กรุงเทพฯ-14 มี.ค.48 "ในโอกาสที่วันที่ 15 มี.ค. เป็นวันสิทธิผู้บริโภคสากล ทางกลุ่มองค์กรผู้บริโภคขอเสนอให้ อย.ทบทวนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 251 เรื่องการแสดงฉลากอาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรม นอกจากการปรุงฉลากให้ชัดเจนแล้ว ยังต้องครอบ
คลุมวัตถุดิบจากพืชจีเอ็มโอทุกชนิด ซึ่งปัจจุบันกำหนดเพียงถั่วเหลืองและข้าวโพดเท่านั้น อีกทั้งยังต้องแสดงไม่ว่าจะอยู่ในส่วนประกอบลำดับที่เท่าใด โดยปัจจุบันกำหนดให้มีการแสดงในส่วน
ประกอบที่ 3 อันดับแรกเท่านั้น" นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าว

เวลา 11.00 น. วันนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค 25 องค์กร เข้าพบนายมานิต อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เพื่อเสนอให้ อย.ทบทวนประกาศกระทรวงฯ เรื่องการแสดงฉลากอาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมหรือพันธุวิศวกรรม

ทั้งนี้เครือข่ายฯ ขอให้ อย.กำหนดให้อาหารดัดแปรพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ ต้องแสดงสัญลักษณ์ที่ชัดเจน รวมถึงขยายการควบคุมผลิตภัณฑ์มะละกอ และมันฝรั่งด้วย เนื่องจากปัจจุบันควบคุมเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวโพดเท่านั้น นอกจากนั้นจะต้องแสดงฉลากทั้งหมดแม้พืชจีเอ็มโอ ไม่ใช่ส่วนประกอบหลัก

นางสาวสารี กล่าวว่า จากการสำรวจปัญหาที่เกิดจากแสดงฉลากอาหารที่มีส่วนผสมของพืชจีเอ็มโอ พบว่า ผู้บริโภค 49.84 % ไม่ทราบว่าอาหารที่ทำจากวัตถุดิบจีเอ็มโอต้องมีฉลาก ขณะที่ 38.36 % ทราบว่าอาหารดัดแปรงพันธุกรรมต้องมีฉลาก แต่ผู้บริโภคถึง 80.98% ไม่เคยเห็นอาหารที่จำหน่ายในท้องตลาดติดฉลากจีเอ็มโอ มีเพียง 9.18% เท่านั้นที่เคยเห็นฉลากอาหารจีเอ็มโอ

นอกจากนี้จำนวนผู้บริโภคถึง 96.69 % ต้องการให้มีฉลากบ่งบอกที่ชันเจนในทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งในจำนวนนี้ 31.21% ต้องการให้มีตัวหนังสือ สี ที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีเพียง 2.6% เท่านั้น ที่เห็นว่าฉลากแบบเดิมดีอยู่แล้วไม่ต้องแก้ไข

ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคยังเสนอให้รัฐบาลไทยใช้เวทีการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการกำหนดกติกา เรื่องมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างวันที่ 8-13 พฤษภาคมนี้ โดยสนับสนุนให้กำหนดกติกาเรื่องฉลากอาหารจีเอ็มโออย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการฟ้องร้องระหว่างประเทศ

นายมานิต กล่าวว่า อย. จะพิจารณาปรับเปลี่ยนเครื่องหมายจีเอ็มโอ บนฉลากสินค้าให้ชัดเจนมากขึ้น ตามที่องค์กรผู้บริโภคเรียกร้อง ซึ่งที่ผ่านมา อย. ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ จีเอ็มโอ โดยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาระบบรับรองจากประเทศต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะนำผลที่ได้มาพิจารณาปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ภายใต้กรอบข้อตกลงการค้าขององค์การการค้าโลก