5 เมษายน 2548

เรื่อง ข้อเรียกร้องของประชาชนไทยต่อการเจรจาจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา
เรียน ผู้แทนการค้าของสหรัฐ/ประธานาธิบดี

ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้มีการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (Free Trade Area) ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนตุลาคม 2546 โดยมีการเจรจามาเป็นลำดับ และจะมีการเจรจาในรอบที่ 3 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 4-8 เมษายน 2548 ณ เมืองพัทยา นั้น

จากการศึกษากรอบและเป้าหมายการเจรจาของสหรัฐกับประเทศไทย ในจดหมายที่ทางผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เสนอต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2547 และในกฎหมาย Trade Promotion Authority 2002 ของสหรัฐ รวมทั้งการติดตามเนื้อหาข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่สหรัฐอเมริกาได้ทำกับประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์, ชิลี, จอร์แดน, โมร็อกโค, ออสเตรเลีย เป็นต้น

มีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า ถ้าประเทศไทยต้องทำข้อตกลง FTA กับสหรัฐ จะก่อให้เกิดกระทบอย่างกว้างและรุนแรงต่อประชาชนไทยในทุกสาขาอาชีพ ทั้งในด้านเกษตร ด้านการลงทุน ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐ

ด้วยเหตุนี้ องค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ และประชาชน ตามที่มีรายชื่อปรากฏแนบท้ายจดหมายฉบับนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำการเจรจาข้อตกลง FTA กับ ประเทศไทย ในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้

1. ให้นำประเด็นเรื่องการขยายหรือการเพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาออกจากการเจรจา FTA เนื่องจากเป็นข้อเรียกร้องที่เข้มงวดกว่าที่กำหนดในข้อตกลง ทริปส์ขององค์การการค้าโลก ขัดแย้งกับปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration)

ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของสหรัฐในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การคุ้มครองในสิทธิบัตรในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด การขยายเวลาการคุ้มครองสิทธิบัตรและการผูกขาดข้อมูล (Data Exclusivity) ฯลฯ ล้วนเป็นข้อเรียกร้องที่ขัดกับหลักการค้าเสรี และจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนไทยในการเข้าถึงยารักษาโรค ทำให้พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์มีราคาสูงขึ้น สร้างปัญหาการผูกขาด ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ฯลฯ

นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลงในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ในองค์การการค้าโลก ประเทศไทยก็ได้ปฏิบัติตามอย่างสอดคล้องอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลชอบธรรมที่จะต้องมีการกำหนดข้อบังคับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเติมขึ้นอีกในข้อตกลง FTA

2. ให้มีการเปิดเผยข้อมูล ข้อเรียกร้องของสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาทั้งหมดต่อสาธารณะ เพื่อให้กระบวนการเจรจาเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นการเคารพและคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการรับรู้และเข้าถึงข้อมูลที่เป็นนโยบายสาธารณะ และก่อให้เกิดธรรมาภิบาล อันเป็นหลักการสำคัญอย่างยิ่งของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะได้เข้าใจถึงเหตุผลและความสำคัญของข้อเรียกร้องต่าง ๆ ดังกล่าว และมีการนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

1. เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์แห่งประเทศไทย
2. เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
3. เครือข่ายสลัม 4 ภาค
4. สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ
5. สมัชชาคนจน
6. นิสิตนักศึกษาจากทั่วประเทศ
7. กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)