Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 กันยายน 2548 ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานศึกษาข้อมูลและกลั่นกรองการบริหารจัดการน้ำโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กับคณะทำงานตรวจและติดตามผลการบริหารจัดการน้ำในเขตลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีน.ส.อรุณี กูลณรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุม


 


น.ส.อรุณี ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการเปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ตามที่ได้กำหนดไว้ว่า จะเปิดในวันที่ 15 กันยายน 2548 นี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจแนวปฏิบัติตรงกัน


 


จากนั้น ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำจืด ในช่วงวันที่ 15 กันยายน 2548 ที่กำหนดจะเปิดประตูระบายน้ำ โดยตัวแทนทางกรมประทานได้นำเสนอข้อมูลปริมาณน้ำจืดต่อที่ประชุม พร้อมกับเปรียบเทียบปริมาณน้ำจืดในช่วงต้นเดือนกันยายนของปี 2547 กับปี 2548 ซึ่งปรากฏว่าปริมาณน้ำจืดช่วงต้นเดือนกันยายน 2548 น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งอาจจะมีผลให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดิบเพื่อทำประปา


 


ในที่สุด ที่ประชุมเห็นว่า ถึงแม้ปริมาณน้ำจืดปี 2548 จะน้อยกว่าปี 2547 แต่ก็ไม่มากนัก ประกอบกับการประปาส่วนภูมิภาคปากพนัง มีแหล่งน้ำสำรองใช้ได้ 2 - 3 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอที่จะแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนปัญหาน้ำเค็มหนุนขึ้นมานั้น ทางคณะทำงานฯ จะมีโครงสร้างคณะทำงานตามลำน้ำย่อย คอยรายงานให้ทราบอยู่แล้ว ถ้าความเค็มสูงกว่าที่กำหนดไว้ ก็สามารถทราบตั้งแต่เนิ่นๆ มีเวลามากพอที่จะแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ผู้เข้าร่วมประชุมจึงมีความเห็นร่วมกัน ให้เปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ ในวันที่ 15 กันยายน 2548 ตามที่กำหนดไว้


 


จากนั้น ได้มีการนัดประชุมคณะทำงานตรวจและติดตามผลการบริหารจัดการน้ำในเขตลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 12 กันยายน 2548 ที่สำนักงานโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และพิจารณาเรื่องคณะทำงานตามลำน้ำย่อยต่างๆ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net