คำถามจากศพ

หนึ่งในหลายครอบครัว ที่ประสบเคราะห์กรรมจากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 คือ ครอบครัว "นายมะกอเซ็ง มามะ"

ครอบครัวนี้ อยู่บ้านเลขที่ 102/1 หมู่ที่ 5 บ้านปูลาเจะมูดอ ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

หมู่บ้านปูลาเจะมูดอ ตั้งอยู่บนเกาะเจะมูดอ ซึ่งยาวต่อเนื่องผ่านหน้าโรงพักอำเภอตากใบ โดยมีแม่น้ำตากใบกั้นขวาง ห่างจากโรงพักประมาณ 5 กิโลเมตร

หมู่บ้านนี้ มีคนที่เสียชีวิตระหว่างการขนย้ายผู้ชุมนุมจากตากใบไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานีอีก 5 คน ตกเป็นผู้ต้องหา 7 คน

"นางรอปิอะ มามะ" ผู้เป็นแม่ของ "นายมะกอเซ็ง มามะ" ซึ่งมีลูกทั้งหมด 15 คน อยู่บ้านเดียวกัน 14 คน บอกกับ "ประชาไทออนไลน์" ว่า …

"เช้าวันนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องเลยว่า เกิดอะไรขึ้นที่โรงพักตากใบ 9 โมงเช้า "มะกอเซ็ง" กลับจากเป็นลูกเรือปลากะตัก ที่ตาบา มาขอเงินที่ฉัน 20 บาท แต่ฉันไม่มี เขาเลยไปขอที่น้องสาว พอเกือบเที่ยง ฉันได้ยินเสียงปืนกับเสียงเฮลิคอปเตอร์ ช่วงบ่ายก็ได้ยินอีก

พอตกกลางคืน ปรากฏว่า ลูกชายไม่กลับมา 4 คน คือ อุสมาน พี่ชายคนละแม่กับมะกอเซ็ง และพี่ชายมะกอเซ็ง อีก 2 คน คือ อับดุลเลาะ และซาการียา

ปกติลูกชายทั้ง 4 คน จะไม่อยู่บ้านในเวลากลางคืน เพราะต้องออกไปทำงานเป็นลูกเรือประมงปลากะตักเหมือนกัน หรือไม่ก็ช่วยทางบ้านเลี้ยงปลาในกระชัง ในแม่น้ำตากใบ

พอรู้ข่าวที่เกิดขึ้น รู้สึกกลัวว่า ลูกๆ จะติดร่างแหไปด้วย
ช่วงเย็น มีคนโทรศัพท์มาบอกญาติว่า ลูกชายของฉันถูกยิง ฉันจึงถามย้ำว่าจริงหรือ เขาบอกว่าจริง ให้ไปดูที่โรงพยาบาล สุไหงโก - ลก

ฉันจึงออกไปกับลูกสาว แต่พอไปถึง 3 แยกตากใบ ทหารห้ามไม่ให้ออกไป จึงโทรศัพท์ไปบอกให้ญาติที่อยู่ที่นราธิวาส ช่วยไปดูที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เผื่อเขานำไปไว้ที่นั่น

รุ่งเช้า ญาติที่นราธิวาส โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชื่อ "มะกอเซ็ง" ใชjหรือไม่ บอกว่าใช่ เขาบอกว่าตายแล้ว ให้ไปรับศพที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

พอฟังว่าลูกตาย ฉันเป็นลมทันที ซักพักก็รู้สึกตัว ร้องไห้ตลอด สูกสาวก็ร้องไห้ ลูกๆ ที่ยังเล็กอยู่ ก็ร้องไห้กันหมด…"

พี่สาวของ "นายมะกอเซ็ง มามะ" รับช่วงเล่าต่อว่า
"ฉันถามญาติที่โทรศัพท์มาบอกว่า แล้วพี่ชายคนอื่นๆ ไปไหน เขาบอกไม่รู้ พอทุกคนรู้ข่าว พ่อก็ออกไปโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ทันที ไปถึงก็ไปศพออกมาไม่ได้ เพราะไม่มีหนังสือแจ้งจากโรงพักตากใบ

ฉันจึงออกไปโรงพักตากใบ ไปกับผู้ใหญ่บ้าน ไปเอาหนังสือแจ้งว่าเป็นญาติ รับศพออกมาได้ประมาณ 11 โมงเช้า วันที่ 26 ตุลาคม 2547"

"นายมะลี มามะ" ผู้เป็นพ่อของลูกชายทั้ง 4 คน บอกว่า ตอนทำพิธีอาบน้ำศพที่บ้าน ผมเห็นศพมีรอยถูก "จ่อ" ยิงที่หัวคิ้วซ้ายทะลุท้ายทอย ไม่พบแผลที่อื่น

พอวันที่ 28 ตุลาคม 2547 ผมไปดูที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร พร้อมกับญาติ 3 คันรถกระบะ เพราะญาติที่อยู่นราธิวาส โทรศัพท์มาบอกเขาว่า ลูกชายผม "อับดุลเลาะ" โทรศัพท์มาบอกว่า พี่น้องถูกจับด้วยกัน 3 คน ตอนไปดูชื่อ ยังไม่ทราบว่าลูกทั้ง 3 คนเป็นตายยังไงบ้าง…"

"นายอับดุลเลาะ มามะ" บอกว่า พอเจอหน้าพ่อ คำแรกที่ถาม คือ "มะกอเซ็ง" อยู่บ้านมั้ย พ่อบอกว่าตายแล้ว ผมอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะไปบอกพี่ชายอีก 2 คน กับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับ "มะกอเซ็ง" ช่วงสลายการชุมนุม

ทุกคนตกใจแล้ว อึ้งกันไปหมด นึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะอยู่ด้วยกันมาตลอด หลังจากนั้น ผมถูกเอาตัวไปไว้ที่สุราษฎร์ธานี ส่วนพี่ชายอีก 2 คน ถูกย้ายไปอยู่ชุมพร

"นายอาฮามะซาอูกี ดอเล๊าะ" อายุ 38 ปี อยู่บ้าเลขที่ 156/1 เพื่อนบ้านและญาติของ "นายมะกอเซ็ง มามะ" หนึ่งในผู้ต้องหาในฐานะแกนนำการชุมนุม เล่าให้ "ประชาไทออนไลน์" ฟังว่า …

"ตอนได้ยินเสียงปืนรัว ผมอยู่ตรงศาลาริมน้ำใกล้กับ "มะกอเซ็ง" ผมลงไปหมอบอยู่ตรงบันได ข้างๆ ผมมีคนที่สวมหมวกไหมพรมอยู่คนหนึ่ง ผมเหลือบไปมอง "มะกอเซ็ง" เห็นเขาหมอบอยู่ห่างจากผมประมาณ 2 วา ยังไม่ได้ถูกยิง จากนั้นทหารก็วิ่งเข้ามาหลายคน

ตอนนั้น มีเสียงปืนรัวตลอดเวลา ได้ยินใกล้มาก ผมคิดว่า "มะกอเซ็ง" เขาคงเงยหน้าขึ้นมาดู จึงถูกยิงตอนนั้น

"นางรอปิอะ มามะ" หยุดสะอื้นไห้ หันหน้ากลับมาเล่าต่อ….

"ลูกชายฉันที่ชื่อ "ซาการียา" ตอนนี้ก็ยังบาดเจ็บอยู่ ไม่ได้ไปรักษาที่ไหน หาซื้อยากินกับยาทาเอาเอง รอยแผลถลอกที่หน้าอก เริ่มเป็นหนอง ตั้งแต่เขากลับมาถึงบ้าน

หลายฉันบ้านใกล้ๆ กันนี่ ก็ตายไปหนึ่งคน พ่อของเขาไปดูรูปพบศพ "อาบูกา กาเซ็ง" ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อายุเพิ่ง 17 ปีเอง มีรอยแผลที่ท้อง เหมือนถูกยิง เลือดไหลออกไม่หยุดเหม็นมาก มีไส้เดือนไต่ยั้วเยี้ยออกมาทางรูจมูก…"

ขณะที่พ่ออีกคน ที่สูญเสียลูกระหว่างการขนย้ายจากตากใบ ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร

ชายผู้นี้ คือ "นายยะโก๊ะ อาแว" อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ที่ 5 ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นหนึ่งในจำนวนพ่อผู้สูญเสียลูกชาย จากการสลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ที่ผ่านมา

ลูกชาย 3 คน ของ "นายยาโก๊ อาแว" ประสบเคราะห์กรรมแตกต่างกันไป

คนแรก เป็นลูกชายคนโต "นายมะสือดี อาแว" ถูกยิงในที่เกิดเหตุได้รับบาดบาดเจ็บสาหัส
คนต่อมา "นายอาเด่ะอาแว อาแว" คนนี้ เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลศาลาใหม่ได้เพียง 5 เดือน เสียชีวิตระหว่างถูกขนย้ายจากหน้าโรงพักตากใบ ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี

คนสุดท้าย ซึ่งเป็นน้องชายของพี่ชาย 2 คนข้างต้น คือ "นายตอเละ อาแว" ถูกจับตัวไปควบคุมที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร

"นายยะโก๊ะ อาแว" บอกกับ "ประชาไทออนไลน์" ว่า…
"7 โมงเช้าวันนั้น ผมช่วยเมียทำขนมแจนอ อยู่ที่กระท่อมข้างบ้าน เห็น "นายเด่ะอาแว อาแว" มานั่งอยู่ที่ระเบียงบ้าน กอดเข่า เงียบ ไม่พูดจาอะไรเลย

ทำขนมเสร็จ ผมก็ต้อนวัว 2 - 3 ตัว ไปปล่อยที่ทุ่งหญ้าตรงปากแม่น้ำตากใบ ผมเลยไม่รู้ว่า พวกเขาออกกันไปตอนไหน

ผมอยู่ที่นั่นจนเกือบจะบ่าย 3 โมง จึงกลับมาละหมาดที่บ้าน ได้ยินเสียงปืนมาจากทางหน้าที่ว่าการอำเภอตากใบ สงสัยว่าเขาทำอะไรกัน…"

ถึงตรงนี้ "นายตอเละ อาแว" เล่าว่า …
"ประมาณ บ่ายโมง ผมจะไปเอารถมอเตร์ไซค์ ที่ "อาเด่ะอาแว" เพราะต้องใช้งาน เลยไปหาที่ชุมนุม เจอพี่ชายคนโต "มะสือดี" จึงช่วยกันหาแต่ไม่เจอ จึงชวน "มะสือดี" กลับบ้าน แต่ไม่ทันได้ก้าวขาออกมาจากที่นั่น ก็มีการฉีดน้ำ คนวิ่งหนีกันมาทางแม่น้ำ จึงตัดสินใจกระโดดลงน้ำทันที "มะสือดี" ก็กระโดดหนี แต่ไม่รู้ว่าไปหลบอยู่ตรงไหน

มาทราบอีกที ตอนที่ทางบ้านบอกว่า "มะสือดี" ถูกยิงบาดเจ็บ…."
"นายยะโก๊ะ อาแว" รับฃ่วงเล่าต่อว่า ….
"จนกระทั่งช่วงเย็น ประมาณ เกือบๆ 6 โมง มีคนจากนัดกูวิง โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชายคนโต "มะสือดี" ถูกยิง ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลตากใบ ให้ไปรับนาฬิกากับกระเป๋าเงินที่โรงพักด้วย

จากนั้นไม่นาน "มะสือดี" ก็โทรศัพท์มาเองอีกครั้ง บอกว่าอยู่โรงพยาบาลสุไหงโก - ลก

ลูกสาวคนรอง จึงออกไปดูทันที แต่พอไปถึง 3 ตากใบ ทหารที่ตั้งด่านที่นั่น ห้ามไม่ไป ต้องกลับมาบ้าน คืนนั้น ทุกคนในบ้านต่างก็ละหมาดฮายัตขอให้ลูกทั้ง 3 คนกลับมา

รุ่งเช้าผมออกไปดูเอง กับลูกสาว เจอ "มะสือดี" นอนรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษ ด้านนอกมีทหารกับตำรวจเฝ้าอยู่ 3 ชั้น ตั้งแต่ประตูทางเข้าอาคาร จนถึงหน้าห้อง ชั้นละประมาณ 3 - 4 คน พอเข้าไปในห้อง เห็น "มะสือดี" ถูกใส่กุญแจมือผูกติดกับเตียงด้วย "มะสือดี" ถูกยิงที่หัวไหล่ซ้าย ทะลุแผ่นหลัง รักษาตัวอยู่ที่นั่น 4 คืน จากนั้นถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ต่อมา วันที่ 27 ตุลาคม 2547 "นายตอเละ" โทรศัพท์มาบอกที่บ้านว่า ถูกจับอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ให้ติดตามดูญาติพี่น้องด้วยว่า มีใครถูกจับบ้าง

จนกระทั่ง วันที่ 28 ตุลาคม 2547 ผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งกับชาวบ้านว่า คนที่ยังไม่ได้ไปดูรูปศพญาติให้ไปดูได้ที่โรงพักตากใบ เพราะสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส จะทำพิธีทางศาสนา ช่วงบ่ายจะนำไปฝังที่กูโบร์ตะโละมะเนาะ อำเภอบาเจาะ

ลูกสาวคนรองจึงออกไปกับญาติ 5 คน ไปดู ปรากฏว่า ใช่ จึงไปแจ้งที่โรงพักหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อยืนยันและรับใบแจ้งตาย ทางโรงพักคืนกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ กับนาฬิกาข้อมือให้

นอกจากข้าวของที่ถูกยึดไปแล้ว "อาเด่ะอาแว" ยังพกเงินสดไปด้วย 3 หมื่นบาท ไม่มีใครทราบว่า เงินจำนวนนี้อันตรธานไปอยู่ที่ใคร

หลังจากเสร็จธุระที่โรงพักหนองจิกแล้ว ลูกสาวคนรองกับญาติ ก็เดินทางจะกลับมารับศพ "อาเด่ะอาแว" แต่รถเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ลูกสาวผมคนนี้ขาหัก ตอนนี้ ยังอยู่โรงพยาบาลตากใบ

เมื่อไม่มีใครไปรับศพ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส จึงนำศพของ "อาเด่ะอาแว" ไปฝังที่กูโบร์ตะโละมะเนาะ อำเภอบาเจาะ …"

จนถึงวันนี้ จึงไม่มีใครในครอบครัว "อาแว" ได้เห็นศพ "นายอาเด่ะอาแว อาแว" แม้แต่คนเดียว

"ตอนนี้ลูกสาวนำรูปถ่าย หลักฐานเอกสารต่างๆ ของ "อาเด่ะอาแว" ไปเผาทิ้งหมด ไม่อยากเก็บไว้ กลัวจะเกิดปัญหากับครอบครัวทีหลัง เหลือไว้แค่รูปถ่าย 2 รูป คือ รูปถ่ายสวมเครื่องแบบองค์การบริหารส่วนตำบล กับรูปใหญ่อีกรูปเท่านั้น"

น้ำเสียงหม่นเศร้าของ "นายยาโก๊ะ อาแว" สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านั้น

ขณะที่ "นายมะลี มามะ" พ่อของ "นายมะกอเซ็ง มามะ" เด็กหนุ่มที่ตายเพราะถูกจ่อยิงที่ศีรษะ รำพึงประโยคสุดท้ายสั้นๆ

ประเด็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง จากคำบอกเล่านี้ ก็คือ
ทำไม ด้วยเหตุผลอะไร ถึงได้จ่อยิงศีรษะ "นายมะกอเซ็ง มามะ" ไกที่ลั่นออกมา มาจากคำสั่งของใคร

"คราวนี้ คนตายกันมาก มีอยู่รายหนึ่งเขาไม่ยอมอาบน้ำศพ…"

รำพึงประโยคสุดท้ายสั้นๆ หล่นจากปากของ "นายมะลี มามะ"

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท