Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-25 พ.ย.47 ชาวนาแม่สอดครวญ รัฐรับปากจ่ายค่าชดเชยจากกรณีสารแคดเมียมปนเปื้อนในนาข้าว ให้เกี่ยวข้าวเพื่อเผาทำลาย แต่ไม่มีเข้ามาดูแลชดใช้ค่าเสียหาย

หลังจากที่ เจ้าหน้าที่จากโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ 3 ตำบล ของอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง เรื่อง ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียม

น.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม(ENLAW) เปิดเผยว่า หลังจากที่ลงพื้นที่และสอบถามชาวบ้านแล้ว พบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างโอดครวญว่า หลังจากที่รัฐบาลได้สั่งการให้มีการดำเนินงาน จัดโครงการแก้ปัญหาผลกระทบจากการปนเปื้อนสารแคดเมียมบริเวณลุ่มน้ำแม่ตาว จ.ตาก ขึ้น โดยในแผนงานระยะสั้น คือ ให้มีการกำจัดทำลายข้าวที่ปนเปื้อนสารแคดเมียม ในวงเงินทั้งหมด 5,538,450 บาท

"แต่หลังจากที่ให้ชาวบ้าน ลงมือเกี่ยวข้าวทั้งหมดไปกองรวมกันเพื่อทำการเผาทำลาย นับจนบัดนี้ ชาวบ้านบอกว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชย ค่าเสียหายใดๆ เลย คนเฒ่าบางคนนั่งซึมอยู่บนคันนา ไม่ยอมเกี่ยวข้าว เพราะรับไม่ได้ที่ต้องเกี่ยวข้าวที่ตัวเองปลูกกับมือเพื่อเอาไปเผาทิ้ง และยังถามตนอีกว่า ถ้าไม่เกี่ยวข้าวจะมีความผิดไหม…ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกผิดหวังและหมดหวังกับการพึ่งพาจากรัฐเป็นอย่างมาก " น.ส.สุภาภรณ์ กล่าว

ในส่วนการดำเนินงานของโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแคดเมียม ไม่ว่าเรื่องของ ผู้ป่วยจากสารแคดเมียม มลพิษจากสิ่งแวดล้อม และต้นตอสาเหตุที่เกิดสารแคดเมียมขึ้นในตัวผู้ป่วย และปนเปื้อนในลำห้วยแม่ตาว และในนาข้าว เพื่อจะหาทางช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป

"กิจกรรมต่อไป เราคงจะลงพื้นที่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายสิ่งแวดล้อม และการใช้สิทธิในการเรียกร้องให้รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปมีส่วนรับผิดชอบกับปัญหาดังกล่าว" น.ส.สุภาภรณ์ กล่าว

ปัญหาสารแคดเมียมได้ไหลลงไปในลำห้วยแม่ตาว และปะปนลงไปนาข้าว แปลงพืชผักของชาวบ้าน เมื่อมีการตรวจสอบ พบว่า มีแคดเมียมปนเปื้อนอยู่ในเมล็ดข้าวและพืชผัก จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านทั้ง 3 ตำบล คือ ตำบลแม่ตาว ตำบลพระธาตุผาแดง และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย จนปัจจุบัน มีผู้ป่วยทั้งหมด จำนวน 700 กว่าราย

ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยแบ่งเป็นแผนงานระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตั้งแต่ปี 2547-2549 และใช้วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 206,665,232 บาท

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net