กรุงเทพฯ- 15 เม.ย.48 นักสิ่งแวดล้อมตกตะลึงเมื่อพบว่ารัฐบาลบุชโดยการดำเนินการของหน่วยงานบริหารและงบประมาณ(OMB) ได้ทำลายความเข้มงวดในแนวทางการประเมินความเสี่ยงต่อมะเร็งของสารเคมีหลายชนิด ซึ่งหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (Environmental Protection Agency- EPA) ได้กำหนดไว้

โดยสาระสำคัญอยู่ที่การเปิดช่องของOMBให้อุตสาหกรรมทั้งหลายท้าทายต่อกฎด้านสิ่งแวดล้อมนี้ ซึ่งมีความหมายอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้บริษัทเคมีทั้งหลายยืดระยะเวลาการเก็บผลิตภัณฑ์ออกจากตลาดแม้จะชัดเจนแล้วว่า ผลิตภัณฑ์ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งในเด็กได้ก็ตาม

เจนนิเฟอร์ แซส นักวิทยาศาสตร์แห่งสภาคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติเผยว่า "รัฐบาลตัดสินใจในเรื่องนี้โดยเห็นความสำคัญของการปกป้องอุตสาหกรรมเคมีมากกว่าที่จะป้องกันเด็กๆ จากโรคมะเร็ง"

เจนนิเฟอร์ แซสและเพื่อนร่วมงานโต้แย้งอย่างหนักต่อการที่OMBกำหนดให้มีการรับฟังข้อมูลจากผู้ชำนาญการ หรือ "expert elicitation" ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ผู้ประกอบการโรงงานเคมีและลอบบี้ยิสต์เข้ามามีส่วนร่วมในการถกเถียงถึงการนำแนวทางใหม่ในการประเมินความเสี่ยงต่อมะเร็งมาใช้ และเป็นไปได้ที่จะทำให้มีการเพิ่มจำนวนปีของกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับสารเคมีที่สร้างปัญหา

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการเพิ่มเงื่อนไขให้EPA ต้องประเมินผลการเกิดมะเร็งตามมาตรฐานในพระราชบัญญัติคุณภาพข้อมูล ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นจากความพยายามของล๊อบบี้ยิสต์ในอุตสาหกรรมบุหรี่เพื่อทำให้พระราชบัญญัติคุ้มครองเป็นโมฆะ

"ทำเนียบขาวได้ทำให้แนวทางปฏิบัติที่แข็งขันในการปกป้องคุ้มครองเด็กของเราจากมะเร็งกลายเป็นกระสอบทรายสำหรับอุตสาหกรรม" เจนนิเฟอร์ แซส กล่าวพร้อมให้ความเห็นสรุปว่า "บริษัทเคมีหลายแห่งสามารถกลุ้มรุมกันทุบให้มาตรการป้องกันอันใหม่นี้เป็นหมันได้เลยทีเดียว กลายเป็นชัยชนะของอุตสาหกรรมเคมีในขณะที่เด็กๆของเราต้องพ่ายแพ้

แปลและเรียบเรียงจาก
White House Dilutes EPA Cancer Risk Rules โดย Roddy Scheer
http://www.emagazine.com/view/?2449
Sources: www.ombwatch.org/article/articleview/2772/1/1?ToD=1
andhttp://www.nrdc.org/media/pressreleases/050329a.asp