Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 25 ส.ค.47 2 กมธ.วุฒิฯ เตรียมเชิญนายกฯ -รมว.วิทยาศาสตร์ ให้ข้อมูลนโยบายจีเอ็มโอ หลัง "กรีนพีซ" และนักวิชาการเข้าชี้แจงความไม่พร้อมของไทยต่อการเปิดเสรีจีเอ็มโอ พร้อมแนะเร่งศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของไทย อย่าติดกับวิ่งไล่ตามเทคโนโลยี

คณะกรรมาธิการ (กมธ.)ต่างประเทศ ร่วมกับกมธ.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ได้เชิญ กรีนพีซ และนักวิชาการเข้าชี้แจงข้อมูลจีเอ็มโอ โดยหลังการชี้แจง กมธ.มีมติร่วมกันในการเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายกร ทัพพะรังสี รมว.วิทยาศาสตร์ มาให้ข้อมูลเชิงนโยบาย พร้อมกันนั้นยังมีมติที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรี กำหนดแนวนโยบายให้มีการศึกษาวิจัยจีเอ็มโอในพื้นที่ปิดเช่นเดิม โดยหันมาเร่งส่งเสริมการศึกษาวิจัยความหลากหลายทางชีวิภาพซึ่งเป็นต้นทุนดั้งเดิมของไทย

"เราต้องก้าวให้พ้นออกมา โดยส่งเสริมการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของไทยควบคู่ไปด้วย และอันที่จริงต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจนและเกิดผลในทางปฏิบัติเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะตกหลุมต้องไล่ตามจีเอ็มโออยู่เรื่อยๆ" น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลฯ กล่าว

นายสุรวิทย์ วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า หากจะอ้างเรื่องการพัฒนาการวิจัยจีเอ็มโอ ก็สามารถทำได้ในโรงเรือนปิดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมติครม.เดิมเพื่อให้มีการปลูกในไร่นา เพราะการปลูกในไร่นานั้น จะจำเป็นเฉพาะกรณีที่จะนำพืชนั้นออกมาใช้ประโยชน์ในเชิงการค้าอย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องของการป้องกันการปนเปื้อน และความปลอดภัยต่อบริโภค

"เรามักอ้างว่ามีการใช้ประโยชน์จากจีเอ็มโอมานานแล้ว ซึ่งเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะเราใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์เพื่อมาผลิตยา หรืออาหารเสริม โดยเป็นการสกัดสารบริสุทธิ์ออกมา ไม่มีสารพิษปนเปื้อน ขณะที่พืชจีเอ็มโอเป็นการบริโภคสด รับสิ่งปนเปื้อนทั้งหมด และมีโอกาสเป็นอันตรายในระยะยาว แม้ทดลองแล้วว่าปลอดภัยในหนู เพราะวงจรชีวิตหนูสั้นกว่าคน ที่ผ่านมาเคยมีสารเคมีบางตัวที่พิสูจน์ว่าปลอดภัยในหนู แต่ในระยะยาวกลับทำให้ผู้หญิงแท้งลูก " อาจารย์จากม.เกษตรกล่าว

นายสุรวิทย์กล่าวด้วยว่า นโยบายนี้จะนำไปสู่การเพิ่มต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ เพราะต้องมีการแยกแยะตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนถึงผู้บริโภค การเก็บในไซโลก็ต้องแยกกัน เรื่องนี้ยังไม่มีใครพูดถึงว่าใครจะเป็นคนแบกรับต้นทุน

ด้านนายจิรากรณ์ คชเสนีย์ ผู้อำนวยการกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า นโยบายนี้เป็นการสร้างพันธมิตรของมหาอำนาจในรูปแบบใหม่ คือสหรัฐอเมริกาที่เป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยี และประเทศไทยซึ่งก็ถือเป็นมหาอำนาจด้านเกษตรกรรมโดยเฉพาะข้าว ทำให้พลเมืองโลกไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบริโภคจีเอ็มโอ

รายงานโดย : มุทิตา เชื้อชั่ง
ศูนย์ข่าวประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net