ประชาไท - 30 มี.ค.48 หลังจากชาวบ้านชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย จ.สระบุรี เดินทางมายื่นหนังสือให้กรมชลประทานทบทวนการอนุมัติใช้ให้แก่บริษัท กัลฟ์ พาวเวอร์เจเนอเรชั่น จำกัด เจ้าของโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ซึ่งจะต้องสูบน้ำจากแม่น้ำป่าสักวันละ 54,000 ลูกบาศก์เมตร เนื่อง จากน้ำในแม่น้ำป่าสักปัจจุบันก็ไม่เพียงพอต่อภาคเกษตรกรรมอยู่แล้ว

ล่าสุดนายละเอียด สายน้ำเขียว รองอธิบดีกรมชลประทานได้ทำหนังสือชี้แจงว่า แม้บริษัทกัลฟ์จะยื่นขออนุญาตใช้น้ำแล้ว แต่ทางโครงการชลประทานสระบุรี สำนักชลประทานที่ 10 ซึ่งเป็นหน่วย งานในพื้นที่ที่มีอำนาจอนุมัตินั้น ยังไม่ได้อนุมัติการใช้น้ำให้แก่เจ้าของโครงการ หรืออุตสาหกรรมอื่นใดให้ใช้น้ำหรือทิ้งน้ำลงแม่น้ำป่าสัก กรมชลประทานจึงได้สั่งให้มีการชะลอการอนุมัติและทบ
ทวนการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้รอบคอบ

ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัตินั้นจะดูจากปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ เปรียบเทียบกับปริมาณการใช้น้ำของกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องจัดสรรก่อนเป็นอันดับแรก ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การประปา การ เกษตร เพื่อพิจารณาว่าจะเพียงพอต่อกิจกรรมอื่นๆ โดยไม่กระทบกับผู้ขอใช้น้ำที่มีอยู่เดิมหรือไม่

นายจรูญ พจน์สุนทร ผอ.สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลว่าน้ำต้นทุนจะมีเพียงพอกับอุตสาหกรรมที่จะเกิดใหม่หรือไม่ แต่ขอยืนยันว่ายังไม่ใช่อนุมัติการใช้น้ำปล่อยน้ำให้รายใดทั้งสิ้น แต่โรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนที่ปล่อยน้ำลงแม่น้ำอย่างเดียวโดยไม่ได้สูบขึ้นไปใช้นั้น ก็ต้องไปขออนุญาตสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด โดยไม่ต้องขออนุญาตกรมชลประทาน