จดหมายจากบริษัทจีอี ถึงนายกรัฐมนตรีไทย*

(จดหมายฉบับดังกล่าวปรากฏอยู่ในเว็ปไซด์ของสำนักนายกรัฐมนตรี) http://www.thaigov.go.th/news/press/48/pr14may48.doc

บริษัทจีอี, เท็กซัส สหรัฐอเมริกา
12 พ.ค.48
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

ตามที่สื่อมวลชนในประเทศไทยได้ให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อการเสนอซื้อขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดCTX 900 จากบริษัท จีอี เพื่อติดตั้งในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และได้มีการรายงานข่าวที่อาจสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทอินวิชั่น เทคโนโลยีส์ (อินวิชั่น) ก่อนที่บริษัทจะถูกรวมกิจการกับบริษัท จีอี นั้น

บริษัท จีอี รู้สึกเสียใจที่การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเป็นไปในลักษณะที่บิดเบือนผลตรวจสอบของบริษัทอินวิชั่นฯ รวมทั้งมีการรายงานข่าวที่ผิดพลาดว่าการตรวจสอบของอินวิชั่นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับการจ่ายเงินอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่บริษัทจะต้องมีหนังสือเพื่อชี้แจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนี้

บริษัท จีอี ได้เข้าควบรวมกิจการกับอินวิชั่นฯ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้จัดหาเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด สำหรับการติดตั้งในสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2547 ซึ่งก่อนหน้าที่บริษัทจีอีจะเข้าควบรวมกิจการกับอินวิชั่นนั้น ได้มีการรายงานโดยแหล่งที่ไม่เปิดเผยว่า ในการดำเนินธุรกรรมการขายของอินวิชั่นฯ ในประเทศไทยนั้น มีความเป็นไปได้ว่า อาจมีการจ่ายเงินอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งจีอีได้แจ้งให้อินวิชั่นฯ ทราบเกี่ยวกับข้อหาดังกล่าวและอินวิชั่นได้ดำเนินการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการซื้อขายต่างๆ ในต่างประเทศ รวมทั้งพฤติกรรมของพนักงาน ที่ปรึกษา และผู้จำหน่ายบางคนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ โดยจีอีเข้าร่วมในการตรวจสอบด้วย

ในระหว่างการตรวจสอบนั้น อินวิชั่นฯ ไม่ได้ทำการสัมภาษณ์หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยแต่อย่างใด และไม่ได้คำนึงถึงการวิเคราะห์ต้นทุนภายในของบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (NBIA) ที่ได้มีการรายงานเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2548 ทั้งนี้ อินวิชั่นฯ ได้รายงานผลการตรวจ
สอบภายในให้แก่เจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายของสหรัฐ ฯ ทราบ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายของสหรัฐ ฯ ว่า อินวิชั่นฯ จะรับผิดชอบต่อการกระทำของลูกจ้าง ตัวแทนและผู้จำหน่ายของบริษัท และยอมรับข้อความที่ระบุไว้ในข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการซื้อขายในประเทศไทย จีน และฟิลิปปินส์ มีความถูกต้อง ถึงแม้ว่าข้อตกลงดังกล่าว จะสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐ ฯ สรุปว่า อินวิชั่นฯ ได้ละเมิดกฎหมายการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯ (the U.S. Foreign Corrupt Practices Act -FCPA) ก็ตาม แต่การละเมิดข้อกฎหมาย FCPA นั้น ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้รับหรือยอมรับข้อเสนอรับเงินที่พึงมิชอบ

สำหรับการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยนั้น อินวิชั่นฯ ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยได้รับเงินที่พึงมิชอบหรือรับข้อเสนอการจ่ายเงินอย่างไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ซึ่งผลการตรวจสอบดังกล่าวนั้นไม่ขัดต่อการที่ทางการสหรัฐฯ มีข้อสรุปว่า อินวิชั่นฯ ได้ทำการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ

ภายใต้กฎหมายสหรัฐ ฯ ถือว่าบริษัทต่าง ๆ ได้ทำการละเมิดกฎหมาย FCPA หากพบว่า มีการเสนอหรือสัญญาว่าจะให้เงินที่ไม่ถูกต้อง แม้จะไม่มีหลักฐานปรากฏชัดว่า มีรับเงินดังกล่าวจริง ในความเป็นจริงบริษัทสหรัฐ ฯ อาจถูกข้อหาว่าละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานว่า มีการรับเงินโดยเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ดังปรากฏในเอกสาร "Lay-person" s Guid to the FCPA Statute" (ปรับปรุงเมื่อเดือนธันวาคม 2547) ซึ่งหาได้ในเว็บไซต์ (http://www.usdai.gov/criminal/fraud/fcpa/daidocb.htm) เอกสารดังกล่าวระบุว่า "ภายใต้ FCPA นั้น การทุจริตไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ การเสนอหรือการสัญญาว่าจะให้ในทางทุจริตนั้นสามารถเข้าข่ายการละเมิดกฎหมายได้"

ข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายของสหรัฐฯ อนุญาตให้จีอีสามารถดำเนินการขายตรงกับหน่วยงานของรัฐบาลไทย ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการขายเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 900 ให้กับท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่โดยตรง จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งจีอีพร้อมที่จัดส่งและเตรียมความเรียบร้อยในการจัดหาอุปกรณ์ การขนส่ง การติดตั้ง การตรวจสอบ รวมทั้งการดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็น โดยผ่านบริษัทไทยที่จดทะเบียนในฐานะบริษัทลูกของจีอีโดยตรง

ทั้งนี้ จีอี ได้มีการหารือกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ ประจำประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งกับเอกอัครราชทูตลาฟ เอล บอยส์ ด้วย โดยสถานเอกอัครราชทูต ฯ ได้เสนอแนะให้มีการขายครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 900 กับสนามบินนานานาชาติสุวรรณภูมิหรือหน่วยงานของรัฐบาลไทยโดยตรง ซึ่งแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายของสหรัฐฯ ภายหลังที่ได้มีการเปิดเผยผลตรวจสอบของอินวิชั่นฯ ว่าการขายตรงนั้นสามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ จีอี รู้สึกเสียใจที่การรายงานข่าวเกี่ยวกับผลการตรวจสอบของบริษัทอินวิชั่นฯ เกี่ยวกับพฤติ กรรมของพนักงาน ตัวแทนและผู้จัดจำหน่ายของบริษัท ได้ถูกบิดเบือนในการรายงายข่าว ทั้งนี้
จีอี รู้สึกชื่นชมต่อการที่บริษัทได้ดำเนินความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับประเทศไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา และหวังว่าหนังสือฉบับนี้จะทำให้ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการขายเครื่อง มือให้กับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมีความชัดเจนและถูกต้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังที่จะยังคงความสัมพันธ์อันดีกับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและรัฐบาลไทยต่อไป

ด้วยความเคารพ
เอ หลุยส์ ปาร์เกอร์
ผู้บริหารเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ

เพื่อทราบ : เอกอัครราชทูตลาฟ เอล บอยส์
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกา ประจำประเทศไทย
นายสุระ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายมาร์ก เอฟ เมนเดอวัน
รองผู้บริหาร ฝ่ายกระทำผิด แผนกอาญา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ฯ
นายไมเคิล เจ เดลานี
ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท