Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 22 เม.ย. 48 นายวันชัย รุจินวงศ์ อธิบดีกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน และหัวหน้าโครงการวิจัย "การพัฒนากฎหมายป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" เสนอแนวทางป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมแบบบูรณาการ ระบุต้องใช้ความร่วมมือระดับสากล

นายวันชัย รุจินวงศ์ เสนอผลงานการวิจัยโครงการวิจัย "การพัฒนากฎหมายป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยระบุว่า ปัญหาการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในประเทศไทยเกิดจากปัญหาพื้นฐาน 3 ประการคือ กฎหมายที่ล้าสมัย ไม่เอื้อต่อการป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรม, หน่วยงานที่มีอยู่ คือกรมสอบสวนคดีพิเศษเพิ่งเริ่มดำเนินการ ยังไม่ได้พัฒนาความชำนาญเป็นพิเศษในการป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมซึ่งต้องรวมเอาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาทำงานร่วมกันเพื่อให้เป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมอย่างครบวงจรและครบทุกด้าน และที่ผ่านมา ประเทศขาดแนวนโยบายและความมุ่งมั่นทางการเมือง (Political will) ในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและเป็นระบบ

สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น ประกอบไปด้วย การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยกำหนดเป็นความผิดมูลฐานที่ 9 ว่า "การฟอกเงินที่กระทำโดยองค์กรอาชญากรรมหรือสมาชิกองค์กรอาชญากรรม หรือโดย ตัวแทนไม่ว่าเงินหรือทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดนั้นจะเป็นความผิดใดก็ตาม" ซึ่งจะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อบุคคลธรรมดาและประชาชนทั่วไป แต่มุ่งเจาะไปที่องค์กรอาชญากรรมและสมาชิก

ให้กำหนดความผิดฐานทุจริตและการฉ้อราษฎร์บังหลวงให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพและเพิ่มโทษการกระทำการทุจริตและการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรมหรือ เอื้อประโยชน์ต่อกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรม

พัฒนากฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อให้ทันสมัยและสามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้โดยรวดเร็ว, พัฒนากฎหมายและกระบวนการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางอาญาให้มีความชัดเจนเพื่อให้ดำเนินการได้ไม่เฉพาะในเรื่องทางอาญาแต่ให้ครอบคลุมกรณีทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา

ต้องสร้างมาตรการคุ้มครองพยานและผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพและเพียงพอที่จะทำให้ผู้เสียหายและพยานมีความมั่นใจในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในคดีที่มีการสืบสวน สอบสวนและฟ้องร้องสมาชิกองค์กรอาชญากรรม

พัฒนาการสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ ปราบปรามองค์กรอาชญากรรมของประเทศต่าง ๆ เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดของ องค์กรอาชญากรรมได้ผลอย่างเต็มที่และไม่ถูกจำกัดด้วยพรมแดนอีกต่อไป

สร้างและพัฒนากระบวนการการใช้เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ เช่น การดักฟังการสนทนาทั้งทางตรง ทางโทรศัพท์ หรือทางการสื่อสารอื่น เช่นทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการใช้สายลับเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมเพื่อหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับสมาชิก องค์กรอาชญากรรมทั้งหมด

จัดให้มีมาตรการส่งเสริมให้ผู้กระทำความผิดร่วมมือให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ด้วยการให้มีการต่อรองคำรับสารภาพโดยการลดข้อกล่าวหาให้กับผู้กระทำผิดรายย่อยหรือกันไว้เป็นพยาน, จัดให้มีการเก็บ วิเคราะห์ การกระทำผิด ข้อมูลประวัติอาชญากรรมและการให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร

การแก้กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดขององค์กรอาชญากรรมเพื่อใช้การปรับเป็นการลงโทษเพิ่มเติมจากการจำคุกและการประหารชีวิต ,และการพัฒนาหน่วยงานพิเศษเป็นการถาวรเพื่อทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรมโดยเฉพาะ โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญในศาสตร์ด้านต่างๆ ที่จำเป็นในการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับองค์กรอาชญากรรมเข้าไว้ด้วยกันให้ทำงานร่วมกันและเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการกับองค์กรอาชญากรรมอย่างมืออาชีพ

นายวันชัยกล่าวด้วยว่า แม้รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินมาตรการที่เอาจริงเอาจังในการต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมโดยการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรายใหญ่และมาตรการการปราบปรามผู้มีอิทธิพลปรากฏว่าการทำสงครามกับยาเสพติดประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจแต่มาตรการในการปราบปรามผู้มี อิทธิพลกลับไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ทั้งนี้เป็นเพราะอิทธิพลทั้งทางด้านอำนาจ ด้านการเงิน ด้านการเมืองและความซับซ้อนของกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรม ตลอดจนการที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็นความสำคัญในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรม

และในบางกรณีเจ้าหน้าที่บางคนไม่สามารถละวางผลประโยชน์ที่ได้รับจากองค์กรอาชญากรรมอยู่เป็นประจำได้จึงทำให้การปราบปรามทำไม่ได้ผลเท่าที่ควรอย่างเช่นการปราบปรามยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม นายวันชัยกล่าวว่า ภัยจากองค์กรอาชญากรรมไม่ว่าจะเป็น ขบวนการค้ายาเสพติด คอรัปชั่น ก่อการร้าย การค้ามนุษย์ และอื่น ๆ เป็นปัญหาร้ายแรง เป็นภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ และไม่มีประเทศใดจะรอดพ้น การแก้ไขจึงไม่อาจทำได้เพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังและจริงใจในทุกฝ่ายทุกระดับ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net