ศูนย์ข่าวอิศรา       เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ต.ท.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีเปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองครู ซึ่งคล้ายกับส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ "Killing Zone" ที่มุ่งถล่มชุดคุ้มครองความปลอดภัยทั้งตำรวจ ทหาร ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดภาคเรียนว่า ทางหน่วยเหนือได้กำชับให้รับมือยุทธการดังกล่าว โดยมีแผนเผชิญเหตุให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติ ซึ่งเมื่อถูกลอบโจมตีระหว่างลาดตระเวน หรือช่วงรับ-ส่งครู ให้หลบเข้าข้างทางทันทีเพื่อหาที่กำบัง

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์วิธีก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบ พบว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเข้าเขต Killing Zone คือพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบ เนื่องจากมีชัยภูมิเหมาะสำหรับการซุ่มโจมตี ฝ่ายคนร้ายมักจะใช้ระเบิดข่มขู่ให้ตกใจ หรือใช้ตะปูเรือใบเพื่อทำให้ยานพาหนะเสียหลัก ก่อนเปิดฉากยิงถล่ม

"เมื่อฝ่ายเราเสียหลัก อาจจะด้วยตกใจหรือโดนตะปูเรือใบก็ตาม ต้องรีบกลิ้งเข้าข้างทางเพื่อหาที่กำบัง โดยไม่อยู่เป็นเป้านิ่ง จากนั้นให้ใช้อาวุธประจำกายกราดยิงตอบโต้ทันที พร้อมวิทยุเรียกหน่วยสนับสนุนให้เข้าไปช่วยเหลือ"

พ.ต.ท.นฤชา กล่าวว่า สิ่งสำคัญในช่วงสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ที่ถูกซุ่มโจมตีจะต้องปักหลักอยู่ในที่กำบัง แม้ในชุดปฏิบัติการซึ่งมีประมาณ 4-6 นาย จะมีบางส่วนเพิ่งเข้ามาในเขต Killing Zone ก็ให้หลบเข้าข้างทางเพื่อหาที่กำบังเช่นกัน โดยจะไม่เดินหน้าต่อแม้ฝ่ายตรงข้ามจะยังไม่เปิดฉากโจมตี

"เราจะให้ยิงตรึงไว้เท่านั้น แล้วกำลังเสริมซึ่งบางส่วนเตรียมพร้อมอยู่ที่ฐาน หรือบางส่วนอาจจะลาดตระเวนอยู่ จะรุดเข้าไปยังที่เกิดเหตุในทุกเส้นทาง ก่อนวางกำลังปิดล้อมและเข้าเคลียร์ ซึ่งหากคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ ก็จะสามารถจับกุมตัวได้ด้วย"

ส่วนกรณีที่คนร้ายวางวัตถุต้องสงสัยไว้ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง หรือรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีเจ้าของนั้น พ.ต.ท.นฤชา บอกว่า จะต้องจัดการทำลายทิ้งทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และป้องกันแผนลวงของคนร้าย โดยไม่สนใจว่าจะเป็นระเบิดปลอมหรือระเบิดจริง

"ด้วยแผนรับมือดังกล่าวนี้ ทำให้เมื่อเช้ากำลังของเราไม่สูญเสียเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่ถูกลอบโจมตีชุดคุ้มครองครูถึง 2 จุดในพื้นที่ โดยชุดแรกเป็นทหาร ส่วนชุดที่ 2 เป็นตำรวจ" รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.ปะนาเระ ระบุ

สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบในท้องที่ อ.ปะนาเระ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุปะทะกันระหว่างทหารชุดคุ้มครองครู กับคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน บนถนนสายบ้านน้ำบ่อ-พ่อมิ่ง หมู่ 3 ต.พ่อมิ่ง

ทั้งนี้หลังรับแจ้ง    ฝ่ายตำรวจได้นำกำลังรุดไปช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าคนร้ายลอบโปรยตะปูเรือใบสกัดไว้เกือบทุกเส้นทางที่ไปสู่จุดเกิดเหตุ ทำให้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลืออย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทหารได้พยายามยิงตรึงเอาไว้ จนเกิดการปะทะกันราว 20 นาที ก่อนที่ฝ่ายคนร้ายจะล่าถอยไป

ขณะเดียวกัน คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งได้ลอบวางตะปูเรือใบตำรวจชุดคุ้มครองครู ขณะนำครูไปส่งที่โรงเรียนในพื้นที่ อ.ปะนาเระ เป็นเหตุให้รถลาดตระเวนของตำรวจพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ที่ประสบเหตุได้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ และได้วิทยุขอกำลังเสริมอย่างทันท่วงที

"จุดนี้ผมนำกำลังเข้าไปปิดล้อมด้วยตนเอง จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยมาได้รายหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ" พ.ต.ท.นฤชา กล่าว

สำหรับบริเวณที่คนร้ายลอบก่อความวุ่นวายในพื้นที่ อ.ปะนาเระ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น มีทั้งสิ้น 7 จุด ประกอบด้วย แยกอีเละ หมู่ 4 ต.คอกกระบือ , ถนนหลังโรงเรียนบ้านน้ำบ่อ หมู่ 2 ต.บ้านน้ำบ่อ , หัวสะพานชลประทานแฆแฆ หมู่ 4 ต.บ้านน้ำบ่อ , สะพานแฆแฆ หมู่ 4 บ้านน้ำบ่อ , บ้านปากช่อง หมู่ 3 ต.คอกกระบือ , ถนนสายบ้านนาจาก หมู่ 2 ต.พ่อมิ่ง และสะพานในพื้นที่หมู่ 2 ต.พ่อมิ่ง

 "ครั้งนี้ถือว่าการข่าวดี เพราะเรารู้ล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้วว่ากลุ่มก่อความไม่สงบ จะก่อเหตุป่วนในพื้นที่ อ.ปะนาเระ โดยเฉพาะที่ ต.บ้านน้ำบ่อ ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงมาก่อน ทำให้เราเตรียมกำลังเสริมไว้พร้อม เมื่อรับแจ้งเหตุจึงปฏิบัติการได้ทันที" พ.ต.ท.นฤชา กล่าว

ทั้งนี้ ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ เพิ่งพบร่องรอยการก่อความไม่สงบเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มบุคคลลึกลับลอบบากต้นไม้ไว้ เพื่อเตรียมตัดขวางถนน ซึ่งจุดที่พบ ก็เป็นจุดเดียวกับที่ทหารชุดคุ้มครองครูโดนลอบโจมตีในวันนี้