ประชาไท20 ก.ค. 48 วันนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณายกaเลิกหรือปรับปรุง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยเสนอให้ภาคส่วนต่างๆ ต้องเข้ามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อให้การใช้อำนาจของรัฐบาลมีความชอบธรรม เป็นที่ยอมรับของประชาชนและนานาชาติ
ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวนำว่า "การทำอย่างรวบรัดรวดเร็วในการตรา พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ทำให้มีช่องโหว่ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการทบทวน"
"เราไม่คัดค้านการออกกฎหมายพิเศษ แต่เราจะต้องยกปัญหานี้ขึ้นมา เพื่อให้รัฐบาลได้ทบทวนช่องโหว่ต่างๆ เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และบางมาตราที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังจะส่งผลกระทบให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก" ศ.เสน่ห์ กล่าว
ขณะที่ ประธานคณะกก.สิทธิฯ มีความเป็นห่วงว่า ในขณะนี้มีกระแสตอกย้ำด้านสิทธิมนุษยชนว่าไม่มีความจำเป็นและมองว่าเป็นสิ่งที่ไปขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ซึ่งกระแสดังกล่าวเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ไม่ใช่การพูดถึงแต่สิทธิอย่างเดียวแต่ต้องมีการรับผิดชอบด้วย และไม่ใช่การปกป้องคนที่ก่อความไม่สงบ แต่ว่าเป็นการปกป้องสิทธิเสรีภาพของสาธารณชนโดยทั่วไป
ศ.เสน่ห์ กล่าวว่า "เพราะปัญหาภาคใต้มีความรุนแรงอยู่แล้ว และมีสมมติฐานที่ว่าสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่รัฐเองด้วย ซึ่งพ.ร.ก.ฉบับนี้จะห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตยากขึ้นไปอีกและยังจะส่งผลให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย
"ความเป็นจริงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต ไม่ใช่เพราะตัวกฎหมาย ผมกลัวว่าถ้าไม่มีใครมาควบคุมเลย ความหวังที่จะให้รัฐบาลแก้ไขความรุนแรงก็จะกลับกันหมด ตอนนี้กฎหมายน่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งปัญหาทางภาคใต้เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลเป็นหลักจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมาก" ศ.เสน่ห์ นำเสนอ
"กระแสมักมองในเชิงลบ เห็นว่าความรุนแรงต้องระงับด้วยความรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงสถาน การณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ที่เราเสนอวันนี้ก็เพื่อให้มาตรการของรัฐบาลมีความชอบธรรมมากขึ้น มีน้ำหนักของการใช้อำนาจที่จะสามารถอธิบายได้ โดยหากมีองค์กรใดค้านก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติ ภูมิต่อรัฐในการใช้อำนาจนั้นด้วย" ประธาน กก.สิทธิฯ กล่าวในตอนท้าย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง