Skip to main content
sharethis

หลังจากผมได้ดันทุรังประกอบสัมมาอาชีวะเป็นเวลาประมาณ 30 ปีตามแนวทางที่ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัย ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแนวทางไปทำการขายอาหารและเครื่องดื่มเพราะรู้ตัวเองว่าไม่มีอะไรดีขึ้นในอาชีพที่ทำมา ถ้าอยากจะรู้ว่าเพราะอะไรวันหลังจะเล่าให้ฟัง

ผมมาเช่าที่ในพื้นที่ซึ่งเขาว่ากันว่าเป็นหนึ่งในหลายทำเลทองของกรุงเทพฯ เปิดเป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่มจนกระทั่งถึงวันนี้เป็นเวลาประมาณ 6 ปี โดยถ้าคิดว่าเป็นอาชีพอิสระปลดแอกจากการเป็นลูกจ้างก็น่าจะใช่ แต่เชื่อไหมครับว่าด้วยความเป็นจริงแล้วสมัยก่อนผมมีนายจ้างเพียงคนเดียวซึ่งส่วนใหญ่ก็คือผู้จัดการบริษัทที่ผมทำอยู่ แต่ในปัจจุบันนี้กลับมีกลุ่มคนที่ยิ่งใหญ่กว่านายจ้างสามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับกิจการของผมมากกว่า 1 กลุ่ม ผมจะเรียงลำดับให้อ่านแต่พอสังเขปดังนี้

กลุ่มแรกคือ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขของกรุงเทพมหานคร ท่านเหล่านี้จะมีบทบาทตั้งแต่ผมเริ่มเปิดดำเนินกิจการเพราะว่าต้องขอใบอนุญาตจากท่าน และท่านเหล่านี้ก็เป็นห่วงในสุขอนามัยของผู้บริโภคมาก ดังนั้นก่อนที่จะออกใบอนุญาตให้กับทางร้านเพื่อประกอบกิจการก็ต้องยกทีมมาช่วยกันตรวจช่วยกันชิมว่ามีความสะอาดเพียงพอหรือไม่ เบียร์บูด เหล้าเสียหรือเปล่า เป็นต้น ชิมกันแล้วชิมกันเล่าจนแน่ใจแล้วก็จะออกใบอนุญาตซึ่งเป็นใบอนุญาตปีต่อปี และในช่วงดำเนินกิจการอยู่ก็จะแวะเวียนมาชิมกันเป็นระยะๆ พอสิ้นปีใบอนุญาตหมดอายุต้องรีบไปต่อถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่มาชิมอย่างเดียวแล้วจะต้องมีค่ารถค่าน้ำมันด้วย

กลุ่มที่สอง คือกลุ่มเจ้าหน้าที่สรรพากร ท่านเหล่านี้จะตามหลังกลุ่มแรกมาไม่นานมากนักแต่ท่านจะเลือกเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสิ้นเดือนชาวบ้านชาวช่องเงินเดือนเขาออกก็จะมากินกันเต็มร้าน ท่านเหล่านี้จะมากันตั้งแต่ประมาณ 11.00 นาฬิกาป็นทีมใหญ่ประมาณ 6 คน เดินเข้ามาที่ร้านหัวหน้าชุดก็จะแสดงตัวแบบหนังแอ็คชั่นของฝรั่งคือแสดงบัตรประจำตัวจะต่างกันตรงที่ไม่พูดว่า "FBI" แต่จะพูดว่า "สรรพากร" แล้วจะแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ 1 คนไปคุมที่พนักงานรับออร์เดอร์อาหารจากลูกค้า ทุกๆใบจากพนักงานเสิร์ฟเขาจะเก็บเอาไปจดรายละเอียดก่อนแล้วจึงจะคืนให้ อีก 1 คนไปคุมหลังแคชเชียร์เก็บรายละเอียดทั้งหมดจากเครื่องแคช ( เครื่องบันทึกรายการรับเงินที่จะต้องมีรายละเอียดสารพัดอย่างตามระเบียบของสรรพากรและรวมทั้งออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ด้วย ) อีก 4 คนปฏิบัติงานตามหลักยุทธวิธีของนโปเลียนที่บอกว่ากองทัพเดินทางด้วยท้อง กล่าวคือสั่งต่อโต๊ะและสั่งอาหาร ทั้ง 6 คนก็จะสลับกันไปจดข้อมูลและสลับกันมานั่งกินจนกระทั้งเกือบ 17 : 00 นาฬิกาเขาก็เอาข้อมูลมาสรุปกัน ผมเองก็คิดว่าเรื่องราวคงจะจบ แต่ที่ไหนได้เขารวมข้อมูลเพื่อส่งให้ชุดที่ 2 ซึ่งมารับช่วงต่อ แต่ชุดนี้มาแปลกมีลูกหลานในเครื่องแบบนักเรียนติดตามมาด้วยหลายคน เข้าใจว่าคงจะรับลูกที่โรงเรียนก่อนและไม่มีเวลาไปส่งที่บ้านต้องรีบมาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ชุดกลางวันส่งงานแล้วก็กลับแต่คงแวะซื้อกับข้าวที่ตลาดไม่ทัน ก็เลยมีการสั่งอาหารห่อกลับบ้านไปบ้าง ส่วนชุดที่ 2 ที่มารับงานก็สั่งเคลียร์ของเก่าออกจากโต๊ะและเริ่มสั่งอาหารชุดใหม่ ( รวมอาหารเด็กๆด้วย ) เหตุการณ์ผ่านไปจนกระทั่ง 2 ทุ่มเศษๆ ภรรยาของผมไปแอบยืนร้องไห้อยู่ในครัว เพราะว่าเดือนหนึ่งๆ จะขายดีกันบ้างก็เฉพาะต้นเดือนแค่นั้น นอกจานั้นบางวันแทบจะนั่งตบยุงก็มี ผมเองก็รู้ตัวว่าความอดกลั้นเริ่มจะหมดแล้วก็รวบรวมความกล้าเท่าที่จะมีเดินไปแสดงความเคารพทุกๆท่านและสอบถามจุดประสงค์ว่าทำกันอย่างงนี้เพื่ออะไร และทำไม่ต้องตรวจสอบกันตอนสิ้นเดือนท่านหัวหน้าทีมงานก็อธิบายให้ทราบว่า ในพื้นที่ของท่านนั้นทางกรมตั้งเป้าไว้ว่าต้องเก็บภาษีให้ได้ยอดรวมประมาณเค่นี้ ก็จำเป็นที่จะต้องทำความรู้จักกับห้างร้านต่างๆและโดยเฉพาะร้านอาหารนั้นเป็นวิธีปฏิบัติว่าจะเก็บข้อมูลกันตอนสิ้นเดือน และจะได้นำข้อมูลนี้ไว้ "พูดคุยกัน" ท่านได้กรุณานัดแนะให้ผมและคนทำบัญชีไปพบที่เขตเมื่ออาหารที่สั่งห่อเสร็จเรียบร้อยพวกท่านก็กลับ และหลังจากนั้นอีก 2 วันผมและคนทำบันชีก็ไป "พูดคุยกัน" กับท่านที่เขต จากที่ได้ "พูดคุยกัน" กับท่านผมเองก็ยอมรับว่าตื้นตันในควมช่วยเหลือและความกรุณาของท่านจนน้ำตาแทบเล็ด เพราะว่า ผัก ผลไม้ หมู เห็ด เป็ด ไก่ ฯลฯ ทั้งหลายแหล่จากตลาดสดน่ะไม่มีใบเสร็จรับเงินมาเคลียร์เป็นรายจ่ายต้นทุน ดังนั้นการตรวจบัญชีเพื่อจ่ายภาษีเดือนละไม่ต่ำกว่าแค่นี้นะ และอื่นๆ แค่นี้นะ นี่พยายามช่วยเหลือเต็มที่แล้วนะ รับได้ไหม.....ด้วยความตื้นตันได้ครับ นี่เป็นแค่การเริ่มต้นตอนเปิดร้านใหม่ๆนะรับ ตลอดเวลา 6 ปีที่ผ่านมาท่านจะกรุณายกทีมมาเยี่ยมทางร้านสมอๆ ท่านขยันจริงๆครับ ตอนนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ.....

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net