เหมืองโปแตชมา นาเกลือล่ม แฉ ซีพี มีเอี่ยวร่วมผลักดัน

อุดรธานี- 24 พ.ค.48 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 พ.ค. 48) ที่สหกรณ์ผู้ประกอบการนาเกลือบ้านดุง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลโครงการเหมืองแร่โปแตชกับผลกระทบต่อชาวนาเกลือ โดยมีกลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษาและกลุ่มศึกษาปัญหาดินเค็มและการจัดการทรัพยากรแร่ ภาคอีสาน ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ติดตาม ศึกษาวิจัยข้อมูล โครงการเหมืองแร่โปแตชและสภาพปัญหาความเค็มของพื้นดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมให้ข้อมูล และผู้ประกอบการนาเกลือบ้านดุงให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนข้อมูล กว่า 50 ราย

นาเกลือบ้านดุงเป็นพื้นที่ประกอบการเกลือสินเธาว์ ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของภาคอีสาน โดยมีการก่อตั้งเป็นสหกรณ์มากว่า 20 ปี มีสมาชิก 180 ราย เนื้อที่ประกอบการกว่า 5 พันไร่ ซึ่งใช้วิธีการสูบน้ำใต้ดินที่มีความเค็มขึ้นมาต้มและตากแล้ว จะได้เกลือสินเธาว์เพื่อการบริโภคในครัวเรือน รวม
ทั้งเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมเช่น โรงงานกระจก,พลาสติก อุตสาหกรรมผักดอง อุตสาหกรรมฟอกย้อม อุตสาหกรรมน้ำแข็ง หรือแม้แต่การทำฝนเทียม เป็นต้น ในปัจจุบันนาเกลือบ้านดุงสามารถผลิตเกลือสินเธาว์ได้ปีละประมาณ 2 แสนตัน ราคาตันละ 700-800 บาท

ทั้งนี้ โครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะมีการผลิตแร่โปแตชในปริมาณ 2 ล้านตันต่อปี แล้วจะได้เกลือจากกระบวนการแยกแร่เป็นปริมาณ 4 ล้านตันต่อปี นำผลกระทบมาสู่ชาวนาเกลือ ปริมาณเกลือล้นตลาด เกินความต้องการการใช้เกลือของประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทผลิตพลาสติกรายใหญ่มีความต้องการเกลือมากขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต การผลักดันให้เกิดเหมืองแร่โปแตชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงเป็นทางออกหนึ่งที่สำคัญ ที่จะได้เกลือเข้าสู่กระบวนการการผลิตของอุตสาหกรรม ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยล่มสลาย

นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษาและผู้ทำวิจัยการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ กรณีศึกษาการจัดการเกลืออีสานวีถีชีวิตชุมชนสู่อุตสาหกรรม สถาบันวิจัยระบบสาธารณ
สุข (สวรส.) กล่าวว่า จากงานวิจัยพบว่าในปัจจุบันคนไทยทั้งประเทศมีการใช้เกลืออุปโภคบริโภคหรือในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ คิดเป็นจำนวนประมาณ 2 ล้านตัน โดยมีการผลิตแยกได้คือ บริษัทเกลือพิมายจำกัด 1 ล้านตัน เกลือต้มและตากในภาคอีสาน ปริมาณ 4-6 แสนตัน เกลือทะเล 2-3 แสนตัน อื่นๆ 1 แสนตัน

ดังนั้นหากเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานีเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทจะทำการผลิตแร่โปแตช ปริมาณ 2 ล้านตันต่อปี โดยมีเกลือออกมากับกระบวนการแยกแร่เป็นจำนวนสองเท่าคือ 4 ล้านตันต่อปี และเมื่อถึงตอนนั้นจะเกิดภาวะปริมาณเกลือล้นตลาด เกินความต้องการของประชาชน

ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการนาเกลือรายย่อยในภาคอีสานก็จะล่มสลายตามไปด้วย เนื่องจากว่าโรงงานอุตสาหกรรมได้หันไปใช้เกลือจากเหมืองโปแตชที่มีอยู่มากมายอยู่แล้วและมีความบริสุทธิ์มากกว่า ราคาเกลือก็ถูกกว่า ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขหามาตรการรองรับ ตลอดจนจะต้องผลักดันให้เกิดนโยบายเกลือแห่งชาติต่อไป

นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มีหุ้นในบริษัทวีนิไทย จำกัด (มหาชน) ถึง 26.9 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพลาสติก (พีวีซี) รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้มีการวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกเพิ่มในปี 49 ซึ่งจะมีผลให้เกิดความต้องการเกลือเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โดยเดิมนั้นบริษัทนี้ใช้เกลือในกระบวนการการผลิตปริมาณ 3-4 แสนตัน หากต้องเพิ่มกำลังการผลิตต้องเพิ่มความต้องการเกลืออีกในปริมาณ 2.5 แสนตัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลยถ้าหากว่านายวัฒนา เมืองสุข รมต.อุตสาหกรรม ซึ่งสัมพันธ์กับบริษัทซีพี จะออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุนโครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี ก็เพื่อจะได้เกลือเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม

ด้านนายอดิศักดิ์ จิรสุวรรณ ประธานผู้ประกอบการนาเกลือบ้านดุง กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวนาเกลือบ้านดุงได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนจากการทำนาเกลือไปสู่นาข้าว พื้นที่การ
เกษตร ห้วยน้ำของชาวบ้าน พร้อมทั้งปฏิบัติตามระเบียบของการทำนาเกลืออย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งนาเกลือบ้านดุงสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน เกิดอาชีพอื่นๆ ตามมา เช่น ค้าขาย แรงงานในชุมชน โดยมีจำนวนกว่า 2 หมื่นคนที่ไม่ต้องอพยพโยกย้ายไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ หรือพื้นที่อื่น

แต่ก่อนเคยมีนักวิชาการมาสำรวจพื้นที่การทำนาเกลือบ้านดุงพบว่า ชาวบ้านสามารถทำนาเกลือได้อีกถึงร้อยๆ ปี แสดงให้เห็นว่า ชุมชนสามารถประกอบอาชีพของตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้บริษัทที่จะทำเหมืองแร่โปแตชก็เคยมาให้ข้อมูลกับพวกเรา

อย่างไรก็ดี หากเกิดเหมืองโปแตช ชาวนาเกลือทั้งประเทศคงต้องถึงเวลาจบสิ้น และอาชีพต่างๆ ในชุมชนที่เกิดขึ้นตามมาก็จะหมดไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ชาวนาเกลือก็ลำบากกันอยู่แล้ว จากที่ราคาเกลือยังคงที่มาเป็นเวลานานนับสิบๆ ปี แต่ในขณะที่ราคาน้ำมัน หรือของอย่างอื่นขึ้นราคาทุกวัน
ดังนั้น พวกเราพร้อมที่จะร่วมคัดโครงการฯ ซึ่งจะเริ่มจากการล่ารายชื่อที่มีอยู่กว่า 2 หมื่นคน และยื่นไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ นายอดิศักดิ์กล่าว

decha_61@hotmail.com
สำนักข่าวประชาธรรมอุดรธานี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท