Skip to main content
sharethis

นราธิวาส- 21 ก.พ.48 ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เตรียมจะเจรจากับผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวในเหตุการณ์ประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน้า สภ.อ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จำนวน 58 คน ในข้อหาร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยก่อเหตุความไม่สงบ มีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดในครอบ ครอง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก อั้งยี่ ซ่องโจร ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของศาล ให้ยอมรับสารภาพและสัญญาว่า จะกลับตัวว่าจะเป็นคนดี

"ผู้ต้องหาทั้ง 58 คนบางคนหลงผิด บางคนก็มีส่วนร่วมจริง หากให้ดำเนินคดีจะไม่เกิดประโยชน์ แต่ผมจะเจรจากับผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาทำสัญญากับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้มาลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อสัญญาว่าจะกลับตัวเป็นคนดี ร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน พร้อมกันนี้จะเจรจากับอัยการให้รอลงอาญาโทษจำคุกไว้ ยกเว้นกรณีฆ่าคนตายซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องแนวคิดแบ่งแยกดินแดนเป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิคิดได้หากถูกยุยงให้คิด" นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าว

นายประชาอธิบายว่า คดีดังกล่าวหากปล่อยให้มีการดำเนินการตามกระบวน การไต่สวนของศาลจะทำให้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นและหลงผิดเสียเวลาและเสียประโยชน์ไปเปล่าๆ เนื่องจากกระบวนการของศาลจะใช้ระยะเวลานานในการไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลย ซึ่งจะเป็นการเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดด้วย

ขณะนี้มีผู้ต้องหามาติดก่อกับตนแล้ว 57 ราย เหลืออีก 1 รายที่เป็นทหารกำลังติดต่อให้มารายงานตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 40 คน ที่หลบหนีไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย กำลังดำเนินการติดต่อให้เข้ามามอบตัวแล้ว

"จะมีการนัดแถลงต่อศาลในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) โดยผมจะเดินทางไปเป็นพยานให้กับผู้ต้องหาที่มารายงานตัว ยกเว้นคดีฆ่าคนตายซึ่งยอมความไม่ได้ อยากจะให้เรื่องทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีเพราะจังหวัดนราธิวาสเสียโอกาสทางด้านการพัฒนามามากแล้ว หากยังเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหรือฆ่ากันตายรายวันอย่างนี้ก็มีแต่จะแย่คงไม่มีใครอยากมาเที่ยวอีก ที่ผ่านมาผมพยายามเจรจากับสายการบินแอร์เอเชีย ให้มาบินในเส้นทางนี้ วันที่ 9 ก.พ. เปิดบริการวันแรก พอวันที่ 10 เกิดระเบิดตูม คนก็หนีหมดสุดท้ายชาวบ้านก็เดือดร้อนทำมาหากินไม่ได้อีก" นายประชากล่าว

วันเดียวกันศาลจังหวัดนราธิวาส ได้เลื่อนการนัดพร้อม เพื่อกำหนดวันไต่สวนคดีการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธร อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ออกไปเป็นวันที่ 11 เมษายน 2548 เนื่องจากอัยการยังไม่ได้ส่งบัญชีพยาน

นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สภาทนายความแห่งประเทศไทย เห็นว่า การผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จะให้ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 58 คน ลงนามยอมรับสารภาพ และให้ทั้ง 58 คน ให้สัญญาว่าจะไม่ทำผิดอีก แล้วให้ศาลสั่งให้รอลงอาญานั้น เป็นการกระทำที่ไม่โปร่งใส เพราะไม่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย แต่ถ้าต้องการช่วยผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา น่าจะใช้วิธีการขอให้อัยการถอนฟ้องมากกว่า

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net