ประชาไท - 28 ก.ค.48 "ในส่วนตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่วันนี้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่านได้มาพูดคุยกัน ในขณะที่มีความสับสนในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะท่านนายกก็พูดได้กระจ่างและบรรยากาศก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งความเห็นบางอย่างก็ต้องการแลกเปลี่ยนกัน"
รศ.ดร.สุริชัย หวันแก้ว คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ(กอส.) และเลขานุการกอส.กล่าวถึงการพูดคุยกันระหว่างนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านรายการ "การสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"
รศ.ดร.สุริชัย กล่าวอีกว่า "สำหรับการออกรายการวันนี้ ไม่เห็นผลทันทีแต่ก็สามารถช่วยลดความสับสนในหมู่ประชาชนลงได้ เพื่อนำไปสู่แนวทางประสานงานกัน ซึ่งเวทีนี้ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความเห็นในทัศนะที่แตกต่างกันบ้าง ซึ่งในที่สุดคงจะช่วยคลี่คลายปัญหาความรุนแรงลง โดยจุดเน้นของกอส.ไม่ใช่แค่ปราบปรามคนที่มีไม่กี่คน โดยผมเชื่อว่าในที่สุดนายกก็น่าจะพูดถึงคนส่วนใหญ่เยอะขึ้น"
ทั้งนี้ รศ.ดร.สุริชัย มองว่า ในวันนี้นายกสามารถตอบคำถามในบางเรื่องที่ช่วยให้ชัดเจนลงไปว่านโยบายของรัฐบาลได้ให้น้ำหนักการทำงาน สถานที่และการแก้ปัญหานั้น ซึ่งทางนายกเองก็ให้ความสำคัญ โดยส่วนด้านเนื้อหาก็ต้องว่ากันไป
"ผมรู้สึกว่านายกน่าจะพูดมากกว่านี้ในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยการฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ โดยที่ผ่านมาทั้งในการสอบสวน การจับกุม รัฐบาลยังไม่ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งถ้าปรับปรุงเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเน้นหนักมากขึ้น ก็จะทำให้ระบบยุติ ธรรมของชาติเกิดในท้องถิ่นได้ดี" เลขานุการกอส. แสดงความเห็น
อย่างไรก็ตาม เลขานุการกอส. หวังว่าจะมีการทำงานที่มุ่งเป้าหมายไปยังคนส่วนใหญ่และให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขื้น สุดท้ายก็จะทำให้สามารถดูแลการใช้อำนาจได้อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ รศ.ดร.จรัญ มะลูลีม อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นมิติที่ดี นายอานันท์มองเชิงวิชาการ ซึ่งเกิดจากการอ่านและความเข้าใจ ขณะที่มุมมองของพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดจากการได้สัมผัสของจริงมาเป็นเวลาปีกว่าๆ ซึ่งการพูดคุยของทั้งสองคนน่าจะทำให้ประชาชนจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น
"ท่านอานันท์จะยังไม่เห็นว่าการแบ่งแยกดินแดนเป็นเรื่องหลัก ขณะที่นายกรัฐมนตรีเห็นว่าแม้จะมีน้อยแต่เป็นปัญหาใหญ่ แต่โดยภาพรวมแล้วก็มองสอดคล้องกัน และเป็นการพูดคุยกันเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มธ.กล่าว
รศ.ดร.จรัญกล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการเน้นการเรียนศาสนาในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่ใช่ปัญหา ในประวัติศาสตร์คนยิ่งเรียนศาสนามาก ไม่เคยเป็นคนเลว และการตีความที่เกินเลยไปจากแนวทางสันติวิธีนั้นไม่ใช่หลักการของอิสลามอยู่แล้ว
นอกจากนี้รศ.ดร.จรัญ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พ.ร.ก.ที่รัฐบาลออกมานั้น ถึงที่สุดปัญหาอยู่ที่คนนำไปใช้ และเท่าที่ตนได้รับฟังความเห็นของคนในภาคใต้นั้นบอกว่าต่อให้แรงกว่าพ.ร.ก.ฉบับนี้ก็เอา ถ้าจะทำให้ความไม่สงบยุติได้โดยเร็ว ซึ่งเท่ากับชาวบ้านไม่ได้พิจารณาในรายละเอียดของพ.ร.ก. แต่เชื่อมั่นว่าการให้อำนาจกับพลเรือน น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)