จีเอ็มโอ? : ภาพมะละกอพันธุ์แขกดำท่าพระในแปลงของเกษตรกรรายหนึ่งในอ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งคณะกรรมการสิทธิฯ เก็บมาเป็นตัวอย่างเพื่อตรวจสอบการปนเปื้อนจีเอ็มโอ เมื่อ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา

ประชาไท - 9 ก.ย. 47 กรรมการสิทธิฯ เตรียมเสนอผลการตรวจมะละกอจีเอ็มโอพร้อมทางออกให้นายกฯ วันจันทร์หน้า อ้างแถลงข้อมูลก่อนอาจโดนกล่าวหาว่าทำภาคส่งออกเสียหาย ขณะที่เครือข่ายเกษตรฯ จับมือพันธมิตรทั่วประเทศตรวจมะละกอจีเอ็มโอ

"เราประชุมกันแล้วได้ข้อสรุปว่าจะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ต่อนายกฯ พร้อมทั้งนำเสนอทางออก ก่อนที่จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา เช่น กรรมการสิทธิฯ ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ส่งออก" นายบัณฑูรย์ เศรษฐศิโรตม์ อนุกรรมการฐานทรัพยากรป่าเขตร้อน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวกับ "ประชาไท"

ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิฯ ส่งตัวอย่างไปตรวจที่ห้องทดลองของมหาวิทยาลัยมหิดล และส่งตรวจสอบซ้ำอีกครั้งที่ห้องทดลองของศูนย์พันธุวิศกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) หลังลงพื้นที่สุ่มเก็บตัวอย่างเมล็ดและใบของมะละกอจากแปลงเกษตรกรในพื้นที่อ.พล จ.ขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้รับต้นกล้ามะละกอแขกดำท่าพระจากสถานีทดลองพืชสวนไปปลูกก่อนจะเกิดกระแสข่าวขึ้น (อ่านรายละเอียดได้ในรายงานพิเศษ "แกะรอยมะละกอ(จีเอ็มโอ)เจ้าปัญหา" วันพรุ่งนี้)

ก่อนหน้านี้(8 ก.ย.) เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกและพันธมิตร จ.ขอนแก่น กล่าวยืนยันกับคณะผู้สื่อข่าวที่เดินทางมาดูงานในแปลงทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโอ ของสถานีทดลองพืชสวน อ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น โดยอ้างข้อมูลฯวงในว่า ผลตรวจตัวอย่างมะละกอของคณะกรรมการสิทธิฯ มีการปนเปื้อนจริง

อย่างไรก็ตาม ทางอธิบดีกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่างออกมาระบุว่า ไม่มีการหลุดรอดของมะละกอจีเอ็มโอแน่นอน เพราะการศึกษาวิจัยมีเป็นไปอย่างรัดกุม และสถานีทดลองพืชสวนไม่เคยขายเมล็ดพันธุ์มะละกอจีเอ็มโอแต่อย่างใด

สำหรับความเคลื่อนไหวของฝ่ายคัดค้านการเปิดเสรีจีเอ็มโอ โดยวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.) องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย(ไบโอไทย) สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และเครือข่ายเกษตรทางเลือก 4 ภาค จัดแถลง "โครงการตรวจสอบมะละกอจีเอ็มโอโดยองค์กรภาคประชาสังคม" ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ถ.งามวงศ์วาน

ยัน 2,600 รายชื่อไม่ใช่ต้นฉบับ
ส่วนข้อสงสัยเกี่ยวกับรายชื่อผู้ซื้อเมล็ดพันธุ์จากสถานีทดลองพืชสวน จ.ขอนแก่น ที่ทางกรมวิชาการเกษตรให้แก่คณะกรรมการสิทธิฯ และกรีนพีซระบุว่าไม่ใช่เอกสารตัวจริงนั้น นายบัณฑูรย์กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่สำเนาบันทึกหรือต้นขั้วใบเสร็จ แต่เป็นการคัดลอกรายชื่อมาใส่ในตารางอีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นรายชื่อตั้งแต่ปี 2546 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2547 ซึ่งมีทั้งที่เป็นลายมือและเป็นตัวพิมพ์

"เท่าที่ดูอย่างคร่าวๆ พบว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดทางภาคอีสาน รวมทั้งภาคอื่นๆ บ้าง" นายบัณฑูรย์กล่าว

รายงานโดย : มุทิตา เชื้อชั่ง
ศูนย์ข่าวประชาไท