Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-28 ก.พ.48 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดี และคณะนำสำนวนการสอบสวนคดีก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีนายแวยูโซ๊ะ แวดือราแม ครูสอนศาสนาหรืออุสตาซ กับพวกรวม 8 คน อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฐานร่วมกันเป็นกบฎแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้ายเป็นอั้งยี่ และซ่องโจร ส่งมอบให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ พิจารณาส่งฟ้อง โดยสำนวนดังกล่าวประกอบด้วยพยานหลักฐานต่างๆ เอกสารบันทึกคำให้การของพยานบุคคล 77 ปาก รวม 13 แฟ้ม หนากว่า 5,000 หน้า และแผ่นวีซีดีภาพเหตุการณ์ความไม่สงบอีก 1 แผ่น

พล.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า นอกจากนำสำนวนการสอบสวนมาส่งให้อัยการในวันนี้แล้ว ดีเอสไอยังได้ทำหนังสือถึงอัยการขอให้พิจารณานำสืบพยานปากสำคัญล่วงหน้าต่อศาล 3 ปาก เนื่องจากเกรงว่าหากทอดเวลาไป อาจเกิดความเสียหายได้ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอให้การดูแลพยานอยู่ตามกฎหมายคุ้มครองพยาน โดยขณะนี้ดีเอสไอกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบภาคใต้เพิ่มเติมอีก 3 คน

นายอรรถพล กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานอัยการ 7 คน พิจารณาสำนวนคดีนี้ มีนายจรุงเกียรติ ภาษีผล อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายรชฎ เจริญฉ่ำ อัยการอาวุโส นายบำรุงชัย แสนสุข อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายวิรัช บัวเผื่อน อัยการผู้เชี่ยวชาญ นายเลิศพงศ์ กลัดอ่ำ อัยการจังหวัดประจำกรม ร.ต.อ.ณรงค์ อัศววัฒฑกี อัยการประจำกรม และนายเสรี เยาวะ อัยการประจำกรม สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นคณะทำงาน โดยมีนายเศกสรรค์ บางสมบุญ รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นผู้ควบคุมดูแลการดำเนินคดี และมีนายวิเชฎฐ์ มุสิกรังษี อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เลขานุการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเข้าร่วมการสอบสวนกับดีเอสไอตั้งแต่ต้น ร่วมเป็นที่ปรึกษาในคดีนี้

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ส่วนการขอสืบพยานล่วงหน้านั้น ก่อนหน้านี้อัยการได้นำพยาน 1 ปาก ซึ่งเป็นพยานสำคัญทำให้ออกหมายจับผู้ต้องหาสำคัญ เข้าเบิกความล่วงหน้าต่อศาลไปแล้ว ที่ดีเอสไอขอให้นำสืบพยานล่วงหน้าอีก 3 ปาก จะให้คณะทำงานพิจารณาว่า จะขอสืบพยานก่อนยื่นฟ้อง หรือหลังจากยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว เนื่องจากตามกฎหมายใหม่กำหนดว่าหลังจากยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว อัยการสามารถขอสืบพยานล่วงหน้าก่อนจะถึงกำหนดนัดสืบพยานจริงๆ ได้ด้วย

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีนี้จะมีการฉายวีซีดีภาพเหตุการณ์ความไม่สงบและรายละเอียดเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนแสดงต่อศาลในนัดแถลงเปิดคดี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการแถลงเปิดคดีด้วยวีซีดี เพราะปกติจะเป็นการแถลงเปิดคดีด้วยวาจาเป็นส่วนใหญ่

สำหรับผู้ต้องหา 8 คน ที่ดีเอสไอสรุปสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องเสนออัยการครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.นายแวยูโซ๊ะ แวดือราแม 2.นายมูหมัด คานาฟี ดอเลาะ 3.อุสตาซเซ๊ะ หรือนายอับดุลรอเซะ หะยีดอเลาะห์ หรือดีสะเอะ 4.นายอาหามะ บูละ 5.นายมะสุกรี ฮารี 6.นายสาแล๊ะ เด็ง 7.นายหามะ เจ๊ะเต๊ะ หรือนายซอมะ ซือแป 8.นายตอเล๊ะ ดีสะเอะ

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังจับตัวไม่ได้ 13 คน ประกอบด้วย 1.นายสะแปอิง บาซอ 2.นายอดุลย์ มูณี หรือเลาะ มุณี 3.นายการียา ยะลาแป 4.นายหีพนี มะเร๊ะ 5.นายมูริส ลาเต๊ะ 6.นายอิสมาแอล เก็งมาละฟี 7.นายมามุ บอรอดายา 8.นายอำหมัด ตือง๊ะ 9.อุสตาซ ลี หรือนายมะหะมะ รอมือลี สาแม 10.นายอับดุลราชิ สาและ หรือปะดอชิ 11.นายเด็ง อาแวจิ 12.นายรอยี หะยีเจ๊ะแว 13.นายมะดารี ฮารง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net