กรุงเทพฯ- 10 มี.ค.48 เช้าวันนี้ ศาลอาญาได้เบิกตัวนายแวยูโซ๊ะ แวดือราแม อดีตครูและหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ, นายมูหมัด คานาฟี ดอเลาะ ครูสอนศาสนา โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ, นายอุสต๊าสเซ๊ะ หรืออับดุลรอเซะ หะยีดอเลาะห์ หรือดีสะเอะ ครูสอนศาสนา โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ, นายอาหามะ บูละ ผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ, นายมะสุกรี ฮารี ผู้จัดการโรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยาลัย, นายสาแล๊ะ เด็ง ครูสอนศาสนาโรงเรียนเอกชนในจังหวัดยะลา, นายหามะ เจ๊ะเต๊ะ หรือนายซอมะ ซือแป ผู้จัดการโรงเรียนปอเนาะบ้านลำใหม่ จังหวัดยะลา และนายตอเล๊ะ ดีสะเอะ ครูสอนภาษามาลายูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 - 8 ในคดีร่วมกันเป็นกบฎแบ่งแยกดินแดน 5 จังหวัดภาคใต้ เพื่อสอบคำให้การ

โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นศาลจึงนัดแถลงเปิดคดี เวลา 9.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2548

คดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 คน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2548 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฎแบ่งแยกดินแดน, สะสมกำลังพล อาวุธ ตระเตรียมการเพื่อสมคบกันก่อการร้าย, ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อทำให้กลัวว่า จะเกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินรัฐ และทางเศรษฐกิจ, สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิด และร่วมกันเป็นอั้งยี่ - ซ่องโจร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ถึงประหารชีวิต

ทั้งนี้ ตามฟ้องระบุว่า จำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันเข้าเป็นสมาชิกคณะบุคคลขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี หรือบีอาร์เอ็น ที่ปกปิดวิธีวิธีดำเนินการ ซึ่งพวกจำเลยมุ่งหมายที่จะสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน และขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย เพื่อแบ่งแยกดินแดน ยึดอำนาจปกครองในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, สงขลา และสตูลบางส่วน มีจำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าฝ่ายกองกำลังด้านทหาร มีหน้าที่ฝึกยุทธวิธีด้านทหารแก่สมาชิก

กลุ่มสมาชิกดังกล่าว ใช้กำลังลอบทำร้าย ฆ่าพระภิกษุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ครู นักเรียน และประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งลอบวางเพลิงเผาโรงเรียน 38 แห่ง กับสถานที่ราชการ ศาสนถาน และร่วมกันปล้นอาวุธปืนของราชการด้วย