ประชาไท—5  ก.ย. 48      พังงาเตรียมของบ 2,300 ล้านสำหรับ 4 ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูจังหวัด  ชงครม.สัญจร พรุ่งนี้(6 ก.ย.)  ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และภาคเอกชนเตรียมยื่นหนังสือต่อนายกฯ ชี้อยากเห็นการแก้ปัญหาและฟื้นฟูหลังซึนามิอย่างเป็นรูปธรรม  ส่วนประชาชนในพื้นที่เตรียมไล่ผู้ว่าฯ จ.พังงา ออกจากจังหวัด

วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางโดยเครื่องบิน Jet Stream ของกองทัพบกจาก

กรุงเทพฯ ไปยังจ.ภูเก็ต  เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจล่วงหน้าที่ อ.ตะกั่วป่า และ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงาในช่วงบ่าย ซึ่งในตอนค่ำจะร่วมประชุมกับภาคเอกชนกลุ่ม  3  จังหวัดอันดามัน  ได้แก่ กระบี่  พังงา  และภูเก็ต  ที่โรงแรมเขาหลักเมอร์ลิน  ในประเด็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจอันดามันหลังเหตุการณ์ซึนามิ  ก่อนที่จะนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันพรุ่งนี้ ที่ห้องประชุมสโมสรทหารชั้นสัญญาบัตร ฐานทัพเรือจ.พังงา โดยอาคารดังกล่าวอยู่ห่างจากทะเลเพียง 200 เมตร ซึ่งสามารถเห็นร่องรอยระดับน้ำจากคลื่นซึนามิได้อีกด้วย

ทั้งนี้  ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 13 คน ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ได้เตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีทันทีที่เดินทางมาถึง จ.ภูเก็ต โดยชี้ถึงความไม่เป็นธรรมและความล่าช้าในการแก้ปัญหาเช่น การจ่ายเงินชดเชย  การสร้างบ้านพักถาวรและสร้างศูนย์ระบบเตือนภัย โดยมีข้อเสนอ 11 ข้อ ที่เน้นให้รัฐบาลเร่งสร้างระบบสาธารณูปโภคและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาเตรียมเสนองบ 2,300ล้านบาท โดยมี 4 ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูจังหวัดได้แก่  การพัฒนาเส้นทางคมนาคมและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาด้านการศึกษา โดยสร้างสถานศึกษาระดับปริญญาตรีและส่งเสริมการสอนภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับการเป็นเมืองท่องเที่ยว การส่งเสริมด้านการเกษตรและประมงและการจัดระบบน้ำสำหรับนำไปใช้ในการอุปโภคและบริโภคอย่างมีระบบ

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ จ.พังงากล่าวว่า ต้องการสถาบันศึกษาระดับปริญญาตรี  เพื่อเสริมสร้างวิทยฐานะ  บุคลากรและการสร้างอาคารเรียน  โดยมีโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยรามคำแหง  สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จ.พังงา  จะเปิดสอนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท  ที่ ม.9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมืองมีเนื้อที่จำนวน 186 ไร่  ขณะนี้ ผู้แทนมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ลงสำรวจพื้นที่ เพื่อที่จะดำเนินการก่อสร้างออกแบบแปลนประกวดราคาต่อไป

นอกจากนี้  นายพัฒนพงษ์  เอกวานิช  นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จะเสนอที่ประชุมครม.สัญจรในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำระยะยาว  โดยจะต้องเอาน้ำจากแหล่งอื่นเข้ามา  ส่วนด้านการทำตลาดต้องการให้เพิ่มสายการบิน และเร่งสร้างติดตั้งหอเตือนภัยให้เสร็จโดยเร็ว อีกทั้งจะเสนอให้มีถนนเชื่อมโยงการเดินทาง 3จังหวัดได้แก่ ภูเก็ต  พังงา  และกระบี่

สำหรับการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำใน 3 จังหวัดดังกล่าว  นายพัฒนพงษ์ได้เสนอการแก้ปัญหาระยะยาว  ในการสร้าง  "โครงการร่วมผันน้ำทางท่อจากเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี"โดยการสร้างอ่างเก็บน้ำลำรู่ ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท  ซึ่งสามารถเก็บน้ำได้ 200 ล้าน ลบ.ม.เพื่อใช้ในการเกษตร อุปโภคและบริโภค

นายสุรชัย  ชินโสภณภัณฑ์  ประธานหอการค้า จ.พังงา กล่าวว่า เพราะหากไม่มีการฟื้นฟูพื้นที่เขาหลัก อ.ตะกั่วป่าจะทำให้รายได้หายไปถึง  8-9 พันล้านบาทต่อปี  โดยที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาพบปะประชาชนแล้ว 6 ครั้งและทัวร์นกขมิ้นอีก 1 ครั้ง ยังไม่ได้รับการตอบรับและฟื้นฟูอย่างรูปธรรมแต่อย่างใด

ส่วน นายอนุพงษ์  สงวนนาม  นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.พังงา เสนอว่า การติดตั้งหอเตือนภัยยังไม่แล้วเสร็จ  ทั้งระบบสาธารณูปโภคก็ยังไม่คืบหน้าที่จะพร้อมรับฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีหน้า ซึ่งตลาดรองรับนักท่องเที่ยวเขาหลักจะเปิดในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2549 และโรงแรมจำนวนมากก็จะเปิดพร้อมกันในช่วงนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม  ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากธรณีพิบัติซึนามิ  จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี  โดยกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย  กลุ่มชาวบ้านที่ประสบภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องบ้านพักอาศัยในพื้นที่เดิม  และกลุ่มชุมชนหาดแหลมป้อมที่ถูกนายทุนรุกที่เอกสารสิทธิ์ที่ดิน  โดยมีแกนนำชาวบ้านประมาณ 500 คน  ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ นี้ จะมาชุมนุมเรียกร้องให้พิจารณาอัญเชิญผู้ว่าฯจ.พังงา ออกจากพื้นที่ด้วย

ขณะเดียวกันในการประชุม ครม.สัญจร  ที่จ.พังงาในครั้งนี้  คาดว่าจะมีการพิจารณาเห็นชอบบัญชีรายชื่อโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศครั้งใหญ่  ประมาณ 50 ตำแหน่งอีกด้วย