"งบกลาง คือ งบลอยๆที่จะเอาไปใช้อะไรก็ได้ เป็นพระราชบัญญัติที่แย่มากๆ ไม่มีรายละเอียดให้เจ้าของเงินดู ไม่เคารพสภา ไม่เคารพประชาชน เพราะเงินงบประมาณทุกบาทต้องผ่านสภา" ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สว.กรุงเทพฯ กล่าว

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กล่าวว่า งบกลางยิ่งมีสูงยิ่งไม่เป็นผลดี เพราะเงินจะไม่มีประสิทธิภาพในการใช้ เหมือนบอกว่านำเงินไปใส่ส่วนกลาง แต่ไม่บอกว่าเอาไปทำอะไร ใช้อย่างไร เป็นวิธีที่เลวที่สุด สร้างโครงการสวยๆ ใช้คำสวย แต่ไม่ให้รายละเอียดและไม่มีการตรวจสอบ

"เดิมเป็นงบที่มีเอาไว้เอาไว้ฉุกเฉินก็มีอยู่บ้าง แต่ในยุคทักษิณเอาไปใส่เป็นงบกลางชัดเจน สมัยก่อนมีไม่มากเข้าใจได้ ถ้าเป็นงบประมาณ เป็นเงินประชาชนต้องชัดเจน" ดร. เจิมศักดิ์ กล่าว

ดร.เจิมศักดิ์ได้อธิบายต่อว่า การจัดสรรงบประมาณว่าอะไรควรใช้ทำอะไร ควรเป็นอำนาจของรัฐสภา ไม่ใช่อำนาจบริหาร การผ่านสภาเป็นการตรวจสอบและมีรายละเอียดชัดเจนว่าจะใช้เพื่อทำอะไร แม้รัฐบาลจะอ้างว่า งบกลางสามารถตรวจสอบได้ ก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะไม่รู้ว่าจะเงินงบกลางจะเอาไปใช้ทำอะไรตั้งแต่แรก เหมือนไม่ใช่เป็นเงินของประชาชน เป็นเงินของคนกลุ่มเดียวที่อยากจะใช้อะไรก็ได้ เป็นการข่าวที่ไม่โปร่งใส ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ขาดการมีส่วนร่วมของตัวแทนประชาชน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง งบกลาง 50,000 ล้านบาทที่มาจากเงินรายได้สุทธิที่สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นด้วยให้ดำเนินการลักษณะงบกลางวันนี้ (12 เม.ย. 48) นายเจิมศักดิ์กล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียดคงให้ความเห็นมากไม่ได้ ต้องดูรายละเอียดของเงินดังกล่าวก่อน คิดว่ารัฐบาลคงมีเงินจริง แต่ไม่ทราบว่ามาจากไหนแน่ เพราะรัฐบาลชุดนี้เก่งด้านการตกแต่งบัญชีให้สวย เงินที่ดูสูงอาจมาจากการกู้แฝงก็ได้

"กองทุนหมู่บ้านก็เป็นลักษณะนั้น เงิน 27,000 ล้านบาท รัฐบาลไม่มีเงินก็แต่งบัญชีให้ออมสินออกเงินกู้ให้โดยตรงกับหมู่บ้าน แต่รัฐค้ำหรือค่อยๆผ่อน ก็เหมือนกับรัฐไม่มีหนี้ตรงนั้น เป็นลูกเล่น"