กรุงเทพฯ- 31 ส.ค.48 เมื่อวานนี้(30 ส.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม) มีมติเห็นชอบการลงนามและให้สัตยาบันความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการต่อต้านโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย (Regional Agreement on Combating Piracy and Armed Robbery against Ships in Asia-ReCAAP) ตามขอเสนอของกระทรวงการต่างประเทศ โดยสิงคโปร์เป็นประเทศผู้เก็บรักษาความตกลงฯ (Depositary State)ในช่วงที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 ระหว่างนายก รัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 2-3 กันยายนนี้
ทั้งนี้ เป้าหมายของความตกลงฯ ดังกล่าวเน้นไปที่การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศโดยเน้นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องร่วมกันป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย
โดยกำหนดให้ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลที่สิงคโปร์เป็นสื่อกลาง ในการติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างรัฐภาคี พัฒนาคุณภาพของสถิติ รวมทั้งจัดทำรายงานเกี่ยวกับโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในภูมิภาคเอเชีย
รวมถึงการเสริมสร้างสมรรถนะ (capacity-building) ระหว่างรัฐภาคี เพื่อนำไปสู่การป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธ และเพื่อประกันความปลอดภัยของเรือและลูกเรือให้ดียิ่งขึ้นหน้าที่ของรัฐภาคี ได้แก่
1. ดำเนินมาตรการทางกฎหมายและทางบริหารเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย
2. จับกุมโจรสลัดหรือบุคคลผู้กระทำความผิดฐานปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย
3. ยึดเรือหรืออากาศยานที่นำไปใช้ในการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธยึดเรือที่ถูกใช้ หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของโจรสลัด หรือบุคคลที่กระทำความผิดฐานปล้นเรือโดยใช้อาวุธและยึดทรัพย์สินที่อยู่บนเรือนั้น
4. ช่วยเหลือเรือที่ตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งเหยื่อของการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธ
5. ให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลและกับรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อป้องกันและปรามปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธ
6. ให้ความร่วมมือกับรัฐภาคีอื่น ๆ ในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และความร่วมมือในเรื่องทางอาญา ซึ่งความตกลง ReCAAP เปิดให้มีการลงนามเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2548 โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อครบ 90 วัน ภายหลังจากวันที่ผู้เก็บรักษาความตกลงฯ ได้รับสัตยาบันสารฉบับที่ 10 จาก 16 ประเทศ ปัจจุบันสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และลาวได้ยื่นสัตยาบันสารเข้าเป็นภาคีความตกลงฯ แล้ว ส่วนกัมพูชาและฟิลิปปินส์ได้ลงนามความตกลงดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ความตกลง ReCAAP มีกฎหมายรองรับ 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด พ.ศ. 2534 พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2472 และพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535