ คือ นายชนาภัทร ร้องเรื่องอะไร เป็นข้อความเกี่ยวกับอะไร?

คำตอบคือ....
๑.  เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
๒.  เป็นกระทู้ที่ประชาไท เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ย. ๔๙

คำถามที่ ๓........
๓.  ถ้าข้อความที่นายชนาภัทรร้องทุกข์กล่าวโทษ ถ้าไม่ใช่เป็นข้อความของผม ผลจะเป็นอย่างไร เพราะผมก็ยังไม่ทราบว่าเป็นข้อความอะไรเป็นของผมจริงหรือไม่ และผมจะต้องทำอย่างไรต่อไป?

คำตอบคือ.....
ถ้าไม่ใช่เป็นข้อความของผม เจ้าหน้าที่ก็จะสอบและลงบันทึกไว้ว่า ไม่ใช่เป็นข้อความของผม และจะต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ในส่วนของผมก็จะหมดหน้าที่ แต่อาจจะต้องเป็นพยานในคดี

คำถามที่ ๔.....
๔.  ถ้าข้อความนั้นบังเอิญเป็นข้อความของผม ผลจะเป็นอย่างไร และในวันที่ผมไปให้ปากคำ ผมจะต้องเตรียมประกันตัวด้วยหรือไม่?

คำตอบคือ......
ถ้าบังเอิญเป็นข้อความของผม ผมก็ยังไม่ต้องประกันตัว เพราะเกี่ยวกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นคดีที่ละเอียดอ่อนไม่เหมือนกับคดีทั่วไปที่พนักงานสอบสวนสามารถสรุปคดีได้เลย แต่สำหรับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะต้องพิจารณาโดยคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น เป็นผู้สรุปว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ หรือไม่ ดังนั้นจึงต้องรอผลสรุปของคณะกรรมการพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง

เมื่อสิ้นสุดคำถาม ผมได้ขอท่านรอง อภิชน ว่า ผมขอเวลาอีกสักประมาณ ๑ สัปดาห์ ผมจะเข้าไปให้ปากคำ และจะนัดท่านรอง ทางโทรศัพท์ในภายหลัง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net