ประชาไท - 12 ก.ค.48 คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติป้องกันและแก้ไขการใช้ความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ...... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเสนอ

นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง ในขณะเดียวกันยังป้องกันการกระทำซ้ำและการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความรุนแรงด้วย โดยกำหนดลักษณะความผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัวและกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เป็นการเฉพาะ

นางสาวศันสนีย์ กล่าวต่อไปว่า "เนื่องจากกฎหมายอาญามีความไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้กับความรุนแรงในครอบครัว เพราะต้องการลงโทษผู้กระทำความผิดมากกว่าที่จะฟื้นฟูหรือปกป้องคุ้มครองผู้ที่ถูกกระทำ ซึ่งร่างกฎหมายนี้จะมีมาตรการให้ผู้กระทำความผิดมีโอกาสกลับตัวและยับยั้งการกระทำผิดซ้ำ รวมทั้งจะรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวไว้ได้"

รองโฆษกประจนสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า "ร่าง พ.ร.บ.ได้กำหนดความผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ให้เป็นความผิดอันยอมความกันได้ แต่จะไม่ลบล้างความผิดตามประมาลกฎหมายอาญา และให้มีอำนาจยกคดีขึ้นใหม่ได้หากมีการฝ่าฝืนเงื่อนไขในการยอมความหรือการถอนคำร้องทุกข์"

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดนิยามของคำว่า "ความรุนแรงในครอบครัว" หมายถึง การกระทำใดๆ เพื่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจหรือสุขภาพ หรือกระทำในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ละเว้นกระทำการ หรือยอมรับการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยมิชอบ แต่ไม่รวมถึงการกระทำโดยประมาท

ขณะที่ คำสำคัญอีกคำหนึ่งคือ "บุคคลในครอบครัว" หมายความว่า คู่สมรส คู่สมรสเดิม ผู้ที่อยู่กินหรือเคยอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส บุตร บุตรบุญธรรม สมาชิกในครอบครัว รวมทั้งบุคคลใดๆ ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน แต่ไม่รวมถึงบุคคลที่อยู่ในฐานะผู้เช่า

สำหรับการแจ้งความนั้น ให้ทั้งบุคคลที่ถูกกระทำและบุคคลอื่นที่พบเห็นหรือมีหน้าที่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งการดำเนินคดีต้องมีการสอบสวนโดยเร็ว โดยอัยการต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 48 ชั่วโมง ทั้งยังมีขั้นตอนการเยียวยาชดใช้เงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ถูกกระทำอีกด้วย

ธิติกมล สุขเย็น