ประชาไท-10 พ.ย. 47 นายจายจาย ชาวไทใหญ่ จากกลุ่มปกป้องแม่น้ำสาละวิน(Salween Watch) ซึ่งติดตามโครงการสร้างเขื่อนท่าซางในรัฐฉาน ประเทศพม่า กล่าวถึงความคืบหน้าว่ามีการเลื่อนการทำสัญญาของบริษัทไทยสวัสดิ์เพื่อสร้างถนนจากเมืองโต๋น ฝั่งไทยคือ หมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปยังท่าซาง เพื่อขนอุปกรณ์การก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าเกิดจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของพม่าในช่วงที่ผ่านมา โดยกลุ่มอื่นๆที่เข้าไปดำเนินการก่อนหน้านี้ก็ยุติไปแล้วเช่นกัน

"หากมีการตัดถนนจะทำให้กลุ่มที่อาศัยอยู่บริเวณที่ถนนตัดผ่าน เช่น มูเซอ ต้องย้ายออกจากพื้นที่ และจะมีการเพิ่มกองกำลังทหารเข้ามาเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้มีการเกณฑ์แรงงานและเพิ่มภาระให้ชาวบ้านมากขึ้นแน่นอน" นายจายจาย กล่าว

บริษัทไทยสวัสดิ์เป็นบริษัทของไทยที่ทำการค้าขายชายแดน และเคยได้รับสัมปทานไม้ในรัฐฉานมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว

เขื่อนท่าซาง จะสร้างกั้นแม่น้ำสาละวินในรัฐฉาน ประเทศพม่า ศึกษาโดยบริษัทนิปปอน โคเออิจากญี่ปุ่น ประกอบด้วยเขื่อนตอนบนและตอนล่าง กำลังผลิต 3,600 เมกกะวัตต์ สันเขื่อนสูง 188 เมตร ซึ่งจะเป็นเขื่อนที่มีความสูงมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้งบประมาณการก่อสร้างประ มาณ 120,000 ล้านบาท โดยกระแสไฟฟ้าจะขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

วันที่ 20 ธ.ค. 45 บริษัท MDX ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลทหารพม่า และวันเดียวกันบริษัทแห่งหนึ่งของไทยได้ทำสัญญารับเหมาทำถนนจากท่าซางสู่จุดสร้างเขื่อนระยะทาง 15 กม.
และมีการเพิ่มกำลังทหารเข้ามาประจำการในจุดที่จะมีการสร้างเขื่อนเพิ่มมากขึ้น

ตั้งแต่เดือนมี.ค. 39 เป็นต้นมามีการบังคับโยกย้ายถิ่นฐานชาวบ้านในเขตภาคกลางของรัฐฉาน ซึ่ง 50 หมู่บ้านหรือประมาณ 2,000 ครอบครัว ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำปางซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำสาละวิน ที่คาดว่าจะถูกน้ำท่วมหากมีการสร้างเขื่อนท่าซาง

จันลอง ฤดีกาล
ประชาไทรายงาน