Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-14 ก.ค.48 "เม็ดเงินที่จะเข้าไปในระบบ 40,000-60,000 ล้านบาท ไม่ใช้ครั้งเดียวทั้งหมด" นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวและอธิบายว่า เม็ดเงินจากมาตรการมงฟอร์ตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศนั้น ช่วยได้เพียงการพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดลงไปมากกว่าเดิม เนื่องจากไม่ได้อัดฉีดเข้าระบบในครั้งเดียว

โดยเม็ดเงินที่อัดฉีดดังกล่าว จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 0.2-0.3% ซึ่งศูนย์พยา กรณ์ฯ คาดการณ์ตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ของปี 48 อยู่ที่ระดับ 3.5-4% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.8-4.2% ภายใต้การใช้เม็ดเงินที่รัฐบาลใส่ลงไปในระบบเศรษฐกิจอย่างคุ้มค่า และปีหน้าคาดการณ์จีดีพีประเทศโต 4-4.5% เงินเฟ้อระดับ 3.5-4%

โดยไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าในระบบ 5,000-10,000 ล้านบาท ไตรมาสที่ 4 อีก 10,000-20,000 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมี 20,000-30,000 ล้านบาท หากเทียบกับราคาน้ำมันขณะนี้ขึ้นไปแล้วลิตรละ 9 บาท คนไทยทั้งประเทศใช้น้ำมันวันละ 70 ล้านลิตร หมายความว่า เงินที่จะนำไปจับจ่ายใช้สอยหมดไปกับการซื้อน้ำมันวันละ 630 ล้านบาท เดือนละเกือบ 20,000 ล้านบาท คิดแค่ 6 เดือนคือไปถึงสิ้นปี ต้องหมดเงินไป 120,000 ล้านบาทสำหรับค่าน้ำมัน เพราะฉะนั้นเงินที่รัฐอัดฉีดเข้าไป 20,000-30,000 ล้านบาทถือเป็นการพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโตได้ 4.0-4.5%

นายธนวรรธน์ อธิบายว่า เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5% ทุกระดับและข้าราช การบำนาญ ที่คาดว่าจะใช้เงินถึง 20,000 ล้านบาท เป็นเงินรวมทั้งปี หากเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2,000 ล้านบาท และเริ่มเข้าสู่ระบบหลังเดือนตุลาคมนี้

แม้กระทั่งเงินเอสเอ็มแอลอีก 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบอีก 10,000 ล้านบาทเท่านั้น เพราะอีก 10,000 ล้านบาทได้ถูกจัดไว้ในงบกลางปี 50,000 ล้านบาทแล้ว หรือการเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำอีก 6 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าในระบบอีก 4,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นเม็ดเงินใหม่ แต่เป็นการเปลี่ยนถ่ายมือจากผู้ประกอบการไปยังลูกจ้าง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net