ประชาไท-10 พ.ย. 47 จากที่มติครม.เมื่อวันที่ 2 พ.ย.เห็นชอบตามมติครม.เดิมวันที่25 ก.ค.43เรื่องการแก้ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลคือ 1.ให้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 7 บานในฤดูแล้งเป็นเวลา 8 เดือน และเปิดประตูระบายนั้นทั้ง 7 บานในฤดูฝนเป็นเวลา 4 เดือนเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำของประชาชนและระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน เฉพาะในปี 2547 นี้

โดยมอบหมายให้ผวจ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ และ จ.ร้อยเอ็ดแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม 1 ชุด โดยมีผู้ว่าฯศรีสะเกษ เป็นประธาน ส่วนหน่วยงานภาครัฐเอกชนและประชาชนเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดช่วงเดือนที่เปิดปิดและระดับน้ำที่สมควรกักเก็บ สำหรับปีต่อไปให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวรายงานผลการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขณะนี้เสนอครม.พิจารณาความเหมาะสมในการเปิดปิดฝายราษีไศลต่อไป

เมื่อเวลา 12.00 น. นายสุข จันทร สมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนราษีไศลจากจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และร้อยเอ็ด ประมาณ 12 คน ได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษเพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯคัดค้านการปิดประตูระบายน้ำ

"เรายังไม่อยากให้ปิดประตูเขื่อนเพราะการรังวัดและชดเชยค่าเสียหายยังไม่เสร็จสิ้น นอกจากนี้ปัญหาต่างๆที่เกิดก็ยังไม่ได้แก้ไข" นายสุข กล่าว

เนื่องจากผู้ว่าฯอยู่ระหว่างการประชุมเรื่องภัยแล้ง จึงมีตัวแทนผู้ว่าฯ มารับหนังสือและผู้อำนวยการชลประทาน จ.ศรีสะเกษ ได้กล่าวกับกลุ่มผู้มายื่นหนังสือว่ายังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการปิดประตูระบายน้ำ โดยต้องมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ทั้ง 3 จังหวัดและตัวแทนชาวบ้านก่อน

ปิ่นแก้ว อุ่นแก้ว
ประชาไทรายงาน