คำต่อคำ "จิราพร บุนนาค" รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) *

"ยุทธศาสตร์นี้จะทำให้ทุกคนมีสถานะที่ชัดเจน ... แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนได้สัญชาติไทย"

*ประชาไท มีโอกาสได้พูดคุยกับ "จิราพร บุนนาค" รองเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เมื่อกลางเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ถึง "ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล" ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ม.ค.นี้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ "แผนฯ ดังกล่าว" ถูกจัดอยู่ในชั้นความลับ ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน "ประชาไท" นำคำให้สัมภาษณ์ของรองเลขาธิการฯ สมช. โดยไม่ตีความ และรักษาสำนวนภาษาของผู้ให้สัมภาษณ์ไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษาทำความเข้าใจยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว จากผู้รับผิดชอบโดยตรง

---------------------------

หลังจากที่ครม.อนุมัติยุทธศาสตร์ฯ(ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล) เราก็ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นแรกคือ การจัดกลุ่มตามยุทธศาสตร์ฯ ซึ่งเมื่อจัดชัดเจนแล้วต้องเข้าใจให้ตรงกันด้วยว่า กลุ่มไหนอยู่สถานะไหน ตามขั้นตอนตามกระบวนการ เมื่อตรงกันแล้ว ก็ได้หารือกันในการกำหนดสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานให้กับทุกคน ที่อยู่ในกระบวนการตามยุทธศาสตร์

ถึงแม้ว่ากลุ่มที่รอได้สัญชาติ กลุ่มที่รอได้สถานะต่างด้าว หรือ กลุ่มที่เป็นนักศึกษากำลังจะจบปริญญาตรี หรือกลุ่มที่กำลังเรียนอยู่ระดับมัธยม มหาวิทยาลัย หรือกลุ่มอื่นๆ ก็ตาม ในระหว่างที่เขารอกระบวน การ สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานเรื่องการเรียน การรักษาพยาบาล เราต้องดูแล เพราะถือว่าเขาก็เป็นมนุษย์ที่มีคุณค่า

ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้เตรียมการประชุมมาก่อนหน้าที่เราจะหารือกัน ทางสาธารณสุขก็บอกว่า เห็นพ้องต้องกันว่าการดูแลสุขภาพ การรักษาโรคสามารถทำได้ ทางศึกษาธิการเองก็เห็นเช่นกันว่า การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้มีข้อขัดข้องอะไร

ฉะนั้น ในบัตรแสดงตนที่กระทรวงมหาดไทยกำลังทำเป็นตัวอย่าง แล้วจะนำมาหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกแบบบัตรของแต่ละกลุ่ม หลักคิดของสันติวิธีก็คือ การยอมรับความจริง ว่าเขาเป็นมนุษย์ที่อยู่ในประเทศไทย เราจะดูแลเขาอย่างไรที่จะทำให้เกิดแนวทางที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ดูแลแล้วเกิดปัญหา เช่น ดูแลแล้วเขาไม่มีทางเลือกอื่นต้องไปอยู่ในกระบวนการที่ทำให้เกิดปัญหา

หลักคิดอีกอันที่สำคัญคือ เราพยายามคิดเพื่อให้เกิดความสมดุล ทั้งในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน รวมถึงเรื่องของความมั่นคง ไม่ใช่คิดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง

ในระหว่างนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการที่จะทำงานอย่างเป็นระบบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย คาดว่าประมาณปลายมีนาคม หรือเมษายนก็น่าจะพร้อม

สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่กระทรวงมหาดไทยมีงานหลักที่ต้องไปสำรวจ แต่ที่สำรวจยากหน่อยก็คือ ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของกระทรวงมหาดไทย เช่น คนไร้รากเหง้า คนที่ไม่มีรัฐใดเกาะเกี่ยว กลุ่มนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน มหาดไทยต้องไปรวบรวมจากมูลนิธิหรือเอ็นจีโอที่ให้ความช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้อยู่

ส่วนที่เกิดกระแสต่อต้านจากนักวิชาการบางส่วนนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าข้อมูลที่อาจารย์มี ถ้ามีข้อมูลที่ดีก็คงคิดไม่ต่างกันมาก เพราะยุทธศาสตร์นี้จะทำให้ทุกคนมีสถานะที่ชัดเจน มีบัตรแสดงตน แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนได้สัญชาติไทย พอรู้สถานะของตัวเองก็จะรู้อนาคตของตัวเอง แล้วก็จะมีความ หวังที่ดีต่ออนาคตตัวเอง รู้สิทธิประโยชน์ที่ตัวเองจะได้

อีกอันหนึ่งที่สำคัญคือ ยุทธศาสตร์นี้จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นระบบที่ชัดเจนได้ แล้วก็ไม่ต้องไปกังวลกับการใช้ดุลยพินิจ ซึ่งบางครั้งทำให้มีปัญหามาก ขณะเดียวกันเราเห็นปัญหาว่า มีบางคนซึ่งจำนวนไม่มากแสวงประโยชน์ในการกำหนดสถานะบุคคล ยุทธศาสตร์นี้ก็ไปแก้ปัญหาการแสวงประโยชน์ได้เช่นกัน เพราะเมื่อจัดการอย่างเป็นระบบแล้วก็แสวงประโยชน์ได้ยากมาก แก้ปัญหาหลายอย่างที่เป็นเชิงบวก ในเมื่อมันเป็นเชิงบวกต่อคนที่เดือนร้อน เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ คิดว่าไม่มีใครปฏิเสธ

ไม่แน่ใจว่า อาจารย์ที่คัดค้านขาดข้อมูลตรงส่วนไหน เพราะยังไม่เคยคุยด้วยกัน แต่ในความเห็น ณ ขณะนี้คิดว่า อาจจะเป็นข้อกังวลว่าสถานะที่จะกำหนด ที่จะลงตัวจะทำให้เกิดความล่าช้า ที่ผ่านมาเขาก็มองว่า มันช้าอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วนายกฯ เองได้เร่งเรื่องนี้ว่าต้องไปเตรียมความพร้อม ท่านกรุณาให้กระทรวงมหาดไทยจัดชุดปฏิบัติการเป็นพิเศษ เรียกว่า คาราวาน และยุทธศาสตร์เองก็กำหนดขั้นตอนก่อนหลัง มีทั้งมาตรการเร่งด่วนและมาตรการะยะยาว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์นี้มีมาตรการในเชิงสร้างสรรค์เพื่อที่จะสกัดกั้นการอพยพเข้าเมือง ไม่ใช่มาตรการแบบเดิมที่จะกวดขันเข้มงวดตามจุดผ่านแดน อันนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ ในขณะเดียวกันเราต้องไปช่วยกันดูแลคนที่อยู่ตรงชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านแล้วอยากจะเข้ามา ให้เขาอยู่ได้ในถิ่นกำเนิดของเขา เราจึงคิดว่า มาตรการเชิงสร้างสรรค์นี้จะทำให้คนอยู่ในถิ่นเดิม และลดปัญหาหลายเรื่อง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่กระทรวงแรงงานมีทะเบียนไว้ ก็จะเข้าระบบกระทรวงแรงงาน แต่มันจะมีอยู่ข้อเดียวที่อยู่ในยุทธศาสตร์ คือ เรื่องของการทำบัตรแสดงตนที่ชัดเจน ซึ่งกระทรวงแรงงานก็มีของเขาอยู่แล้ว แต่ยุทธศาสตร์นี้กำหนดไว้ด้วยว่าต้องระบุว่าสิทธิประโยชน์ที่เขาจะได้รับมีอะไร เช่น เด็กเรียนหนังสือได้หรือเปล่า การรักษาพยาบาลเป็นอย่างไร

แต่ถ้าเป็นกลุ่มเชื้อสายไทยที่จะได้สัญชาติไทย กลุ่มต่างด้าว กลุ่มลูกหลานที่อยู่มานานเรียนหนังสือจบปริญญาตรีแล้ว กลุ่มลูกหลานที่อยู่มานานและกำลังเรียน กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าให้สิทธิประ โยชน์ขั้นพื้นฐาน

อีกอันหนึ่งคือ ผู้หนีภัยการสู้รบ ก็อยู่ในยุทธศาสตร์เพียงแค่เรื่องของบัตรแสดงตน ให้รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะใดจะได้รับอะไร การจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐก็จะชัดเจนมาก และมันจะถูกยอมรับแน่นอนถ้าเข้าใจเจตนารมณ์

เมื่อถูกถามว่า ยุทธศาสตร์ยังถูกจัดอยู่ในชั้นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้นั้น รองเลขาสมช.บอกว่า ต้องขอเวลาสักนิดหนึ่ง ตอนนั้นเรากังวลเรื่องการจูงใจ ถ้าเปิดไปเลยโดยที่ไม่เข้าใจทั้งหมด มันอาจจะเป็นเหตุจูงใจให้คนอยากเข้ามาเพิ่มขึ้น พอหลังจากผ่านครม.จึงไม่มีการแถลงข่าว

แต่เราได้เตรียมการ ทำการสำรวจจนชัดเจนครบหมดแล้วทั้งประเทศ มันก็จะบล็อกไม่ให้เพิ่มขึ้น จึงจะขออนุมัติงบฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจซึ่งต้องอาศัยภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือคนอื่นๆ ที่ยังไม่มีทะเบียนแต่อยู่มานานแล้ว มีพยานบุคคลเราก็ไม่ได้ไปตัดสิทธิ์ และคิดว่าเร็วๆ นี้จะจัดเวทีชี้แจงยุทธศาสตร์คงราวต้นเดือนมีนาคม เพราะต้องขอไปเตรียมความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ให้ครบถ้วน แต่ตอนนี้ในเรื่องหลักการ หลักคิด แนวทางกว้างๆ เราเผยแพร่ได้

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท