(ต่อจากตอนที่แล้ว http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=1351&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai)
หลังจากการอ่านหนังสือ "ความรู้กับการแก้ปัญหาความขัดแย้งกรณีวิกฤติการณ์ชายแดนภาคใต้" ทำให้ได้รู้จักกับวิกฤติการณ์ชายแดนภาคใต้ผ่านข้อมูลและการวิเคราะห์ของนักวิชาการในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้สังคมเข้าใจรากของปัญหาที่สะสมมานานจนเรื้อรัง และการเข้าใจดังกล่าวจะนำไปสู่การวางรากฐานโยบายการจัดการปัญหาอย่างเหมาะสมได้
ผศ.
จากข้อมูลจึงทำให้ ผศ.ชิดชนก วิเคระห์และแยกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ
1.กลุ่มแบ่งแยกดินแดน หรือกลุ่มขบวนการต่างๆที่มีอุดมการณ์มาจากประวัติศาสตร์ และนโยบายของรัฐที่กดดันจนทำให้คนในพื้นที่เสียวิถีชีวิตแบบมุสลิม
2.กลุ่มอิทธิพล สาเหตุจูงใจในการก่อความไม่สงบของกลุ่มนี้ก็คือผลประโยชน์ โดยมีบารมีที่สะสมในทางผิดกฎหมายมาก บางทีอาจอาศัยฝีมือของกลุ่มโจรสร้างสถานการณ์เพื่อคุมผลประโยชน์ในท้องถิ่นให้อยู่ในอิทธิพลตัวเองมากที่สุด
3.กลุ่มแอบอิงอำนาจรัฐ ซึ่งบางทีอาจมาจากนโยบายความมั่นคงของรัฐเองที่ใช้วิธีเลี้ยงโจรปราบโจร ซึ่งต้องตอบแทนผลประโยชน์กันไม่สิ้นสุด บางครั้งก็มีส่วนช่วยนายสร้างผลงาน หรือในอีกกรณี ก็อาจเป็นพวกข้าราชการส่วนน้อยที่ไม่ดี จ้างโจรสร้างสถานการณ์เพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง
ผศ.
หรือใน กรณี พ.ศ.2544 ช่วงที่เกิดยุทธการใบไม้ร่วง คือมีการยิงตำรวจตายเป็นรายวัน แต่ทหารคนหนึ่งกลับถูกระเบิดของตัวเองระเบิดใส่มือจนแขนขาดกลางชุมชน กรณีนี้ก็ทำให้คนในพื้นที่สงสัยเจ้าหน้าที่ว่าสร้างสถานการณ์เพื่อแย่งอำนาจในพื้นที่กันเอง
หรืออีกตัวอย่าหนึ่งเป็นการปะทะกันเองระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหาร เคยมีกรณีที่ทหารค่ายเสนาณรงค์ขับรถฝ่าด่านตำรวจ จนทำให้รถทหารถูกตำรวจล้อมยิงล้อ ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่อาจสร้างสถานการณ์ใส่กัน จนทำให้ประชาชนไม่เชื่อว่าปัญหาความไม่สงบจะเกิดจากขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพียงกลุ่มเดียว
4.กลุ่มผสมโรงเรื่องส่วนตัว แต่ทำให้สถานการณ์เหมือนการก่อการร้าย ซึ่งสื่อไม่ได้นำเสนอต่อเนื่อง เช่น การฆ่าตัดคอ 11 ศพ ครึ่งหนึ่งระบุได้ว่ามาจากความขัดแย้งส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม บทความของ ผศ.
นโยบายดังกล่าว ได้แก่ นโยบาย 66/23 ที่ใช้ในการเอาชนะคอมมิวนิสต์ การตั้ง พตท.43 และศอ.บต. การนำรัฐธรรมนูญในส่วนที่มีส่วนร่วมของประชาชนมาใช้ และแม้ว่าความขัดแย้งในช่วงนี้จะยังมีอยู่ในลักษณะการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการในป่า แต่ก็ยังถือว่าเป็นช่วงสงบ
ด้วยการข่าวที่ผิดพลาดของ พ.ต.ท.
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผนวกกับบรรยากาศแห่งความเป็นธรรมถูกปิดกั้น เพราะรัฐบาลเอาตำรวจมามีอำนาจกลุ่มเดียว ส่วนหน่วยงานที่เคยเป็นช่องทางแห่งความเป็นธรรมของชาวบ้าน เช่น ศอ.บต. ถูกยกเลิกไป
ในขณะเดียวกันรัฐก็มองว่า ปอเนาะเป็นแหล่งปลูกฝังการก่อการร้าย ทั้งๆ ที่สถิติพบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุมาจากปอเนาะน้อยกว่าเด็กที่มาจากอาชีวะที่ถูกกดดันเสียอีก การข่าวที่ผิดพลาดจึงทำให้กำหนดนโยบายผิดพลาดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผศ.ชิดชนก เสนอแนวทางการแก้ปัญหาไว้ด้วยว่า ต้องยอมรับก่อนว่าสิทธิในการกู้ชาติไม่ใช่เรื่องที่ล้าสมัยและเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่การสร้างความเป็นธรรมจะเป็นสิ่งที่แก้ไขได้
ที่ผ่านมามีเรื่องเล่าต่อๆ กันมามากมายที่ทำให้คนในพื้นที่รู้สึกได้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งรัฐไทยต้องยอมถอย 1 ก้าวมาสร้างความเป็นธรรม เพื่อชดใช้กรรมในอดีตที่เคยสร้าง และรัฐต้องทบทวนปัจจัยภายในมากกว่าคิดว่าปัญหาภาคใต้มาจากขบวนการที่เป็นเครือข่ายจากภายนอก รวมทั้งรัฐบาลต้องยอมรับความผิดพลาด และไม่ใช้ความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดการตอบโต้กันไปมา
|
แนะนำหนังสือ : มาอ่านหนังสือ "ความรู้กับการแก้ปัญหาความขัดแย้งฯ" กันเถอะ (ตอนที่ 2)
Submitted on Thu, 2005-10-27 06:12
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)
ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
2024-03-29 19:14
2024-03-29 18:10
2024-03-29 16:50
2024-03-29 16:08
2024-03-29 15:49
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล