สหภาพรถไฟนัดกองทัพปรับกำลังรปภ.สายใต้

สงขลา- 16 มี.ค.48 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประชุมวางมาตรการรักษความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยและผู้โดยสาร โดยนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธาน มีนายสุพิเชษฐ สุวรรณชาตรี ประธาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ และคณะกรรมการสหภาพแรงงานฯ รวมทั้งตำรวจจากสถานีตำรวจรถไฟหาดใหญ่ แผนก 3 กองกำกับการ 2 กองตำรวจรถไฟ เข้าร่วมประชุม

นายสุพิเชษฐ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะต้องเพิ่มไฟส่องสว่างในจุดอันตราย โดยเฉพาะสถานีใหญ่, ต้องปรับพื้นที่สองข้างทางรถไฟในบริเวณรกทึบ และเนินดินให้เตียนโล่งมองเห็นได้ในระยะไกล, เพิ่มป้อมยามรักษาความปลอดภัย ระหว่างบ้านพักพนักงานกับสถานีรถไฟ, ติดตั้งเครื่องทวนสัญญาณ ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ และที่เขาเปาะเยาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อปรับปรุงระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เพิ่มโทรทัศน์วงจรปิดตามสถานีรถไฟต่างๆ โดยเชื่อมสัญญาณจากโทรทัศน์วงจรปิดมายังศูนย์ในพื้นที่เสี่ยงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และศูนย์รักษาความปลอดภัยการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่กรุงเทพมหานคร

นายสุพิเชษฐ เปิดเผยอีกว่า พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้วางมาตรการความปลอดภัย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ การทบทวนกำลังรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่หาดใหญ่ถึงสุไหงโก - ลก ในบางจุดจะมีการเพิ่มและลดจำนวนกำลังลงตามความเหมาะสม ซึ่งจะมีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย จากที่มีอยู่ 314 นาย อีกเล็กน้อย โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สหภาพฯ ประสานงานจัดประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับกองทัพภาคที่ 4 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พิจารณาร่วมกันว่า จะจัดปรับกำลังตามข้อเสนอของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้หรือไม่

"นอกจากนี้ ที่ประชุมยังขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสัมภาระของผู้โดยสาร โดยใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิด พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายในสหภาพฯ จัดทำหลักสูตรมวลชนสัมพันธ์ เพื่ออบรมพนักงานรถไฟเกี่ยวกับการให้บริการประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย" นายสุพิเชฐ กล่าว

พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับคดีลอบวางระเบิดป้อมยามรถไฟ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548 ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ เพราะจะเสียรูปคดีและคนร้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันได้ประสานงานกับกองกำกับการวิทยาการเขต 12 ยะลา ให้ตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อประมวลถึงที่มาของวัตถุระเบิดว่า เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ และให้ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ตามฝาผนังของป้อมยามให้ละเอียด พร้อมกับให้พนักงานสอบสวนดูด้วยว่า คนร้ายนำวัตถุระเบิดมาวางไว้ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งคุมเข้ม 5 อำเภอในจังหวัดนราธิวาส คือ สุไหงปาดี สุไหงโก - ลก เจาะไอร้อง ระแงะ และรือเสาะ โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำอำเภอละ 50 นาย และติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดทุกสถานี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท