ฝันร้ายในโภปาล

วันที่ 3 ธันวาคมที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นวันครบรอบความหายนะทางอุตสาหกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ความโหดร้ายของมันก็ยังไม่จบสิ้น นี่คือเรื่องราวการต่อสู้ของคนธรรมดาที่ต้องการรักษาสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่มีต่อบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ผู้ละโมบ

ข้าพเจ้าลังเลในครั้งแรกที่ถูกขอให้ทำข่าวเรื่องนี้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าใครจะมาสนใจการขุดคุ้ยเรื่องราวความหายนะทางอุตสาหกรรมที่ผ่านมาตั้ง 20 ปีแล้ว แต่เมื่อข้าพเจ้าค้นคว้ารายละเอียดของเหตุการณ์รวมถึงสัญญาที่บริษัทให้ไว้กับผู้รอดชีวิตก็ยิ่งทำให้เห็นว่า จนถึงขณะนี้เรื่องนี้ยังสำคัญมากเพียงไร

ในวันที่ 3 ธันวาคมที่จะถึงนี้จะเป็นวันครบรอบ 20 ปีนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แก๊สรั่วที่โรงงานผลิตยาฆ่าแมลงยูเนียน คาร์ไบด์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น ที่เมืองโภปาลในอินเดียไม่มีใครมีอารมณ์ที่จะฉลองวันหยุดในเดือนธันวาคม มีแต่ผู้คนที่จะเดินขบวนและกล่าวปราศรัย จะมีการชุมนุมกันตามท้องถนน ร่วมจับมือกันร้องไห้เพื่อรำลึกถึงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก พวกเขาจะแสดงความโกรธแค้นและเรียกร้องความยุติธรรม แต่ที่สำคัญพวกเขาจะจดจำและไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่เลวร้ายคืนนั้น

คืนแห่งหายนะ

มันเป็นชั่วเวลาไม่กี่นาทีหลังเที่ยงคืนของวันที่ 3 ธันวาคม 2527 ท้องฟ้าคืนนั้นสดใสเต็มไปด้วยดวงดาว ผู้คนนับร้อยมาชุนนุมกันในคืนวันอาทิตย์ที่เรียกว่า "มุไชรา" ที่บริเวณจัตุรัส นี่คือค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองในเมืองโภปาลที่จะเต็มไปด้วยเสียงเพลงและกาพย์กลอน ฝูงชนต่างตั้งใจฟังกวีร่ายกลอนในภาษาอูรดูที่พรรณนาถึงความทุกข์และความสุขแห่งชีวิต ความตายและวิญญาณที่เป็นอมตะ ในที่อื่นๆมีการฉลองงานแต่งงานอยู่รอบเมือง บาร์และร้านอาหารเต็มไปด้วยเสียงเพลงและการฉลอง มันคือค่ำคืนแห่งเทศกาล ค่ำคืนแห่งความรื่นเริง

แต่ในขณะที่ผู้คนกำลังเฉลิมฉลองกันอยู่นั้น ปัญหากำลังก่อตัวขึ้นที่โรงงานผลิตยาฆ่าแมลงยูเนี่ยนคาร์ไบด์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร บรรยากาศในโรงงานมีแต่ความกลัวและตื่นตระหนก ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ที่ขาดการฝึกรู้แล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่แก๊สกำลังรั่วจากถังเก็บซึ่งมีแก๊สพิษบรรจุอยู่ถึง 42 ตัน ในอีกไม่กี่นาทีปฏิกิริยาความร้อนทางเคมีที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดพายุแก๊สพิษแพร่กระจายไปทั่วเมืองโภปาล ประชากรกว่า 5 แสนคนกำลังจะได้รับผลกระทบในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ความหายนะทางอุตสาหกรรม การสังหารหมู่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

แก๊สพิษเริ่มรั่วไหลผ่านทางประตูและหน้าต่างเข้าสู่เมือง สำหรับคนจำนวนมากที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง แก๊สพิษที่พวกเขากำลังสูดเข้าไปเป็นเครื่องรับประกันว่า พวกเขาจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาได้อีก สำหรับผู้ที่ยังไม่หลับ ถือเป็นโชคไม่ดีที่พวกเขายังมีสติอยู่ในขณะที่มหันตภัยกำลังมาเยือน

และเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มตระหนักว่ากลุ่มแก๊สพิษขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาหาพวกเขา มันก็สายไปเสียแล้ว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จัตุรัส สวนสาธารณะที่เพียงไม่กี่นาทีก่อน เต็มไปด้วยเสียงเพลง เสียงอ่านกลอนและเสียงหัวเราะ ถึงตอนนี้ทุกอย่างเงียบสงัด เป็นความเงียบที่น่าสะพรึงกลัว ศัตรูกำลังแทรกซึมเข้ามาและเข้าขย้ำเสียงร้องของเหยื่ออย่างรวดเร็ว

แก๊สที่ล่องลอยเหมือนผีร้ายมาตามสายลมที่พัดเบาๆ ทันใดนั้นก็เข้าบีบลำคอและเผาผลาญปอดของเหยื่อจนแทบมอดไหม้ ร่างของเหยื่อบิดงอดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ตาของพวกเขาบวมเป่งเหมือนถูกเผาไหม้ ไม่มีใครรู้ว่าปีศาจร้ายตนไหนที่ลงมาทำร้ายพวกเขา

หลายคนจบชีวิตก่อนที่จะถึงบ้านหรือโรงพยาบาล บางคนที่ไปถึงก็ต้องจบชีวิตที่นั่น ทั่วทุกหนทุกแห่งมีแต่ความตาย ไม่มีหมอเพียงพอและไม่มีใครจากโรงงานยูเนี่ยนคาร์ไบด์ให้ข้อมูลของแก๊สที่รั่วเพื่อที่จะหาทางรักษาได้ ทุกคนปิดปากเงียบ

ในวันที่ 3 หลังเกิดเหตุมีการคาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการสูดแก๊สพิษโดยตรง 8,000 คน และเจ็บป่วยอีก 500,000 คน ในอีก 20 ปีต่อมาจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วมีถึง 20,000 คน และตอนนี้ยังมีเหยื่อเคราะห์ร้ายในรุ่นที่ 3 นั่นคือ ลูกของพ่อแม่ที่เกิดหลังจากแก๊สรั่วซึ่งกำลังทนทุกข์ทรมานจากความผิดปกติที่คุกคามชีวิตของพวกเขา

พวกเขาต้องทนทุกข์กับอาการหอบอย่างรุนแรง สมองถูกทำลาย การมีรอบเดือนที่ผิดปกติ ขาดภูมิคุ้มกันโรค มะเร็งและวัณโรค แต่แทนที่จะได้รับความเห็นใจหรือความช่วยเหลือจากผู้รับผิดชอบ ผู้รอดชีวิตต้องดิ้นรนเพียงเพื่อให้ได้การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน โดยไม่ต้องพูดถึงความช่วยเหลือทางการเงินหรือจากสังคม เรื่องราวความหายนะยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง

ใครควรรับผิดชอบ

การหาข้อมูลเรื่องของโภปาลเหมือนกับการเปิดหูเปิดตาสู่ความจริง ข้าพเจ้ายอมรับตามสัตย์จริงว่าก่อนที่จะมาเขียนเรื่องนี้ ข้าพเจ้ารู้เรื่องโศกนาฏกรรมนี้น้อยมาก เรื่องราวและภาพถ่ายที่ข้าพเจ้าได้มาเต็มไปด้วยความสยดสยองเกินกว่าที่ข้าพเจ้าคิดไว้ เกือบทุกคืนหลังจากงานเขียนเรื่องนี้ข้าพเจ้าจะย่องเข้าไปดูลูกสาววัย 5 ขวบในห้องนอนและรู้สึกขอบคุณว่าข้าพเจ้ายังโชคดีกว่าคนเหล่านั้น การที่ได้เห็นลูกสาวนอนอยู่บนเตียงอย่างปลอดภัยทำให้ข้าพเจ้ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันทำให้หัวใจของข้าพเจ้าสลายเมื่อนึกถึงพ่อแม่ที่ต้องดูลูกๆ ของพวกเขาหอบหายใจอย่างทรมาน ผู้คนที่บริสุทธิ์ยังคงต้องรับกรรม มันคือสิ่งที่เกินจะรับได้ ทำไมเหตุการณ์อย่างนี้ต้องเกิดขึ้นด้วย

ถ้าจะเริ่มก็น่าจะเริ่มจากที่ว่า ทำไมปล่อยให้มีการเก็บแก๊สพิษจำนวนมาก ไว้ในบริเวณที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งไม่น่าจะเป็นนโยบายของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามโรงงานก็ได้รับอนุญาตให้สร้างโดยไม่สนใจเสียงต่อต้านของคนในท้องถิ่น

ถึงแม้ยูเนี่ยน คาร์ไบด์จะมีตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีเขียวที่มีข้อความระบุว่า "ปลอดภัยไว้ก่อน" แต่ก็น่าขันที่การระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยไม่มีอยู่เลยที่โรงงานในเมืองโภปาล เมื่อพิจารณารวมกับสารระเหยที่เกี่ยวข้อง การที่ยูเนี่ยน คาร์ไบด์เลือกที่จะตัดงบในส่วนของการรักษาความปลอดภัยถือเป็นอาชญากรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพิจารณาว่า บริษัทมูลค่าหลายสิบหลายร้อยล้านบาทประหยัดเงินได้เพียง 2,000 บาทในการตัดงบดังกล่าว

บริษัทโกหกและมีนโยบายกำหนดมาตรฐานต่างระดับ

มาตรฐานความปลอดภัยที่โรงงานในเมืองโภปาลถือว่าหละหลวมอย่างน่าอันตราย เมื่อเทียบกับโรงงานของยูเนี่ยน คาร์ไบด์ในยุโรปและอเมริกา อุปกรณ์สำคัญๆในโรงงานขาดการซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่มีน้อยเกินไปและไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีพอในการรักษาความปลอดภัย ที่โรงงานไม่มีแม้แต่แผนจัดการความเสียหายที่อาจส่งผลต่อเมืองที่อยู่โดยรอบ นี่หรือคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มันน่าขนลุกเมื่อเราคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าการป้องกันโศกนาฏกรรมไม่ให้เกิดขึ้นมันง่ายนิดเดียว

ในโลกตะวันตกจะไม่มีการประนีประนอมในนโยบายที่หละหลวมในการป้องกันความปลอดภัยอย่างนี้เป็นแน่ แต่มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่โรงงานแห่งนี้มีการกำหนดมาตรฐานต่างระดับ ทั้งๆที่มันไม่น่าเกิดขึ้นในบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่

ในการส่งเสริมให้บริษัทข้ามชาติขนาดยักษ์มาลงทุนในประเทศที่ยากจนกว่าได้มีการลดมาตรฐานระหว่างประเทศด้านสุขภาพหรือแรงงานลง หรือไม่ก็ไม่มีการกำหนดมาตรฐานเลย สิทธิพิเศษเหล่านี้เปิดช่องให้บริษัทยักษ์ใหญ่หากำไรจากการทำลายผู้คนและสิ่งแวดล้อม เหมือนในกรณีเมืองโภปาล ประชาชนที่ยากจนที่สุดและไม่มีทางช่วยตัวเองตกเป็นเหยื่อรับเคราะห์

การกระทำของบริษัทเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าชีวิตของมนุษย์ในเขตที่ยากจนมีค่าน้อยว่าชีวิตมนุษย์ในเขตอื่นๆของโลก วอร์เรน แอนเดอร์สัน ประธานบริษัทยูเนี่ยน คาร์ไบด์ในขณะนั้นรู้แก่ใจดีว่ากำลังทำให้เมืองที่มีประชากรที่บริสุทธิ์กว่า 5 แสนคนตกอยู่ในอันตรายเพื่อประโยชน์ของตน การกระทำนี้ถือเป็นอาชญากรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ปฏิกิริยาของยูเนี่ยน คาร์ไบด์ที่มีต่อโศกนาฏกรรมครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เกิดเหตุหรือในช่วงวันหรือปีหลังเกิดเหตุเป็นหลักฐานเด่นชัดในการก่ออาชญากรรม โฆษกของบริษัทต้องใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงหลังแก๊สรั่วกว่าจะออกมาให้ความคิดเห็นถึงอุบัติเหตุดังกล่าว ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลถึงประเภทของแก๊สโดยอ้างว่า ขัดต่อนโยบายของบริษัท เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยและสุขภาพของยูเนี่ยน คาร์ไบด์พยายามปกปิดความหายนะด้วยการอธิบายว่าแก๊สที่รั่วเป็นเพียงแก๊สน้ำตา บริษัทยังคงยืนยันข้อมูลนี้ถึงแม้จะมีหลักฐานเด่นชัดแล้วว่ามีประชาชนหลายพันคนเสียชีวิตในทันทีที่สูดแก๊สเข้าไปและมีอีกหลายหมื่นคนต้องทนทุกข์ไปตลอดชีวิต

ท้ายที่สุดยูเนี่ยน คาร์ไบด์ลบภาพลักษณ์ที่เลวร้ายของตนด้วยการรวมกิจการกับบริษัทข้ามชาติที่ละโมบอย่าง ดาว เคมิคัล ทั้งสองบริษัทร่วมมือกันปัดโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นให้พ้นตัวเหลือทิ้งไว้แต่ความทนทุกข์ของเหยื่อและที่ดินสูญเปล่าที่ปนเปื้อนไปด้วยสารพิษ

ดาว เคมิคัลปฏิเสธที่จะรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทยูเนี่ยน คาร์ไบด์ไม่มีอีกต่อไป ตอนนี้ทั้งสองรวมเป็นบริษัทเคมีชั้นนำของโลกไปแล้ว

อุปสรรคที่ทอดยาวของการจ่ายเงินทดแทน

รัฐบาลอินเดียและบริษัทยูเนี่ยน คาร์ไบด์ตกลงกันอย่างหน้าไม่อายในการจ่ายเงินทดแทนจำนวนกว่า 18,800 ล้านบาท เงินจำนวนนั้นยังคงอยู่ในธนาคารของอินเดียและเพิ่งจะมีการเบิกถอนมาให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากคำตัดสินของศาลสูง

ยอดเงินทดแทนไม่ได้ใกล้เคียงที่จะครอบคลุมแม้แต่ค่ารักษาพยาบาลพื้นฐานของเหยื่อในช่วง 5 ปี และเหยื่อรุ่นใหม่จะทำอย่างไร เหยื่อที่ยังเป็นทารกแบเบาะในขณะเกิดเหตุ และไหนจะยังดินและน้ำที่มีการปนเปื้อน โรงงานเก่าของยูเนี่ยน คาร์ไบด์ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการทำความสะอาด มันถูกทิ้งไว้ในสภาพเดียวกับวันที่เกิดเหตุที่เต็มไปด้วยสารเคมี ซึ่งคาดว่ายังมีสารพิษประมาณ 5,000 ตันตกค้างอยู่ในโรงงาน แก๊สพิษระเหยสู่อากาศและแทรกซึมตามผิวดินลงสู่แหล่งน้ำ แต่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบ ความจริงก็คือ หลังจากที่ยูเนี่ยน คาร์ไบด์จ่ายเงินทดแทนเสร็จก็สะบัดก้นหนีและไม่กลับมาเหลียวมองเมืองโภปาลอีกเลย

แต่ผู้คนที่นี่ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาจะยอมได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาสูญเสียทุกสิ่ง ครอบครัว เพื่อน สุขภาพและความสุข มีความเคลื่อนไหวระดับรากหญ้าที่รวมตัวกันในเมืองโภปาลและทั่วโลก พวกเขากำลังเรียกร้องความยุติธรรม พวกเขาต้องการให้โลกได้รับรู้

ถึงแม้ผู้คนจะมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าแต่พวกเขายังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่ทรยศพวกเขา จนกว่าโรงงานเก่าของยูเนี่ยน คาร์ไบด์จะได้รับการทำความสะอาดจำนวนคนที่เสียชีวิตมีแต่จะเพิ่มขึ้นและจะยังคงเป็นอย่างนี้ในคนรุ่นต่อๆไป จาเพอร์ ซึ่งสูญเสียพ่อและพี่ชายจากโศกนาฏกรรมดังกล่าวบอกว่า "เงินทดแทนเหยื่อจากเหตุวินาศกรรมที่เวิลด์เทรดและการทำความสะอาดจุดเกิดเหตุทำได้ภายในปีเดียว แต่เรากลับต้องรอทั้งเงินและการรื้อโรงงานเก่ามาเกือบ 20 ปี" มีแต่ความอยุติธรรมทั่วทุกหนแห่ง

ราชิดา พี สูญเสียครอบครัวและสุขภาพที่สมบูรณ์ของเธอไปกับแก๊สพิษ เธอบอกว่า "เงินทดแทนควรจะมาได้ตั้งนานแล้วเพราะผู้คนต้องทรมานกับความเจ็บป่วยจากแก๊สรั่ว" ตราบใดที่บริษัทดาว เคมิคัลซึ่งรวมกิจการกับยูเนี่ยน คาร์ไบด์ยังไม่รับผิดชอบและไม่จ่ายเงินทดแทนที่เพียงพอรวมถึงความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและสังคมในเมืองโภปาล ตราบนั้นก็ยังไม่มีความยุติธรรม

ถ้าบริษัทดาว เคมิคัลยังไม่ถูกบังคับให้จัดการกับแก๊สพิษที่ถูกทิ้งไว้ซึ่งกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมจำนวนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น เรื่องนี้เห็นทีจะไม่จบลงง่ายๆ ประชาชนในเมืองโภปาลไม่สามารถลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น และพวกเขาก็ไม่ควรที่จะถูกลืม

ความหวังเพื่ออนาคต

เหยื่อจากโศกนาฏกรรมและกลุ่มช่วยเหลือนานาชาติยังคงเรียกร้องหาความยุติธรรม พวกเขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่การตัดสินครั้งสุดท้ายในเรื่องโภปาลและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแพ้ กลุ่มรณรงค์นานาชาติเพื่อความยุติธรรมในโภปาลหรือ ICJB ได้ตัดสินใจที่จะใช้คำว่า "ความหวัง" และ "การฟื้นฟู" เป็นคำขวัญในการรำลึกถึงการครบรอบ 20 ปีของโศกนาฎกรรมโภปาล พวกเขาหวังว่าโลกจะปลอดภัยกว่าที่เป็น เป็นโลกที่จะไม่มีเหตุการณ์อย่างโภปาลเกิดขึ้นอีก และเราควรจะร่วมหวังไปกับพวกเขาเหล่านั้น

ลิซ่า แมคโดนัลด์
นักเขียนอิสระ และเป็นอาสาสมัครของกรีนพีซ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท