แบ่งแยกดินแดนในใจ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

"3 จังหวัดภาคใต้ ถ้าไม่จัดการแบบนี้ ก็ไม่มีทางจบ" คือทัศนะวิพากษ์ของพ่อค้าเร่แถวหน้าพระลานที่ผ่านหูมาให้ได้ยิน เป็นทัศนะที่คล้ายคลึงกับอีกหลายคนในสังคม น่าเป็นห่วงว่าด้วยมุมมองเช่นนี้จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่สุมให้ไฟควันความรุนแรงในภาคใต้ ปะทุเป็นลูกไฟต่อเนื่องไม่มีวันจบ

เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นชนวนที่ส่งผลให้ไฟใต้ที่เคยอยู่ในระดับคุกรุ่น มาถึงขีดขั้นของการเป็นไฟลุกลามที่ยากจะทำให้สงบโดยง่าย และถ้าใครหรือกลุ่มไหนที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ก็ประสบผลสำเร็จแล้ว ด้วยน้ำมือของปฏิบัติการสลายฝูงชนด้วยความรุนแรงของรัฐ ที่นายกรัฐ มนตรี พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร บอกต่อสาธารณชนหลายต่อหลายครั้งว่าตนติดต่อสื่อสารเพื่อกำกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้คนหนึ่งคือ ลูกผู้ชายที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร

ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะดับหรือราไฟนี้อย่างไร...
ประการแรก คนที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการสลายการชุมนุม ทั้งในระดับสั่งการหรือกำกับการทำงานในพื้นที่คงต้อง หยุดพูด หรือหยุดการสื่อสารในลักษณะที่อธิบายหรือ อ้างความชอบธรรม ความจำเป็นที่ต้องมีการสลายการชุมนุมก่อนที่จะบานปลายหรือยืดเยื้อ ที่สำคัญการพยายามหยิบยกเหตุการณ์ความไม่สงบ ปล้นฆ่ารายวันเพื่อปลุกปั่นอารมณ์ความรู้สึกว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ถือว่าเป็นทีที่จำเป็น ของการรักษาความสงบในภาคใต้ ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นการพยายามนำอีกเรื่องหนึ่งมาตอบคำถามหนึ่ง เพราะคำถามสำคัญที่มวลชนและนานาประเทศกำลังรอคอยคำอธิบาย คือการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง, การจับกุมและการขนส่งลำเลียงผู้ถูกจับกุมจนเป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตที่มีตัวเลขยืนยันแล้ว 85 ราย และผู้สูญหายอีก 63 ราย เกิดขึ้นได้อย่างไร?

การอ้างว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ยิ่งชวนให้สะท้อนใจและกระตุกขวัญเป็นอย่างยิ่ง ว่ากฎหมายได้ให้อำนาจรัฐในการจัดการต่อประชาชนได้เพียงนี้เชียวหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงจะมีอะไรเป็นหลักประกันให้แก่ประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐและได้ใช้สิทธิในการชุมนุมว่าจะไม่ถูกล้อมปราบประหนึ่งศัตรูที่การบาดเจ็บเสียชีวิตไม่มีความหมายแต่อย่างใด

ประการสอง การแสดงความจริงใจด้วยการเปิดให้มีกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริงโดยคณะบุคคลที่มาจากหลายฝ่ายซึ่งมีความเป็นอิสระจากกลุ่มผู้ปฏิบัติการในการสลายการชุมนุม เพื่อตอบคำถามที่กังขาต่างๆ..

ไม่ว่าจะเป็นคำถามว่า...เมื่อตัดสินใจให้มีการสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาไปแล้วนั้นได้มีแผนการรองรับต่อความชุลมุนวุ่นวายอย่างไรหรือไม่?

หรือคำถามที่ว่า...ใครคือผู้ที่สั่งการหรือมีลักษณะของการสั่งการอย่างไร จึงทำให้มีการขนลำเลียงชาวบ้านที่ถูกจับกุมด้วยการให้นอนซ้อนทับกันไป เหมือนกันเช่นนี้ไปในรถบรรทุกทุกคัน ความประมาทเลินเล่อในครั้งนี้จึงเข้าใจได้ว่าน่าจะมีการสั่งการอย่างชัดเจนมากกว่าจะเป็นเหตุบังเอิญ?

และกระแสข่าวที่มาจากปากคำของผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่บอกว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุมากกว่า 6 รายนั้น มีมูลความจริงมากน้อยเพียงใด และการที่มีคนจำนวนหนึ่งสูญหายไป จะอธิบายอย่างไร ?

กับอีกนานับคำถามที่ต้องการความกระจ่าง

แต่สิ่งหนึ่งซึ่งชัดเจนโดยปราศจากคำถามแล้ว คือข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดว่ามีการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนั้นการชดเชยความเสียหายในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเหมาะสม เสื้อยืดหนึ่งตัวกับเงินค่ารถสองร้อยบาทที่มอบให้แก่ผู้ถูกจับกุมที่ได้รับการปล่อยตัว 1,178 คนคงเทียบไม่ได้กับอิสรภาพ ความหวาดผวาและฝันร้ายเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ต้องเผชิญ ยังมิต้องพูดถึงผู้ที่ต้องเสียชีวิตที่ราคาหรือค่าของเงินใดๆก็คงแลกไม่ได้

บทเรียนสำคัญที่ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำคือความจริงจังในการดำเนินการและสนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอต่อการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐได้สามารถที่จะมีปฏิบัติการควบคุมการชุมนุมที่หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บสูญเสีย กระสุนยาง โล่ป้องกันตัวสำหรับเจ้าหน้าที่และการได้ฝึกฝนให้เจ้าหน้าที่มีทักษะความสามารถในการปฏิบัติต่อการชุมนุม จึงสำคัญไม่น้อยที่รัฐบาลประชาธิปไตยต้องเตรียมไว้ให้พร้อมรับมือ เหมือนกับที่เราคุ้นตากับภาพการชุมนุมประท้วงในเกาหลีใต้ ที่ภาพก็มักจะดูเหมือนมีการปะทะดุเดือด แต่เรากลับไม่ได้ยินว่ามีผู้บาดเจ็บสูญเสียมากมายเหมือนที่เกิดในสังคมไทย ครั้งแล้ว ครั้งเล่า

นายกฯทักษิณ บอกว่า "ผมจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว" ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าไม่มีโจรแบ่งแยกดินแดนกลุ่มใดจะมาเฉือนรักษาพื้นที่ดินแดนขวานทองไปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้สูญเสียไปแล้วจากการแบ่งแยกเราเขา คือพื้นที่ทางวัฒนธรรมและพื้นที่ทางจิตใจของคนในชาติ ที่ผู้เขียนยังหวังว่าด้ามขวานจะไม่ร้าวแยกเกินเยียวยา

บทบรรณาธิการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท