ในท่ามกลางความร้อนแรงแห่งไฟใต้ "อับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสอมัด" อย่างน้อยก็มี 2 ฐานะ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหานี้
หนึ่งนั้น ในฐานะผู้นำชาวมุสลิม มีสถานภาพเป็น "ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส"
สองนั้น ในฐานะหนึ่งในหลากหลายคนที่เข้ามารับผิดชอบคลี่ปมปัญหานร้โดยตรง ผ่านสถานภาพแห่ง "คณะกรรมการอิสระเพื่อควงามสมานฉันท์แห่งชาติ"
เพราะฉะนั้น ความคิดความเห็นของ "อับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสอมัด" ต่อเหตุการณ์การทำร้ายทหารหน่วยนาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นาย จึงเป็นความคิดความเห็นที่ทุกฝ่าย พึงต้องน้อมรับฟัง
ต่อไปนี้ คือความคิดความเห็นของผู้นำมุสลิมแห่งจังหวัดนราธิวาสผู้นี้
......................................................
"การที่นายกรัฐมนตรีมีท่าทีแข็งกร้าว ผมดูแล้วจะไปเข้าทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ต้องการให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว การที่นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่า ทหารทั้ง 2 คน จะไม่ตายฟรีและต้องจับคนร้ายให้ได้ แล้วชาวบ้านที่ตายละ ทำไมไม่พูดบ้างว่า จะต้องจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
ผมต้องการให้นายกรัฐมนตรีทำตัวทำใจให้เป็นกลางมากกว่านี้ เพื่อชาวบ้านจะได้เข้าใจรัฐมากขึ้น ขณะนี้ชาวบ้านเข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนเหตุการณ์ยิงชาวบ้านในร้านน้ำชา ชาวบ้านก็ยังเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่รีบคลี่คลาย จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น
ในฐานะที่ผมเป็นประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ภายใน 2 - 3 วันนี้ ผมจะประสานกับประธานคณะกรรมการฯ และกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานีมาร่วมกันคิดเพื่อหาทางออกเรื่องนี้
เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างมาก ที่ทหาร 2 นาย ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุการณ์อย่างนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตามข่าวชาวบ้านเองก็ออกมายืนยันว่า ทหารทั้ง 2 นาย ไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงชาวบ้าน เพราะฉะนั้น ในการแก้ปัญหารัฐบาลต้องใช้ความอดทนให้มาก ขณะที่ชาวบ้านเองก็ต้องใช้ความอดทนเช่นกัน ทุกฝ่ายต้องใช้สติ เพราะอาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาทำให้เกิดความแตกแยกได้
เราอย่าไปชวนมาเลเซียทะเลาะ ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ไม่ต้องการให้นักข่าวมาเลเซียมาทำข่าวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมคิดว่าเขามีสิทธิเข้ามาทำข่าว จะไปห้ามเขาได้อย่างไร อย่าคิดว่าเขามาทำข่าวโจมตีเรา เราต้องคิดในทางดีด้วย เพราะเขาอาจนำเสนอข่าวตรงไปตรงมา ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับรัฐบาลไทยก็ได้
สาเหตุที่ชาวบ้านเชื่อว่า ทหารเป็นผู้ลงมือยิงชาวบ้าน เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะจากการเก็บข้อมูลเบื้องต้น ของสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีโต๊ะอิหม่าม โต๊ะคอเต็บ บิลาล ครูตาดีกา และชาวบ้านถูกกราดยิงในร้านน้ำชา ที่อำเภอรือเสาะ อำเภอจะแนะ และอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส รวมกันแล้วกว่า 20 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทุกครั้งชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบางราย เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน คนเหล่านี้ ถูกยิงขณะกลับจากละหมาดบ้าง ถูกยิงขณะออกจากมัสยิดบ้าง โดยเฉพาะในอำเภอจะแนะแห่งเดียว มีคนถูกลอบยิงถึง 13 ราย โดยที่รัฐไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ว่า คนลงมือเป็นใคร ถ้ารัฐต้องการได้รับความเชื่อมั่นจากชาวบ้าน รัฐต้องจับคนร้ายให้ได้
กรณีกราดยิงใส่ร้านน้ำชาไม่ได้มีเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสเท่านั้น เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ก็เกิดที่ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน เหตุการณ์คราวนั้น ชาวบ้านยังเชื่อมาจนถึงวันนี้ว่า คนของรัฐเป็นผู้ลงมือ
ในฐานะที่ผมเป็นกรรมการอิสระเพื่อความสมาน ฉันท์แห่งชาติอยู่ด้วย คิดว่าเรื่องนี้จะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือกันในคณะกรรมการฯ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพล.อ.
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)