Skip to main content
sharethis

กรณีโรงแรมหรู 5 ดาว "แมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี เชียงใหม่" ทุนเสือข้ามห้วยจากเมืองปักษ์ใต้ "ปัตตานี" จำลองวัดและสถาปัตยกรรมล้านนาอันทรงคุณค่าของภาคเหนือหลายแห่ง หลายชิ้น มาสร้างเป็นจุดขายอวดสายตาชาวโลก กลายเป็นกรณีวิพากษ์ที่มีเส้นแบ่งทางความคิดอันบางเฉียบ แต่แหลมคมในกระแสความขัดแย้งทางความคิดหลายมิติ ทั้งกระแสทุนนิยม - การตลาด เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความงดงามทางศิลปะ - สถาปัตยกรรม ฯลฯ

ความเหมาะสม และไม่เหมาะสมอยู่ตรงไหน และเจตนาของการกระทำที่แท้จริง คืออะไร กฎเกณฑ์ที่จะสร้างดุลยภาพ ของกรณีความขัดแย้งทางความคิดอยู่ตรงจุดใด ยังคงเป็นความกังขาที่คนในสังคมเมืองเหนือกำลังรอคำตอบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายแถลงไข

เพราะหากแต่ละฝ่ายมองกันคนละมุมและเป็นมุมที่สุดโต่ง ทางออกที่ลงตัวและเป็นเหตุเป็นผลก็คงไม่เกิดขึ้นและอาจจะกลายเป็นปัญหาที่หาข้อยุติไม่เจอ ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน มุมมองภาคเอกชน-ภาคธุรกิจ มองต่างมุมในประเด็นนี้หรือไม่อย่างไร "พลเมืองเหนือ" มีบทสะท้อนมานำเสนอ

"มาสเตอร์พีช" จุดขายโรงแรม 5 ดาว

บุญเลิศ เปเรร่า นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ มีมุมมองส่วนตัวที่แตกต่างว่า

"ต้องถามสังคมให้ชัดเจนอีกครั้งว่า ประเด็นที่พูดถึงกันอยู่เวลานี้เป็นปัญหาหรือเปล่า แต่ในส่วนหนึ่งผมมองว่า เรากำลังยึดติดกับวัตถุมากเกินไปหรือไม่ จริง ๆ แล้วคุณค่าของศาสนาอยู่ตรงไหนกันแน่ เราศรัทธาอะไรในศาสนาพุทธ เท่าที่ผมเคยเข้าไปสัมผัสภายในโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี เชียงใหม่ การจำลองศิลปวัฒนธรรมทางภาคเหนือเขาไม่ได้มีเจตนาที่ลบหลู่หรือไม่เคารพแต่อย่างใด และเท่าที่เคยพูดคุยกับเจ้าของทุน นี่คือความตั้งใจของเขาที่อยากนำศิลปวัฒนธรรมที่ดีที่สุดระดับมาสเตอร์พีชของล้านนามาอวดสายตาชาวต่างชาติ ซึ่งน่าจะได้รับคำชมเชย ผมไม่คิดว่าประเด็นนี้เป็นปัญหา ผมมองเป็นเรื่อง ART เป็นเรื่องศิลปะมากกว่า"

บุญเลิศ บอกว่า รูปแบบการนำเสนอจุดขายของโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ละแห่งจะมีวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของแต่ละพื้นถิ่น เข้ามาผูกโยงเป็นเรื่องราว เพราะถือว่าเป็นจุดขายสำคัญที่ลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ กรณีของโรงแรมดาราเทวีก็เช่นเดียวกัน เป็นการนำเอาจุดแข็งและสร้างจุดขายที่แตกต่าง แต่ขณะนี้ประเด็นที่สะท้อนออกมามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องหาทางออกที่ดีที่สุดและประณีประนอมกันมากที่สุดด้วยเช่นกัน

เขายอมรับว่า มีความเป็นไปได้มากทีเดียว ที่ประเด็นดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนที่คิดจะมาลงทุนสร้างโรงแรมในเชียงใหม่ ต้องมองเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการนำศิลปวัฒนธรรมของภาคเหนือหรือล้านนา มาใช้เป็นงานตกแต่งเพื่อดึงดูดลูกค้าต่างชาติ และอาจพิจารณาเป็นปัจจัยความเสี่ยงในการลงทุนก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมั่นใจว่าประเด็นดังกล่าวคงไม่มีกระทบมากถึงขั้นทำให้กลุ่มทุน 5 ดาว ที่เตรียมเข้ามาลงทุนในเชียงใหม่ต้องชะงักหรือชะลอการลงทุนแน่นอน

เจตนา-ความเหมาะสม
ความจริงที่ต้องเปิดเผย

ณรงค์ ตนานุวัฒน์ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ยอมรับว่าปัจจุบันมีการนำศิลปวัฒนธรรมล้านนาไปผูกโยงในเชิงธุรกิจมากขึ้น ส่วนกรณีของโรงแรมดาราเทวี นั้น เป็นประเด็นที่ต้องมองในเรื่องเจตนาและความเหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญว่า การจำลองวัดหรือนำศิลปวัฒนธรรมทางล้านนามาสร้างภายในโรงแรมให้เป็นจุดขายนั้น มีเจตนาอย่างไร ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ขณะเดียวกัน หากมองในเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ก็คงต้องพิจารณางานแต่ละชิ้นที่ทำออกมาว่าจุดประสงค์สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร เพราะขณะนี้แต่ละฝ่ายยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จึงเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องทำให้เกิดความเข้าใจในเจตนาของทั้งสองฝ่าย โดยหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะองค์กรที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ-ภาคธุรกิจ-ภาคเอกชน ก็พร้อมที่จะเป็นผู้ประสานความร่วมมือ เพื่อให้ได้ทางออกที่ลงตัวที่สุด

"หลายคนมองว่าการลอกเลียนแบบหรือจำลองวัดไว้ในโรงแรม เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะวัดในเจตคติของคนทางเหนือมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นความเชื่อ และมองว่าโรงแรมเป็นสถานที่อโคจร ขณะที่ในมุมมองของกลุ่มทุนอาจมองไปที่เรื่องการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมที่เด่นของล้านนา นำเสนอออกมาให้ชาวต่างชาติได้รู้ในวิถีชีวิตแบบไทย ซึ่งเป็นการมองในมุมที่ต่างกัน แต่เป็นมุมต่างที่ต้องรับฟังและเคารพในเหตุผลของกันและกัน"

เลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ขณะนี้เชียงใหม่คือเป้าหมายการลงทุนหลัก ที่กลุ่มทุนไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือการลงทุนด้านอื่น ๆ สนใจขยายฐานการลงทุนเข้ามามาก ซึ่งยอมรับการมีทุนเข้ามา เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ GPP ของจังหวัดขยายตัว และส่งผลดีในเรื่องการจ้างงาน การดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนภายในจังหวัดย่อมสูงขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้ประเด็นความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นในเวลานี้ มีข้อยุติที่สร้างสรรค์และสมเหตุสมผลมากที่สุด เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการลงทุน

ยึดแก่นแท้ศาสนา...อย่ายึดติดวัตถุ

สุรชัย เลียวสวัสดิพงศ์ เจ้าของร้านอาหาร เดอะ แกลลอรี่ แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า

"คงต้องแยกแยะประเด็นศาสนากับสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมให้ออก เพราะตอนนี้เรากำลังเล่นกับศาสนา ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้คนยึดติดในวัตถุ แต่แก่นแท้ของศาสนาที่แท้จริงคือหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่างหาก และสังคมก็ไม่ควรพิพากษาว่าการจำลองหรือเลียนแบบวัดหรือสถาปัตยกรรมไว้ในโรงแรมเป็นการลบหลู่ศาสนา ในอีกด้านอาจมองได้ว่านี่เป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่สิ่งที่มีค่าของเราให้ต่างชาติได้รับรู้ ซึ่งเชื่อว่าชาวต่างชาติที่ได้สัมผัสหรือเยี่ยมชม มีวุฒิภาวะมากพอว่าสิ่งใดคือของจริงและสิ่งใดคือของปลอม"

เขาบอกว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าประเด็นที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของศิลปะ ที่ต้องดูเจตนาของการถ่ายทอดออกมาว่ามีจุดประสงค์อะไร เพราะปัจจุบันกระแสของการลอกเลียนแบบศิลปวัฒนธรรมเพื่อธุรกิจการค้า ได้แผ่ขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้ลอกเลียนแบบ อาจมีความพึงพอใจและสร้างจินตนาการในงานศิลปะนั้น ๆ และต้องการถ่ายทอดออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะเช่นเดียวกัน

สำหรับทางออกของปัญหาดังกล่าว เขามองว่า ต้องมาพิจารณากันให้ถ่องแท้ว่าหลักศาสนาพุทธที่แท้จริงนั้นคืออะไร ไม่ควรมองในสิ่งที่เป็นวัตถุภายนอกเป็นประเด็นหลัก ซึ่งการลงทุนของโรงแรมดาราเทวีใช้เงินเป็นหลักพันล้านบาท นั่นย่อมแสดงว่าเขามีความตั้งใจจริงที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เป็นศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของล้านนาออกมาอวดสายตาชาวโลก ซึ่งแต่ละฝ่ายไม่ควรนำประเด็นดังกล่าวมาสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น เพราะเวลานี้ควรหันหน้าเข้าหากันร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งในภาคใต้จะดีกว่า

โรงแรมอันดับ 1 ของโลก

วรพงษ์ หมู่ชาวใต้ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ กล่าวว่า ในมุมมองของภาคเอกชนในวงการโรงแรมและท่องเที่ยว ได้หารือกันในประเด็นนี้เช่นเดียวกัน และเห็นสอดคล้องกันว่าเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลที่จะพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ไม่ควรพิพากษาว่าเขาผิด เพราะในข้อเท็จจริงเชื่อว่าเจ้าของทุนไม่มีเจตนาจะลบหลู่ศาสนา เพียงแต่เป็นความตั้งใจที่จะสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้ชาวต่างชาติได้เห็น

"ก่อนหน้านี้ผมเคยคุยกับผู้บริหารของดาราเทวีว่าทำไมเลือกมาลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาวที่เชียงใหม่ ทั้ง ๆ ที่เขามีศักยภาพมากพอที่จะไปลงทุนที่กระบี่หรือภูเก็ต ที่ค่าห้องพักสูงกว่าเชียงใหม่หลายเท่าตัวและได้ทุนคืนเร็วกว่าเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมในอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย คำตอบก็คือ เขามีแรงบันดาลใจและประทับใจในเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนา และต้องการจำลองออกมาให้เหมือนมากที่สุด ซึ่งเป้าหมายของเขาต้องการเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของโลก และให้เชนโอเรียลเต็ลมาบริหารเพื่อให้โรงแรมแห่งนี้เป็นที่หนึ่งของโลกภายใน 1 ปี"

วรพงษ์ บอกว่า รูปแบบการนำเสนอของโรงแรมดาราเทวี ถือว่าประสบความสำเร็จทางความคิด เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่สร้างด้วยต้นทุนที่ต่ำ จุดขายไม่เด่นชัด ขณะที่โรงแรมดาราเทวีมีจุดขายที่โดดเด่นและชาวต่างประเทศชื่นชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการชื่นชอบในศิลปวัฒนธรรมของไทยแบบล้านนา.

สุธิดา สุวรรณกันธา
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net