ลุย "ไนท์ซาฟารี"สิงคโปร์ เชื่อจุดขายที่เชียงใหม่สู้ไม่ได้ - "ไม่มียุง !!"

"พลเมืองเหนือ" สำรวจ "ไนท์ซาฟารีสิงคโปร์" ก่อนโครงการที่เชียงใหม่จะเปิดตัวกลางเดือนหน้า คนสิงคโปร์ไม่หวั่นจะมีคู่แข่งเผยเปิดมา 10 ปี ยังติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตที่ชาวสิงคโปร์ภูมิใจ ชี้จุดเด่นต่างกัน เผยสิ่งที่นักท่องเที่ยวประทับใจคือบรรยากาศป่าที่ชุ่มชื้นและไม่มีแมลงรบกวน ชี้น้ำยังเป็นประเด็นต้องดูแลเป็นหลัก และ"ยุง"คือปัญหาที่คาดไม่ถึง

การที่ประเทศไทยได้แนวคิดการก่อสร้าง "ไนท์ซาฟารี" หรือสวนสัตว์กลางคืน โดยนำรูปแบบมาจากไนท์ซาฟารีที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการโหวตจากทางสิงคโปร์ว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมที่สุดมาเป็นต้นแบบ รวมทั้งได้ให้นายเบอร์นาร์ด แฮริสัน ผู้บริหารไนท์ซาฟารีสิงคโปร์มาเป็นผู้ออกแบบโครงการที่เชียงใหม่ด้วย ซึ่งขณะนี้ "เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"ประกาศจะเปิดตัวในวันที่ 13 เมษายน 2548

"พลเมืองเหนือ" เข้าเยี่ยม "ไนท์ซาฟารี"ที่ประเทศสิงคโปร์ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2548 พบว่า ไนท์ซาฟารีสิงคโปร์ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวสิงคโปร์เป็นอันมาก ทั้งนี้วันดังกล่าว ผู้สื่อข่าวพลเมืองเหนือได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมในรอบสุดท้ายคือราว 22.00 น. ยังคงพบว่ามีนักท่องเที่ยวแน่นขนัด

เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ 40 เฮกตาร์ ด้านหน้าจะปรากฏป้าย "ไนท์ซาฟารี" ที่มีโลโกเป็นรูปดวงตาของสัตว์ มีอาคารต้อนรับ และจุดจำหน่ายตั๋ว บริเวณด้านในซ้ายมือจะเป็นจุดจำหน่ายเบอร์เกอร์ "บองโก" ด้านขวาเป็นร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ที่มีทั้งสิ่งของที่เป็นตราไนท์ซาฟารี และตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ ลึกเข้าไปด้านในเป็นร้านอาหาร

นักท่องเที่ยวจะได้ไปชมจุดแสดงพฤติกรรมสัตว์ ซึ่งมีลานแสดงที่ตกแต่งเป็นป่า และมีผู้ชมนั่งโดยรอบ การแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมสัตว์หากินกลางคืนใช้เวลาราว 30 นาที เริ่มต้นโดย "ซูจาต้า"เจ้าหน้าที่แสดงโชว์ สร้างความเป็นกันเองกับผู้ชม โดยอธิบายว่าสัตว์ที่แสดงหากินกลางคืน แฟลชจากกล้องอาจเป็นอันตราย ขอผู้ชมงดใช้และขออาสาสมัครผู้ชมจากประเทศต่างๆ ได้แปลความหมายให้รู้กันทั่วด้วย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

การแสดงเริ่มต้นด้วยการเดินผ่านป่าด้านหน้าการแสดงของตัวไฮยีน่า การคุ้ยขยะของแรคคูน การเก็บขยะของตัวนาค การกระโดดกินอาหารของเสือดาว ผู้ชมตื่นตาตื่นใจและมีส่วนร่วมกับการแสดงเมื่อนกฮูกบินข้ามศรีษะผู้ชมไปจับเชือกที่พาดผ่านอยู่ด้านบน จากนั้นสัตว์หน้าตาแปลกลักษณะคล้ายหมี ได้ปีนเชือกเส้นเดียวกันนั้นอยู่เหนือหัวผู้ชม บางตัว คายอาหารน้ำลายยืดตกลงในที่ผู้ชม ทำให้ต้องวิ่งหนีจ้าละหวั่น บางช่วงของการแสดงพยายามเรียกเสียงหัวเราะของผู้ชมด้วยการแสดงที่แสร้างทำให้ผู้ฝึกหน้าแตก เช่นการไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของสัตว์เป็นต้น

พิธีกรยังให้อาสาสมัครมาเล่นเกมกับสัตว์ โดยมีการสร้างสถานการณ์ว่ามีคนทำสัตว์เลี้ยงหายไป เดินหาไปทั่วที่นั่งการแสดง ปรากฏว่าพบอยู่ใต้ที่นั่งคนดูซึ่งคืองูเหลือมขนาดยักษ์ ที่ทำให้ผู้ชมที่นั่งอยู่แถบนั้นวิ่งหนีอีกครั้ง แต่เมื่อพอคาดเดาเหตุการณ์ได้ว่าเป็นการแสดงก็กลับเข้ามาชมอย่างตั้งใจ ซึ่งก็มีการให้อาสาสมัครได้กล้าตายพาดงูเหลือมตัวนั้นไว้กับตัว

ซูจาต้า สาวน้อยเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอนสัตว์ในการแสดงโชว์ของไนท์ซาฟารีสิงคโปร์ กล่าวว่าการใช้เวลาในการฝึกเพื่อให้สัตว์ได้แสดงถึงพฤติกรรมการหากินในตอนกลางคืน หรือการรับคำสั่งของผู้ฝึกนั้น โดยทั่วไปจะไม่น้อยกว่า 1-2 สัปดาห์ อยู่ที่ความพร้อมของสัตว์และความเข้าใจในพฤติกรรมของสัตว์ด้วย โดยตัวเธอเองทำงานในส่วนของการแสดงนี้มา 4 ปี มีเจ้าหน้าที่ในส่วนของการแสดงราว 5 คนยอมรับว่าการฝึกสัตว์ รวมทั้งการแสดงร่วมกันสัตว์ และอาสาสมัครเป็นเรื่องยาก ที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนรับมือกับแต่ละสถานการณ์มาก อย่างไรก็ตาม ซูจาต้ายังไม่รู้ว่าประเทศไทย(เชียงใหม่) กำลังจะมีไนท์ซาฟารี และไม่มีความเห็น

จากจุดแสดงสัตว์ ผู้ชมจะได้นั่งรถแทรมเพื่อชมสัตว์ในส่วนจัดแสดงที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนของตะวันตก และตะวันออก ใช้เวลาราว 45 นาที ระยะทาง 3.2 กม. ซึ่งจะมีผู้บรรยายอธิบายถึงพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ ที่รถวิ่งผ่าน .ซึ่งนอกจากจะได้เห็นสัตว์หน้าตาแปลกที่พฤติกรรมส่วนใหญ่คือการออกมากินอาหาร แบบใกล้ชิดติดรถ เช่นกวาง แพะภูเขา สิงโต แรด ยุราฟ บองโก ควายไทย ช้าง เสือ ฮิปโป ยีราฟ จุดเด่นของการชมไนท์ซาฟารีโดยรถแทรมนี้คือการบรรยายของเจ้าหน้าที่ที่ใช้น้ำเสียงน่าติดตาม ตื่นเต้น และท้าทาย น่าค้นหา รวมทั้งบรรยากาศที่ให้รถลุยน้ำ บุกป่าได้อย่างสมจริง แต่ไม่สมบุกสมบัน นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถลงจากรถแทรมที่สถานีและเดินเข้าชมสัตว์ในบางจุดได้ด้วย ที่สำคัญความปลอดภัยของพื้นที่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยประจำจุดทักทายให้นักท่องเที่ยวมั่นใจเป็นระยะ ทั้งนี้ไนท์ซาฟารีสิงคโปร์ระบุว่ามีสัตว์ให้ได้ชมมากกว่า 1,200 ตัว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าชมไม่ต่ำกว่า 9 แสนคน

โจซิฟิน โอ มัคคุเทศก์ชาวสิงค์โปรให้สัมภาษณ์ว่า คนสิงคโปร์ส่วนมากจะไม่ทราบว่าเชียงใหม่จะมีไนท์ซาฟารี เพราะตัวเธอซึ่งอยู่ในวงการท่องเที่ยว ก็รับทราบข้อมูลจากนักท่องเที่ยวคนไทยและรู้ว่า ดร.เบอร์นาร์ด แฮริสันได้ไปเป็นที่ปรึกษาโครงการให้ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยบอกเธอว่า เมื่อไทยมีไนท์ซาฟารีแล้วก็จะไม่มาเที่ยวสิงคโปร์แล้ว แต่เธอคิดว่าหากแม้จะมีไนท์ซาฟารีขึ้นมาอีกสัก 1 แห่ง แต่ก็คิดว่าบรรยากาศคงจะไม่เหมือนกัน และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของสิงคโปร์มากนัก

"เชื่อว่าคนไทยก็คงยังอยากจะมาท่องเที่ยวที่สิงคโปร์อยู่เพราะ ได้ความรู้สึกว่าได้มาต่างประเทศ อย่างเช่น Under Water World แม้จะไปเปิดที่พัทยาแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวชมที่สิงคโปร์อยู่ ซึ่งการที่ผู้คนที่มาท่องเที่ยวไนท์ซาฟารีที่สิงคโปร์ เพราะประทับใจในความเป็นป่าที่สร้างขึ้นคล้ายธรรมชาติและไม่มียุงหรือแมลงรบกวน ซึ่งเป็นเพราะสิงค์โปรรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีที่ไม่ใช่เฉพาะในไนท์ซาฟารี แต่เป็นทั้งเกาะสิงคโปร์ ซึ่งเรามักจะพบว่าไม่ว่าป่าที่ไหน ก็จะมียุงมารบกวน แต่ที่ไนท์ซาฟารีไม่มียุงเลย"

โจ ยังบอกอีกว่าการบริหารจัดการของไนท์ซาฟารีนอกจากหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงแล้ว ยังเปิดให้หน่วยงาน บริษัท และประชาชนในสิงคโปร์ได้ร่วมกันดูแลและอนุรักษ์ โดยมีลักษณะการรับเป็นสปอนเซอร์ หรือรับเลี้ยงดูสัตว์บางชนิดในไนท์ซาฟารี ซึ่งจะมีป้ายแสดงให้รับรู้ว่าใครเป็นผู้ดูแลสัตว์ชนิดใดเป็นระยะ

มารีออน โฟคท์ ผู้จัดการการตลาดหนังสือพิมพ์เชียงใหม่เมล์ ซึ่งร่วมเดินทางไปชมไนท์ซาฟารีประหลาดใจที่ไม่มียุงหรือแมลงในไนท์ซาฟารี โดยบอกว่า ยุงเป็นสัตว์ที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติใดก็วิตกที่จะถูกมันกัด

นายอำนาจ จงยศยิ่ง เจ้าของหนังสือพิมพ์ภาคเหนือรายวันแสดงความเห็นว่า การแสดงโชว์ในไนท์ซาฟารีปรับปรุงให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมมาก ขณะที่บรรยากาศด้านในก็มีความเป็นป่าธรรมชาติซึ่งเขียงและรกครึ้มตลอด ซึ่งน่าจะเป็นเพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่ภูมิอากาศชุ่มชื่น มักจะมีฝนตกตลอดปี ขณะที่พื้นที่ก่อสร้างไนท์ซาฟารีของเชียงใหม่ค่อนข้างแห้ง คงจะต้องใช้น้ำมหาศาลที่จะจัดการให้มีความชุ่มชื้น

เมื่อเปรียบเทียบพื้นที่โครงการไนท์ซาฟารีของสิงคโปร์และเชียงใหม่แล้ว พบว่า พื้นที่ของเชียงใหม่มีข้อได้เปรียบสิงคโปร์อยู่มาก เพราะกว้างขวางกว่าถึง 400 ไร่ หากเปิดตัวและบริหารจัดการให้ได้สมบูรณ์แบบ ย่อมยิ่งใหญ่และที่อื่นอาจต้องใช้เวลาถึง 10 ปีถึงจะเอาชนะได้ แต่การจัดการและเงื่อนไขภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อาจเป็นปัญหาสำคัญให้ต้องแก้ไข

ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะต้องเผชิญกับยุง หรือแมลงกลางคืนนานาชนิดหรือไม่ และจะจัดการอย่างไร ในเมื่อสภาพแวดล้อมของเมืองเชียงใหม่ไม่ได้ถูกจัดการให้อยู่ในสภาพ หมดจดและเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนไนท์ซาฟารีที่ประเทศสิงคโปร์

ด้านน้ำใช้ แม้จะมีการขุดบ่อบาดาล และมีอ่างเก็บน้ำ แต่สภาพป่าโปร่งที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นอยู่ จำเป็นจะต้องปลูกไม้เสริมเพื่อให้ได้บรรยากาศความรกครึ้ม ที่สำคัญจะต้องดูแลใช้น้ำอย่างต่อเนื่องมหาศาล เนื่องจากเชียงใหม่แม้จะมีฝนตกตลอดช่วงฤดูฝน แต่ต้องไม่ลืมว่าเมื่อถึงฤดูแล้งถึงขั้นแล้วต้องทำฝนเทียม

เส้นทางเดินรถแทรม ที่สิงคโปร์ได้ใช้บรรทุกนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 คันพ่วง เดินทาง 1 รอบ นำนักท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน ขณะที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีสภาพพื้นที่เป็นการขึ้นเขา ลงเขา รถแทรมไม่อาจพ่วงแบกน้ำหนักขึ้นเขาได้แน่ ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนมาใช้ลักษณะรถกอล์ฟ ซึ่งนั่งได้ไม่เกินคันละ 5 คนและอาจไม่คุ้มค่าในการบริหารจัดการนำชม

บุคลากรที่เข้าใจและเชี่ยวชาญในการฝึกสัตว์ ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องสร้างหากจะเปิดตัวสู่ตลาดการท่องเที่ยวระดับบน

จนถึงขณะนี้นับถอยหลังไม่ถึง 2 สัปดาห์ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลังจาก 2 สัปดาห์ที่แล้วซีอีโอโครงการมาตรวจและยังยืนยันว่าจะเปิดตัวในวันที่ 13 เมษายน 2548 นี้อยู่

ทั้งนี้ หากในแง่ของสิ่งปลูกสร้างที่แล้วเสร็จแล้ว และการเร่งเครื่องนำสัตว์เข้ามา คือการตอบโจทย์ที่ว่าได้ "เปิดตัว" แล้ว ก็อาจใช่ ! แต่นับจากนานทีนั้น ตัวเลขค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ และบริหารจัดการโครงการจะเริ่มต้นขยับขึ้นทันที ซึ่งย่อมเป็นภาระค่าใช้จ่ายอันหนักหน่วงและใหญ่หลวงแน่ ขณะที่ความพร้อมรับและจัดการกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามานั่นต่างหากที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งเมื่อได้ไปเห็นการจัดการของต้นแบบคือ"สิงคโปร์ไนท์ซาฟารี"แล้ว

เชื่อว่าตลอดปี 2548 นี้ยังอาจต้องเป็นช่วงเวลาแห่งการจัดระบบให้เข้าที่เข้าทางของ "เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"

ขอบคุณ : การท่องเที่ยวสิงคโปร์, ไทเกอร์แอร์เวย์ส และบริษัทอิมเมจ อิมแพค จำกัด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท