Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 14 มี.ค. 48 -- "อย่าเอาผู้ใช้ไฟในประเทศไทยมาเป็นข้ออ้างอีกเลย" นางชื่นชม สง่าราศี จากกลุ่มพลังไทย กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "สร้างเขื่อนน้ำเทิน 2: ประชาชนลาวและไทยได้ประโยชน์จริงหรือ" ซึ่งจัดขึ้นที่ ห้องประชุมจุมภฎ - พันธุ์ทิพย์ อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเทิน 2 เป็นโครงการสร้างเขื่อนในป่าน้ำเทิน ประเทศลาว เพื่อผลิตไฟฟ้าส่งขายให้กับประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีกำลังผลิตประมาณ 1,070 เมกกะวัตต์

โครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเทิน 2 เป็นการร่วมทุนระหว่างการไฟฟ้าฝรั่งเศส การไฟฟ้า สปป. ลาว บ.อิตาเลียน-ไทย จำกัด และบริษัทไฟฟ้าจำกัด (มหาชน) หรือ EGGO โดยต้นทุนของโครงการนี้มีราคาประมาณ 43 พันล้านบาทและขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากธนาคารโลกว่าจะค้ำประกันเงินกู้ให้หรือไม่

ชื่นชม กล่าวว่า ในฐานะผู้ใช้ไฟ ประสบการณ์ที่ผ่านมาจากกรณีเขื่อนปากมูนและเขื่อนลำตะคอง การพยากรณ์การพัฒนาพลังงานของไทยมีความคลาดเคลื่อน และทางเลือกในการใช้พลังงานที่มีราคาถูกกว่าก็ไม่ถูกนำมาใช้ ทำให้คนไทยต้องรับภาระค่าไฟที่มีราคาสูงโดยไม่จำเป็น

ด้านนายศุภกิจ นันทวรการ ผู้ประสานงานเครือข่ายอุตสาหกรรมและพลังงาน จากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) ให้ข้อมูลว่า จากรายงานของธนาคารโลกเองก็พบว่า หากประเทศไทยใช้พลังงานหมุนเวียนและการประหยัดพลังงาน ค่าไฟจะมีราคา 1.56 บาทต่อหน่วย ถูกกว่าการซื้อไฟจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเทิน 2 จากประเทศลาวซึ่งมีราคา 1.97 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ โครงการน้ำเทิน 2 ซึ่งคำนวณต้นทุนเมื่อหลายปีที่ผ่านมาจะได้กำไรประมาณ 277 ล้านเหรียญสหรัฐแต่เมื่อโครงการผ่านมาจนถึงปัจจุบันซึ่งต้นทุนและฐานการคำนวณต้นทุนได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว พบว่าหากดำเนินการตามเดิม โครงการน้ำเทิน 2 จะขาดทุนประมาณ 116 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ แม้การที่ประเทศไทยต้องซื้อไฟจากโครงการน้ำเทิน 2 ในราคาหน่วยละ 1.97 บาทซึ่งถือเป็นราคาที่สูงเกินไป แต่ก็เป็นราคาที่ต่ำเกินไปสำหรับประเทศลาว ซึ่งรายงานการวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ของ บ. หลุยส์ เบอร์เกอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุไว้เมื่อปี 2540 ว่า โครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 จะมีความคุ้มค่าทางเสรษฐศาสตร์สำหรับลาวก็ต่อเมื่อราคาขายอยู่ที่ 2.3 บาท

ด้านนายวีรวัธน์ ธีรประสาธน์ จากมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ กล่าวถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมของประเทศลาวจากการสร้างเขื่อนน้ำเทิน 2 ว่าป่านากาย-น้ำเทิน และที่ราบสูงนากายซึ่งจะสร้างเขื่อนน้ำเทิน 2 เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประมาณ 38 ชนิด และนกประมาณ 16 ชนิด ซึ่งสัตว์บางชนิดเป็นสัตว์หายาก นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวยังเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นเส้นทางย้ายถิ่นฐานของ ช้างป่าหลายร้อยตัว การสร้างเขื่อนน้ำเทินในบริเวณผืนป่าดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของสัตว์อย่างมาก

"โครงการน้ำเทิน 2 จะเป็นโครงการที่ทำลายสัตว์ป่าอย่างมหาศาล" นายวีรวัธน์ กล่าว

พิณผกา งามสม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net