นาย
นาย
"ผมเคยนำเรื่องนี้ไปคุยในเวทีสัมมนาหลายแห่งแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยแก้ปัญหา หน่วยงานรัฐกลับบอกว่า การลดน้อยลงของหอยแม่พิม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการสร้างรอดักทราย" นายเจะปอ กล่าว
นายเจะปอ กล่าวอีกว่า ตนเห็น เหตุที่เกิดปัญหาการกัดเซาะอย่างรุนแรง เพราะมนุษย์ต้องการฝืนธรรมชาติ สร้างรอดักทรายไปกั้นคลื่นและลม แม้จะดักทรายได้ แต่ก็ทำให้มีการกัดเซาะใต้น้ำ ตอนนี้ชาวบ้านช่วยกันนำไม้จำนวนมากปักไว้ตรงชายหาดที่พัง ซึ่งช่วยได้ระดับหนึ่ง สำหรับป่าชายเลนบางตาวา เป็นปาชายเลนที่อุดมสมบูรณ์มาก เคยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่งมาศึกษาสภาพป่า มีนักเรียนมาทัศนศึกษาเป็นประจำ
นายเจะปอ กล่าวด้วยว่า บางครั้งสิ่งก่อสร้างที่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่เป็นเพราะหน่วยงานเจ้าของโครงการไม่เคยถามชาวบ้านในพื้นที่ว่า ควรทำหรือไม่ เช่น ครั้งหนึ่งสมาชิกสภาจังหวัดปัตตานี ได้รับงบประมาณมาจำนวนหนึ่ง จึงไปสร้างห้องน้ำในป่าชายเลนบางตาวา โดยไม่ถามชาวบ้าน ปัจจุบันกลายเป็นอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว เพราะไม่มีคนไปใช้
"ผมเป็นหัวหน้าคณะดีเกฮูลูแหลมทรายอยู่ด้วย จึงนำเรื่องทรัพยากรที่เสียหายจากโครงการของรัฐมาใส่ไว้ในบทเพลงที่แสดงด้วย เพื่อต้องการให้ชาวบ้านสำนึกว่า เราต้องช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลายW นายเจะปอ กล่าว
สำหรับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงเกิดขึ้นตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลงไปในทะเล ตั้งแต่จังหวัดนราธิวาสไปจนถึงจังหวัดตราด ซึ่งขณะนี้กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาทั้งระบบอยู่ ส่วนป่าชายเลนที่มีหอยพิมชุกชุมอีกแหล่งหนึ่ง คือ จังหวัดสมุทรปราการ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)