ศูนย์ข่าวภาคใต้-22 ม.ค.48 สมัชชาคนจนเดินสายลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ พบชาวบ้านยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ซ้ำร้ายยังถูกรัฐ-เอกชนยึดที่คืน

นางสาววนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เปิดเผย "ประชาไท" ว่า สมัชชาคนจนได้นำอาสาสมัครจากภาคเหนือและภาคอีสาน 150 คน ลงไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยคลื่นยักษ์ซึนามิใน 6 จังหวัดทางภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2548 พบว่า แต่ละแห่งชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยและเครื่องมือประกอบอาชีพประมง

นางสาววนิดา เปิดเผยอีกว่า สมัชชาคนจนจะนำปัญหาทั้งหมดจากการลงพื้นที่ของอาสาสมัครเข้าประชุมสมัชชาคนจน เพื่อหาแนวทางการผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาในระดับนโยบาย หลังจากการเลือกตั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธุ์ 2548 นี้ เนื่องจากปัญหาบางอย่างต้องแก้ในระดับนโยบาย โดยเฉพาะปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัย เพราะทุกแห่งที่อาสาสมัครลงไป เจ้าของที่ดินทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและเอกชน ไม่ต้องการใช้ชาวบ้านที่ประสบภัยเข้าไปอยู่อาศัยในที่ดินเดิม ทั้งที่ชาวบ้านอาศัยอยู่มาก่อน

อีกทั้งยังใช้โอกาสนี้ต้องการไล่รื้อบ้านที่เสียหายบางส่วนออกไปด้วย เพราะที่ดินบริเวณชายหาดเป็นพื้นที่ที่สวยงาม และมีราคาแพงเป็นที่หมายปองของของหลายคนจึงไม่ต้องการให้ชาวบ้านกลับไปอยู่ในที่เดิม ขณะที่ชาวบ้านต้องการกลับไปอยู่ที่เดิม เพราะประกอบอาชีพประมงได้สะดวก

นางสาววนิดา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่อาสาสมัครสมัชชาคนจนไปช่วยเหลือ ได้แก่ บ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บ้านแหลมสน จังหวัดระนอง ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยบ้านบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นต้น

โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ แห่งละ 20 คน ร่วมกับเครือข่ายของสมัชชาคนจนในพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน และหน่วยงานราชการต่างๆ ในการลงไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นางสาววนิดา กล่าวว่า เนื่องจากอาสาสมัครที่ลงไปส่วนใหญ่เป็นคนจน จึงเป็นการให้ความช่วย เหลือในด้านการให้กำลังใจ ช่วยออกแรงสร้างบ้านพักชั่วคราว โดยบางคนได้นำอุปกรณ์หรือเครื่อง มือช่างเท่าที่หาได้ไปด้วย นอกจากนั้นยังเป็นการไปรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางให้ความช่วย เหลือต่อไป

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่เกาะสิเหร่ พบว่า ชาวบ้านมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างและซ่อมแซมบ้านพักที่ได้รับความเสียหายด้วย เช่น วัสดุ อุปกรณ์ในการสร้างบ้านพักที่ได้รับมายังไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม ส่วนอาหารและเสื้อผ้านั้นชาวบ้านได้รับอย่างล้นเหลือแล้ว

แต่การให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัยต่างๆ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองยังไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการของหน่วยงานรัฐที่ไม่เข้าถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริงและค่อนข้างล่าช้า ในขณะที่การสนับสนุนให้ชาวบ้านที่ประสพภัยมีส่วนร่วมฟื้นฟูคุณภาพก็ชีวิตยังมีน้อยเช่นกัน

นายวิโชติ ไกรเทพ เครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน เปิดเผยถึงการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยของชาวบ้านเกาะสิเหร่ บ้านหาดราไวย์ และบ้านสะปำ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับความเสียหายจากคลื่นซึนามิ ว่า ได้แบ่งกลุ่มชาวบ้านออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน แล้วให้ชาวบ้านซ่อมแซมกันเอง โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ซึ่งเป็นอยู่ในเครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน ได้สนับสนุนวัสดุซ่อมแซมบ้าน และสร้างบ้านใหม่สำรายที่เสียหายทั้งหลัง เพื่อให้ชาวบ้านสามารถพักอาศัยได้ก่อน

ส่วนการช่วยเหลือจากภาครัฐขณะนี้ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้หน่วยงานรัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือต่อไป

ประชาไทรายงาน