Skip to main content
sharethis

เชียงใหม่-27 มิ.ย.48 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมศรีปริยัตยานุรักษ์ มหาจุฬาลงกรณ์ วิทยาลัยเชียงใหม่ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ มีการจัดเวทีเสวนาเรื่อง การหาแนวทางแก้ไขปัญหาการคุกคามพระสงฆ์ อนุรักษ์ป่าและการรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำจาก กรณีการมรณภาพของ พระสุพจน์ ด้วงประเสริฐ โดยมี พระสงฆ์ สมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการ เครือข่ายพัฒนาองค์กรเอกชนภาคเหนือ และชาวบ้านจากอำเภอฝางเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

พระอธิการเอนก จันทปัญโญ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ป่าเวียงด้ง และเจ้าอาวาสวัดคลองศิลา ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งของอำเภอฝาง ที่ร่วมกันปกป้องการถูกนายทุนสวนส้มเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชน กล่าวว่า กรณีของพระสุพจน์ ด้วงประเสริฐ ที่ถูกฆาตกรรมนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยง เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ดินดีน้ำชุ่ม เป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุนเป็นอย่างมาก

"แนวทางแก้ไขนั้น ทุกฝ่ายทุกองค์กรจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนเร่งดำเนินการในพื้นที่ต่อไป โดยควรเอาชาวบ้าน ชุมชนมาเป็นกำแพงป้องกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่และภาครัฐจะต้องมีความจริงใจ มีความเป็นกลาง เข้ามาคลี่คลายคดีความขัดแย้งในพื้นที่ และงดรับการอุปการะจากแหล่งทุนซึ่งเป็นนายทุนซึ่งไม่มีความจริงใจ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถปฏิบัติงานได้ไม่เต็มที่ อย่างเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานายทุนยังใช้อำนาจลุกขึ้นชี้หน้าด่านายอำเภอต่อหน้าหัวหน้าส่วนราชการและชาวบ้านในห้องประชุม ซึ่งเป็นเรื่องที่บอกได้ว่า การที่เจ้าหน้าที่รัฐนิ่งเฉย ยิ่งทำให้นายทุนฮึกเหิมได้ใจ" พระอธิการเอนก กล่าว

พระเอนก กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องออกมาคุ้มครองนักอนุรักษ์ ไม่ว่า ชาวบ้านหรือพระสงฆ์แล้ว อยากให้เข้าไปตรวจสอบด้วยว่า การทำสวนส้มในพื้นที่ 3 อำเภอในเขตลุ่มน้ำฝางนั้น เป็นกิจกรรมที่บังหน้าเท่านั้น

พระมหา ดร.บุญช่วย สิรินธโร จากสถาบันโพธิยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา หลังจากที่มีพระสุพจน์ ถูกฆาตกรรมเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งจะออกมาบอกว่า ทราบข่าวเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.นี้เอง จึงอยากขอเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานของคณะสงฆ์ รวมไปถึงการผลักดันกฎหมายคุ้มครองพระสงฆ์ ซึ่งก่อนนั้น เคยเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป

ด้านนายประมวล เพ็งจันทร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวพระสุพจน์ถูกฆ่า ได้ลงไปดูในที่เกิดเหตุ จะเห็นสภาพศพนั้นถูกฆ่าอย่างโหดร้าย ถูกฟันไปทั่วร่าง โดยเฉพาะแผลที่ลึกที่สุดคือลำคอ ซึ่งเมื่อถามแพทย์ได้บอกว่า เป็นการถูกฟันจากข้างหลัง จึงเชื่อว่า การถูกฆ่าครั้งนี้ น่าจะเป็นการลวงพระสุพจน์ออกมาจากกุฏิ และเชื่อว่ากรณีนี้ เป็นการเกิดขึ้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวบุคคล แต่มีเจตนาทำลายสังหารใครที่ขัดขวาง ต้องการคุกคามใครก็ได้ที่ไปขัดขวาง

นายสุทัศน์ ลือชัย ตัวแทนชาวบ้านบ้านสันทรายคองน้อย ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในการต่อสู้กับนายทุนสวนส้มที่เข้ามาแย่งชิงที่ดินและน้ำในพื้นที่ กล่าวว่า ขนาดพระสงฆ์ยังถูกฆ่า นับประสาอะไรกับชาวบ้านที่จะต้องถูกคุกคามได้โดยง่าย จึงอยากฝากให้ผู้มีอำนาจช่วยหามาตรการคุ้มครองความปลอดภัย และเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในพื้นที่โดยเร็ว

นายเฉลียว แก่นจันทร์ นักวิชาการป่าไม้ ตัวแทนสำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ถือว่า ปัญหาอยู่ที่โครงสร้างของระบบการจัดการการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่า ลุ่มน้ำฝางในพื้นที่ 3 อำเภอ คือไชยปราการ ฝาง และแม่อายในขณะนี้ มีปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าป่าไม้ ที่ดิน และน้ำ เพราะมีสวนส้มอยู่ประมาณ 1 แสนไร่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมาก หลังจากที่มีกฎหมาย ส.ป.ก.ขึ้นมา

"บอกได้เลยว่า กฎหมาย สปก.นั้น เป็นการฟอกที่ดินโดยให้ถูกกฎหมาย สปก.ในพื้นที่ลุ่มน้ำฝางในขณะนี้ได้รุนแรงมากกว่าที่ภูเก็ต เนื่องจากนายทุนได้อาศัยช่องโหว่เข้าไปเช่า และยึดครองที่ดินจำนวนมาก" นักวิชาการป่าไม้ กล่าว

ในขณะที่ นายนิคม พุทธา เจ้าหน้าที่ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า อยากจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ ซีอีโอ ได้ใช้อำนาจบริหารในการแก้ไขปัญหาที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ที่ผ่านมา ไม่เห็นทางจังหวัดออกมาดำเนินการใดๆ เลย หรือว่าอำนาจของผู้ว่าฯ ซีอีโอ นั้นมีไว้เพื่อตอบสนองการใช้อำนาจของภาครัฐ

ทั้งนี้ นายนิคม ยังเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานพุทธศาสนาเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาในกรณีพระสงฆ์นักพัฒนา ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางสังคม ว่าจะหามาตรการดูแลคุ้มครองกันได้อย่างไร และจะแก้ปัญหากลุ่มอิทธิพลในพื้นที่นั้นได้อย่าง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net