Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ภายหลังจากเกิดเหตุชาวบ้านตันหยงลิมอร์ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ปิดล้อมหมู่บ้าน จับ 2 ทหารนาวิกโยธิน เป็นตัวประกัน และทำร้ายจนทหารทั้ง 2 นายเสียชีวิต เมื่อตอนบ่ายวันที่ 21 กันยายน 2548


เวลา 16.20 น. วันเดียวกัน พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.พิเชษฐ์ วิสัจร รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายนัจมุดดีน อูมา อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส พรรคไทยรักไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอระแงะ ต่อไปนี้เป็นรายละเอียด จากแถบบันทึกเสียงคำต่อคำ


 


พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ


"สาเหตุที่แท้จริง ผมได้รับรายงานเมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 21.00 น. ว่า มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ควบคุมทหารเรือทั้ง 2 นาย ที่บ้านตันหยงลิมอร์ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส สอบถามรายละเอียดทราบว่า ก่อนหน้านั้น มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้รถลอบยิงประชาชน ที่นั่งอยู่ในร้านน้ำชา ทำให้มีการเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 คน


หลังจากเกิดเหตุแล้วหน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ 34 ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอระแงะ ได้เข้าไปในพื้นที่พร้อมตำรวจภูธรอำเภอระแงะ เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ ขณะเดียวกันมีทหาร 2 ท่าน กำลังเดินทางเข้ามาที่อำเภอระแงะ พอได้ยินเสียงปืนก็วกเข้าไปดู ตามหลังขบวนนี้เข้าไป หลังจากทั้ง 3 ชุด ช่วยเหลือประชาชนที่บาดเจ็บสู่โรงพยาบาลแล้ว ได้สร้างความเข้าใจในขั้นต้น


ขณะเดียวกัน ประชาชนได้เข้าล้อมเจ้าหน้าที่ดังกล่าว และมีการเจรจาขั้นต้น เจ้าหน้าที่เห็นว่าการเจรจาไม่ได้ข้อยุติ ประกอบกับนำคนป่วยส่งโรงพยาบาลแล้ว ก็ถอนตัวกลับ ขณะที่ถอนตัวกลับ รถเก๋งของเจ้าหน้าที่ทหารเรือเกิดเสีย และไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ เป็นโอกาสเดียวกับที่ผู้ก่อความไม่สงบรุมล้อม จับกุม ทำลายรถพังเสียหาย เพราะเข้าใจผิดคิดว่า ทั้ง 2 นายเป็นคนร้ายที่ยิงชาวบ้าน แต่หลังจากญาติคนเจ็บยืนยันว่า คนที่ยิงไม่ใช่คนทั้งสอง เพราะใช้ยานพาหนะรถปิกอัพเข้ามา คงหลบหนีไปแล้ว


หลังทราบเหตุเราได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอระแงะ กับประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้าน เป็นที่เคารพนับถือเข้าไปเจรจาในขั้นต้น ก็ยังไม่ยินยอมว่า เราก็ได้ประสานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายนัจมุดดีน อูมา อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ให้ลงไปช่วยเจรจา พร้อมที่จะติดตามผู้ก่อการร้ายที่ลอบยิงชาวบ้านมาลงโทษให้ได้ ตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าเผื่อว่าท่านจับกุมเจ้าหน้าที่ไว้ หรือไปทำร้ายเจ้าหน้าที่จะผิดกฎหมาย ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนกันจนถึงประมาณตี 3 ได้ข้อยุติว่า ช่วงเช้าให้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนัจมุดดีน ลงไป เพื่อที่จะรับตัวทหารทั้ง 2 คน


รุ่งเช้าพอลงไป กลุ่มหนึ่งยอมอีกหลายๆ กลุ่มไม่ยอม ต่อรองว่าให้เอาสื่อมา เราก็ส่งสื่อของเรามาในพื้นที่ เมื่อไปถึงพื้นที่เขาไม่ยอม บอกว่าให้เอาสื่อทางมาเลเซียมาด้วย เราก็โอเค เพื่อจะช่วยเหลือชีวิตตัวประกันออกมาให้ได้ เราก็ติดต่อทางลับเอาสื่อมาเลเซียเข้ามาทางโก-ลก แต่ขณะเดินทางประมาณ 14.00 น. ระหว่างการละหมาด เขาพยายามปล่อยข่าวนะครับ จะปล่อยข่าวว่าขณะนี้ทหารเข้ามาในพื้นที่ทางสวนยางเต็มไปหมดแล้ว ผู้หญิงชาวบ้านก็หลบหนี เป็นโอกาสให้วัยรุ่นในกลุ่มนั้น เข้าไปทำร้ายทหารทั้ง 2 ท่าน ในลักษณะที่มัดมือ มัดเท้า ปิดตา ใช้ไม้และมีดแทงเสียชีวิตอย่างสยดสยอง


หลังจากที่ทหารเสียชีวิตแล้ว กลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปลอบทำร้ายก็ล็อกประตูอาคาร ซึ่งอยู่ใกล้มัสยิดแล้วก็ออกไป พอชาวบ้านรู้ว่า ทหารทั้ง 2 นาย เสียชีวิตแล้ว เราก็รีบเข้าไปคิดว่า ยังไม่เสียชีวิต แต่เข้าไปไม่ได้ เพราะมีวงล้อมผู้หญิงอยู่ เราไม่ได้ทำอะไรรุนแรงนะครับ ก็เข้าไปช่วยเหลือไขกุญแจ แต่ไขไม่ได้ เลยต้องทุบประตูไปเข้าช่วยเหลือ ปรากฏว่าเสียชีวิตไปแล้ว นะครับ เสียชีวิตไปแล้ว ก็นำศพมาส่งโรงพยาลบาลนะครับ จะเห็นว่าการกระทำของกลุ่มดังกล่าวนั้น ได้กระทำอย่างเป็นขั้นตอน หลังจากที่เรายินยอมเราพยายามทำอย่างนุ่มนวล และอะลุ้มอล่วยที่จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่เขาพยายามทุกขั้นตอน เขาขออะไรมาเราก็ให้ กำลังเราไม่ได้เข้าไป ได้แต่สกัดกั้นอยู่รอบนอก ไม่ได้ใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น เขาคงต้องการให้เราเข้าไปสลาย และดำเนินการรุนแรง ขณะที่มีเด็กและผู้หญิงอยู่ในพื้นที่ เมื่อไม่เป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ในขั้นต้น เขาก็ใช้แผนที่ 2 ต่อมา คือต่อรองยืดเวลา


ความจริงแล้ว เราก็ได้เตรียมกำลังส่วนหนึ่งไว้ชิงตัวประกัน แต่เราพยายามจะเจรจาเพื่อให้เกิดความสันติอย่างดีที่สุดก่อน แต่เวลาที่เรากำหนดจะเข้าช่วงชิงตัวประกันนั้น อาจจะยังไม่ทันได้ใช้ เขาดำเนินการเสียก่อน การกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ทารุณ โหดร้าย และดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนโดยต่อเนื่อง


อันนี้ ก็ขอเรียนให้พ่อแม่พี่น้องได้รับทราบว่า การปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เป็นการกระทำที่ผิดมนุษย์ หลังจากนี้ไปเราคงต้องใช้มาตรการที่เข้มโดยต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความรุนแรง เมื่อทางเขาไม่ต้องการสันติ เราอาจจะต้องใช้แนวทางที่เข้มมากขึ้นในบางพื้นที่ ที่เราตรวจสอบแล้วว่า เราต้องดำเนินการ


 


ไม่ทราบว่า คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับที่ปลุกระดมชาวบ้านหรือเปล่า


พล.ท.ขวัญชาติ - ตำรวจบันทึกภาพไว้หมด ภาพถ่ายทางอากาศ ให้บินสูงถ่ายภาพลงมาไว้หมด เพื่อเราจะดึงมาดูว่า บุคคลไหนเกี่ยวข้อง ตอนนี้กำลังพิจารณาว่า จะใช้กฎหมายอย่างไร


 


มีกี่คนที่ก่อเหตุ


พล.ท.ขวัญชาติ - แกนนำในหมู่บ้านน่าจะมีหลายคน


 


มีมาตรการปราบปรามผู้ก่อเหตุอย่างไร


พล.ท.ขวัญชาติ - จะเพิ่มความเข้มในพื้นที่ ปิดล้อมสกัดไม่ให้คนนอกเข้าไป ไม่ให้คนในออกมา แต่เราไม่ได้บุกเข้าหมู่บ้าน เมื่อเกิดเหตุได้เตรียมกองหนุนทุกส่วนเข้าไปปฏิบัติ


 


จะรู้ได้ไหมว่าเป็นใคร


พล.ท.ขวัญชาติ - มีแนวโน้มจะรู้ เพราะมีหลักฐานชัดเจน


 


หลังจากนี้ ต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรไหม


พล.ท.ขวัญชาติ - คงไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ระเบียบการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะพิจารณานำมาใช้ตามความเหมาะสม แต่เราจะใช้ให้น้อยที่สุดนะครับ


 


ขอถามคุณนัจมุดดีนว่า ในส่วนที่เข้าไปเจรจาพฤติกรรมของชาวบ้านเป็นอย่างไรบ้าง และมันเกิดอะไรขึ้น ถึงได้มีความรุนแรงต่อเนื่อง


นัจมุดดีน - ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้ความอดทนเต็มที่ เขาไม่ยอมให้ทหาร ตำรวจเข้าไป เราก็ปฏิบัติตาม ผมเลยขอร้องให้ท่านรองแม่ทัพภาค 4 พล.ต.พิเชษฐ์ เข้าไปดูตลอด เขาก็ยอม สิ่งที่เราลำบากใจมากที่สุด ก็คือ เป็นม็อบที่ไม่มีแกนนำ ประการที่หนึ่งนะครับ


ประการที่ 2 การรวมตัวไม่ได้รวมคน 4 - 5 ร้อย ในจุดเดียว รวมเป็นจุดๆ ผมจึงต้องเดินไปชี้แจงเกือบทุกจุด กับปลัดจังหวัดกับนายอำเภอ ตรงนี้แหละเป็นข้อจำกัด ที่เราคิดว่ายุทธวิธีที่นำมาใช้นี่ ถือว่าชาญฉลาดมาก


ผมก็พยายามบอกเขาว่า ขอให้ตั้งตัวแทนมาสัก 4 - 5 คน เพื่อให้ผมกับนายอำเภอ ปลัดจังหวัด กับท่านรองพิเชษฐ์ ได้เจรจาว่าต้องการอะไร ตั้งแต่ 9 โมงถึงบ่าย 2 โมงกว่าๆ ยังไม่ยอมตั้งตัวแทนมาเจรจา มันเป็นที่น่าสังเกต ผมงงมากนะครับ คุยกับผู้ใหญ่บ้านเขาตัดสินใจไม่ได้ คุยกับสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลก็ตัดสินใจไม่ได้ ตรงนี้มันเป็นข้อจำกัด โต๊ะอิหม่ามก็ไม่ค่อยสบายเป็นอัมพาต


 


พอที่จะเห็นหน้าคนที่ถูกทำร้ายหรือไม่


นัจมุดดีน - ช่วงนั้นผมกับท่านรองแม่ทัพพิเชษฐ์ กับนายอำเภอ ปลัดจังหวัด กำลังเตรียมการอยู่ว่า เมื่อทีวีมาเลย์มาถึง เราจะเดินอย่างไร เพราะท่านรองพิเชษฐ์บอกว่า จะให้ทีวีมาเลย์รออยู่ข้างหน้า เราก็จะไปเอาทหาร 2 คนนั้นออกมา เพราะเรามีประสบการณ์เกรงจะถูกทำร้าย จังหวะที่กำลังคุยเรื่องแผน ก็มีการปล่อยข่าวมีคนลอบเข้ามา กลุ่มคน 3 - 4 คนที่เข้ามา สวมไอ้โม่งมองหน้าตาไม่ชัดว่า เป็นใครมาจากไหน คนแก่ๆ ก็วิ่งไล่คนกลุ่มคนนั้น ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนร้ายที่กระทำการคราวนี้นี่ อาจจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่ในสถานที่นั้น


ตอนเที่ยงเขาปล่อยข่าวว่า ทหารเข้ามาด้านหลัง ผมกับรองแม่ทัพพิเชษฐ์ นั่งมอเตอร์ไซค์ไปดูด้วยตนเอง ก็มีทหารอยู่แค่ 4 - 5 คน ก็บอกให้เขาช่วยถอยไปหน่อย เขาก็ถอยไป คือ หมายถึงทางเรานี่พยายามอดทนที่สุด คือ นึกไม่ถึงว่าเขาจะใช้ไม้นี้


 


พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว


"ผมจะเรียนเพิ่มเติม ต่อจากท่านแม่ทัพว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้พยายามทุกขั้นตอน ที่จะปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความชอบธรรม จนถึงขั้นสุดท้าย ก็เป็นที่น่าเสียดายที่เราได้สูญเสียข้าราชการไปถึง 2 ท่าน


ในแนวทางสืบสวนสอบสวน ผมได้วางแนวทางในการสืบสวนไว้แล้ว เชื่อว่ามีพยานหลักฐานบางประเด็น ที่จะสามารถนำไปสู่การดำเนินการได้ ผมขอทิ้งท้ายว่า เราจะพยายามรวบรวมหลักฐานให้ยุติธรรมที่สุด เพื่อที่จะดำเนินการต่อผู้กระทำผิดครั้งนี้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา"


 


เจ้าหน้าที่ 2 นาย ถูกล็อกกุญแจหรือเปล่า


พล.ต.ท.อดุลย์ - ต้องถามรองแม่ทัพภาค 4 ครับ


พล.ต.พิเชษฐ์ - มีครับ


 


พอสรุปได้ไหมว่า กลุ่มที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่น่าจะเป็นเยาวชนในพื้นที่หรือเปล่า


พล.ต.พิเชษฐ์ - กำลังสอบสวน อาจมีทั้งในและนอกพื้นที่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net