กรุงเทพฯ-13 พ.ย.47 "การปราบปรามของเจ้าหน้าที่ขณะนั้นคำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์มากที่สุดเป็นเหตุให้ผู้ก่อการร้ายทั้ง 32 คนเสียชีวิตทั้งหมด ดังนั้นหากขณะนี้ยังอยู่ในพื้นที่ไม่ถูกย้ายมาก่อนเชื่อว่าผู้ก่อการร้ายจะต้องลดลงหรืออาจหมดไปอย่างแน่นอน" พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวในการเสวนาเรื่องไฟใต้ ศาสนา ยาเสพติด ขบวนการกู้ชาติหรือการก่อการร้ายสมัยใหม่ ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนมาก ถือเป็นปัญหาของประเทศ ชาติที่ทุกคนควรช่วยกันแก้ปัญหา ทั้งนี้อดีตที่ผ่านมาหากรัฐบาลอ่อนแอจะเกิดปัญหาภาคใต้ขึ้นทุกครั้ง และปัจจุบันผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาทั้งสิ้น โดยเห็นได้จากกรณีที่มัสยิดกรือเซะ และอีก 10 จุดที่ถูกโจมตีพร้อมกันวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไว้ได้ 10 จุดซึ่งผู้ที่จะทำได้จะต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

ด้านนายอรัญ ปานเจริญ รักษาการประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม กล่าวว่า ขบวนการก่อการร้ายมีมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากประชาชนในพื้นที่จึงพยายามหาทุนจากกลุ่มทุนต่างชาติเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ซึ่งสาเหตุที่แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาที่สะสมมานานไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่าที่ควร

ขณะที่นายบรรจง โซ๊ะมณี ประธานมูลนิธิเพื่อคุณธรรม กล่าวว่า รัฐบาลควรส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งส่งเสริมการศึกษาให้มากขึ้น เนื่องจากปัญหาภาคใต้ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะจากชาวมุสลิมบางกลุ่มไม่สนใจที่จะเรียนรู้ภาษาอื่นนอกจากภาษายาวีที่เป็นของชาวมุสลิมเท่านั้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเพราะเมื่อไม่รู้ภาษาทำให้ง่ายต่อการถูกชักจูงเป็นส่วนหนึ่งให้ก่อความไม่สงบในพื้นที่เกิดขึ้นได้

ประชาไทรายงาน