พล.ท.เรวัตร รัตนผ่องใส "เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงมาก"

นายทหารที่เข้ามารับผิดชอบคลี่คลายสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ดูจะได้รับความยอมรับจากคนในพื้นที่มากที่สุด หากเทียบกับนายทหารคนอื่นๆ ย่อมเป็นนายทหารมุสลิม ชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ที่ผ่านมา ในตำแหน่ง "รองเลขาธิการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้" นาม "พล.ท.เรวัตร รัตนผ่องใส"

ความเห็นของนายทหารนอกราชการผู้นี้ ต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ส่งผลให้ชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสล้มตายถึง 85 คน เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ย่อมกล่าวได้ว่า เป็นความเห็นที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายควรรับไปพิจารณาอย่างยิ่ง
ต่อไปนี้ คือ ความเห็นของ "พล.ท.เรวัตร รัตนผ่องใส" ต่อเหตุอันชวนสลดใจอย่างยิ่งคราวนี้
…………………….

เหตุการณ์ครั้งนี้ หนัก หนักมาก หนักเพราะที่ผ่านมารัฐเดินมาผิดทาง ผิดที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น พอมาคราวนี้ รัฐยิ่งทำผิดอย่างร้ายแรง ความผิดมาจากตัวของนายกรัฐมนตรีเอง ที่ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวว่า ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ความรุนแรง

คนที่เขามาประท้วง เขาเป็นคนไทยด้วยกันหรือเปล่า เขาเป็นคนไทย เขามีสิทธิรวมตัวกันมาชุมนุม ไม่ว่าจะเขามาอย่างไร ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม

เขามาเพราะมีคนไปปลุกระดมว่า มีคนมุสลิมถูกรังแกอยู่ที่ตากใบ ชาวบ้านที่ได้ฟังก็เชื่อ ก็ออกมาชุมนุมกัน เมื่อรวมตัวกันมากๆ เข้ามาอยู่ในที่ชุมนุมแล้ว เหตุการณ์ก็พาไป เจ้าหน้าที่ก็ไปจับกุมตัวไว้ ตั้ง 1,300 กว่าคน

คนที่ถูกจับ ถูกโยนใส่รถนำไปควบคุม จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตถึง 78 คน เป็นความประมาท ความไม่รอบคอบ เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงมาก ผมฟังข่าว ดูข่าวแล้วตกใจมาก ชีวิตของคนทุกคนมีค่า จะทำกันเหมือนหมูเหมือนหมาไม่ได้

การกระทำของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ใช้ความรอบคอบ ถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่า ลำพังแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ทำแบบนี้แน่ ถ้าไม่มีการส่งสัญญาณจากผู้มีอำนาจข้างบน ต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่าง มีวิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่น้อย เขารับคำสั่งมา เขาก็ต้องทำตามหน้าที่

หากข้างบนไม่มีส่งสัญญาณอะไรออกมาก่อน เขาคงไม่จับตัวผู้ชุมนุมมาก ถึง 1,300 กว่าคน อาจจับเพียงแกนนำ 2 - 300 คนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปแออัดยัดเยียดจนขาดอากาศหายใจตายกันเกือบร้อยศพแบบนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะไปโทษเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่ได้ เพราะสัญญาณที่ส่งมาจากข้างบน บอกให้ใช้ความเด็ดขาด ตรงนี้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่มาจากส่วนกลาง ต้องเข้าใจด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่อง มีปมประเด็นซับซ้อน คนที่ต้องการให้ปัญหาขยายวงออกไปมันมีอยู่

เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ปัญหามันก็ขยายวงกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น ต่อไปจะมีคนเข้าไปปลุกจิตสำนึกความเป็นอิสลามมากขึ้น คนพวกนี้จะไปบอกกับชาวบ้านว่า …
เห็นมั้ย พี่น้องมุสลิมถูกฆ่าตายมากมาย พอเป็นแบบนี้ ชาวบ้านจะยิ่งออกมาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เจ้าหน้าที่ของรัฐ

ชาวบ้านเขาไม่มองว่า ผิดหรือถูก เพราะเขาเป็นมุสลิมด้วยกัน ต้องออกมาช่วยกัน พอเป็นแบบนี้ ปัญหาจะยิ่งบานปลาย ยิ่งจะเกิดความแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกันมากขึ้น
แบบนี้ มันเดินเข้าทางของกลุ่มที่เขาต้องการให้เกิดความแตกแยก

เหตุการณ์นี้ รัฐบาลถลำลึกมากไปแล้ว ผมว่าผู้บริหารประเทศนี้ "โง่นะ" ถ้าข้างบนไม่ส่งสัญญาณลงมา เจ้าหน้าที่คงไม่ถูกบีบให้จับผู้ชุมนุมยัดใส่รถ ขนไปที่ไกลๆ
มันไม่ต้องขนไปไกลขนาดนั้น ใช้สถานที่ใกล้ๆ ก็สามารถแยกแยะได้ว่า ใครเป็นใคร c8jเป็นที่ที่เหมาะสม สอบสวนแล้วพบว่า ไม่เกี่ยวข้องก็ปล่อยตัว เขาเป็นคนไทย เขาไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาต ที่จะไปทำกับเขาอย่างนั้น ตายถึง 78 ศพ น่าตกใจมาก

การกระทำของเจ้าหน้าที่ ไม่เข้าข่ายเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะไม่ใช่การกราดยิง ถ้าแบบนั้นเกินกว่าเหตุแน่ ผมคิดว่า เป็นความบกพร่อง ผิดพลาด ประมาทเลินเล่อ ด้วยความไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

คนที่มาบางคน อาจถูกชักชวนมา หรือตั้งใจแค่มาดูคนชุมนุมกัน ผมถามว่าคนเหล่านี้ ผิดมั้ย เมื่อเข้าไปดูก็ไหลเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ จนพลอยถูกจับด้วย

การจับกุมกันแบบนี้ ถือว่าเป็นการจับแบบเหวี่ยงแห เท่านั้นไม่พอ ยังเอาตัวไปสอบที่ไกลๆ อีก คิดดูคนที่ถูกจับถูกมัดไพล่หลัง จับโยนใส่รถแล้วให้นอนคว่ำ แม้แต่จะขยับตัวเพื่อหายใจยังทำไม่ได้ จะไม่ให้ขาดอากาศหายใจได้อย่างไร
แล้วออกมาบอกว่า ไม่ได้ตายเพราะถูกยิง เอ้า! ถ้าเขาถามว่า ทำไม ถึงได้ขาดอากาศหายใจ จะตอบเขาอย่างไร

ถ้าเป็นผมนะ ผมจะควบคุมตัวเอาไว้ในโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ หรือที่สนามกีฬา มีที่นั่งเพียงพอ ควบคุมง่าย ยิ่งช่วงนี้เดือรอมฏอน สอบสวนที่นั่นได้เลย
ไม่ต้องมาอ้างว่า ต้องปฏิบัติตามกฎอัยการศึก ต้องควบคุมตัวไว้ 7 วัน ไม่จำเป็นต้องควบคุมตัวนานขนาดนั้น ไม่ควบคุมตัวเลยก็ยังได้ มันอยู่ที่การใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่รัฐ สอบสวนแล้ว ถ้าจับกุมถูกตัว ก็แจ้งข้อหาไปเลย เหตุการณ์เสียชีวิตมากแบบนี้ ก็จะไม่เกิด

การแก้ปัญหาต่อไปนี้ ยุ่งยากขึ้นแน่นอน เอาง่ายๆ คือ คนตาย 1 คน มีญาติอีกอย่างน้อย 10 คน หรือ 20 คน แค่แต่ละคนไปปลุกจิตสำนึกอิสลามขึ้นมา ไปบอกพรรคพวกเพื่อนฝูงว่า พี่น้องมุสลิมถูกทำร้ายกับคนอื่นๆ อีกรายละ 50 คน มันก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆ

แม้จะออกมาชี้แจงว่า ตายอย่างไร ใครขาจะเชื่อ งานนี้เป็นการเพิ่มศัตรูโดยประมาท ผมโกรธที่เกิดเรื่องอย่างนี้
คนที่เขามาประท้วง เขามาแต่ปาก บางคนแค่มาดู พอสลายการชุมนุมมันก็ชุลมุน ไม่รู้ใครเป็นใคร ระหว่างสลายการชุมนุม อาจจะมีคนตายบ้าง 5 - 6 คน หรือบาดเจ็บ 100 คน ก็ยังพอรับกันได้ แต่พอตายกันมากถึง 78 ศพ มันกลายเป็นเรื่องน่าหดหู่

ผมคิดว่า ถ้าจะแก้ปัญหานี้ ต้องเอาคนที่เข้าใจพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จริงๆ เท่านั้น เข้ามารุกทางการเมือง ใช้งานการเมืองเป็นบรรทัดฐาน

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท