สื่อต่างประเทศที่ติดตามรายงานสถานการณ์ภาคใต้ของไทยอย่างต่อเนื่อง แสดงความเป็นห่วงเรื่องกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่าจะทำให้สถานการณ์ภาคใต้ของไทยแย่ลงไปอีก
จากการที่รัฐบาลไทยประกาศให้สามจังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี อยู่ภายใต้กฎหมายการบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเพิ่มอำนาจให้ภาครัฐควบคุมความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างเคร่งครัด
สื่อต่างชาติเกรงว่าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงไปอีก ถ้าทางการไทยใช้มาตรการแข็งกร้าว
ศิราช วาฮับ บรรณาธิการแห่งสำนักข่าวอาหรับนิวส์ บอกว่า มีตัวอย่างให้เห็นแล้วในหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วโลกว่า ยิ่งกดดันกลุ่มต่อต้านมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้พวกนั้นแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ
"ถ้านายกรัฐมนตรีไทยพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร คิดว่า มาตรการแข็งกร้าวจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้นั้น อาจจะไม่มีหวัง เพราะปัญหาในสามจังหวัดภาคใต้มีสาเหตุหลายอย่าง และหยั่งรากลึกมานานแล้ว จะต้องใช้วิธีสมานฉันท์เท่านั้น ในการแก้ปัญหา"
ด้านเจมส์ หว่อง วิง - ออน นักวิเคราะห์แห่งมาเลเซียกินี เห็นตรงกัน โดยบอกว่า ถ้ายิ่งใช้มาตรการแข็งกร้าวในพื้นที่ ประชาชนธรรมดาก็จะโดนผลกระทบไปด้วย
"ประชาชนในพื้นที่อาจจะเริ่มแยกตัว หันไปให้ความเห็นใจกลุ่มต่อต้านได้ รัฐบาลต้องไม่ลืมว่า กลุ่มต่อต้านเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยในพื้นที่เท่านั้น การใช้กฎหมายที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของคนหมู่มาก อาจจุดชนวนความไม่พอใจให้ขยายวงได้"
ส่วนเมียรนา รัดนา บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ ของหนังสือพิมพ์คอมปัสของอินโดนีเซีย ยกประสบการณ์การจัดการกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาเจะห์เสรี ของรัฐบาลอินโดนีเซียมาเป็นตัวอย่างว่า ไม้แข็งอย่างเดียว คงไม่ได้ผล
"อินโดนีเซียประสบปัญหากับกลุ่มอาเจะห์เสรีเช่นกัน และกฎหมายใหม่ของไทยนี้ ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการเจรจาในทางสันติวิธีเลย แต่เป็นการให้อำนาจฝ่ายเดียวเท่านั้น"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)