เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2548 ที่ห้องประชุมสำนักงานกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา คณะ ทำงานสนับสนุนกิจกรรมสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ ในคณะอนุกรรมการเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ในพื้นที่ ของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ โดยนายณฐพลฒ์ วิเชียรเพริศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุม มีผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนศาสนาอิสลาม กลุ่มสตรีและกลุ่มเยาวชน จากพื้นที่เสี่ยงหรือรุนแรงในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดยะลากว่า 100 คนเข้าร่วม

ที่ประชุมเสนอว่า ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับนายอำเภอในจังหวัดยะลาบางคน ยังมีอคติกับประชาชนในพื้นที่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่กลับพูดกับชาวบ้านว่า คนร้ายก่อเหตุมาจากที่อื่นแล้วเข้ามาหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นการกล่าวหาลอยๆ ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำลายความรู้สึกของประชาชนและไม่สมานฉันท์ จึงขอเสนอให้อบรมเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ ให้เข้าใจเรื่องประเพณี วัฒนธรรม และการสร้างความสมานฉันท์ด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเสนอให้ให้เจ้าหน้าที่รัฐที่จะเข้าตรวจค้นในหมู่บ้าน ให้แจ้งผู้นำชุมชนก่อน เพราะจะทำให้ชาวบ้านคลายความกลัวลง และเสนอให้ใช้ทหารที่อยู่ในพื้นที่มาก่อน เข้ามาช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย เพราะเข้าใจพื้นที่มากกว่าทหารจากต่างถิ่น นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านด้วย เพราะหากแก้ปัญหานี้ได้ จะลดปัญหาการลักขโมยในหมู่บ้านลงได้

ที่ประชุมยังพูดถึงการปล่อยข่าวข่มขู่ว่า ไม่ทราบใครเป็นผู้ข่มขู่ แต่มีการพูดต่อๆ กันไป ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ก่อความเดือดร้อนเพราะทำมาหากินลำบากขึ้น จึงเสนอให้ชาวบ้านช่วยกันสอดส่องดูแลกันเองด้วย

ทั้งนี้ นายไพศาล ตอยิบ ผู้จัดการโรงเรียนอัตตัรกียะห์ อิสลามิยะห์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส กล่าวต่อที่ประชุมว่า ศาสนาอิสลามอิสลามได้บัญญัติให้มุสลิมทุกคนต้องทำหน้าที่ดะวะห์ หรือเผยแพร่ศาสนาอิสลาม หากประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการทำหน้าที่นี้ ก็ต้องไม่เรียนเฉพาะแต่ภาษามลายู ต้องเรียนสาขาวิชาอื่นควบคู่กัน เพราะจะทำให้สื่อสารกับประชาชนได้หลากหลายมากขึ้น

นายมูฮัมมัด อาดำ ประธานคณะทำงานสนับสนุนกิจกรรมสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่  เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมทำความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับกิจกรรมของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความเชื่อว่าคณะทำงานภาคประชาชน ย่อมมีความเข้าใจประชาชนด้วยกัน

สำหรับการประชุมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2548 ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส