Skip to main content
sharethis

เย็นวานนี้ (19 ธ.ค.48) ตัวแทนกลุ่มผู้หญิง 25 คนที่ถูกจับกุมในระหว่างการชุมนุมต่อต้านการประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) ฮ่องกง ฐานชุมนุมก่อความวุ่นวาย เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังได้รับการปล่อยตัว ขณะที่กลุ่มผู้ชายที่ถูกจับกุมนั้นกว่าจะได้รับการปล่อยตัวก็เป็นเวลาเย็นตามเวลาประเทศไทย และอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับประเทศไทย


 


ละออง ยี่สาร กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี และ สมบุญ สีคำดอกแค สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย คือส่วนหนึ่งของคนทั้งหมดที่อยู่ร่วมในการชุมนุม WTO และที่ปะทะกับตำรวจฮ่องกง ก่อนที่จะถูกจับกุม


 


0 0 0


 


เหตุการณ์เริ่มต้นยังไง


สมบุญ- วันที่ 17 เป็นวันที่เราเดินรณรงค์ใหญ่ เป้าหมายก็คือไปพูด ไปไฮด์ปาร์คให้ใกล้ที่ประชุมมากที่สุด เพื่อให้คณะผู้เจรจารับรู้ แต่เดินไปได้หน่อยก็ถูกสกัดโดยแก๊สน้ำตากับหน่วยปราบจลาจล เสร็จแล้วเราก็นั่ง เสร็จแล้วเราก็จะไปต่อ ก็ไปไม่ได้ แล้วก็เลยเกิดการปะทะกันประมาณ 5 โมงเย็น ถูกล้อมไว้ตรงถนนนั้นตั้งแต่หนึ่งทุ่ม จนถึงตีห้า แต่ข่าวว่าเขาจะสลายเราตอนตีสอง แต่ว่าจริงๆ เขามาจับเอาตอนตีห้า


 


รอบแรกที่ยิงแก๊สน้ำตาก็ไม่มีการแจ้งใดๆ ทั้งสิ้น  ถ้าแจ้งเป็นภาษาจีนก็ยังดี ชาวฮ่องกงที่ยืนดูอยู่ก็เยอะ เขาก็คงจะหลบหลีก นี่หลีกไม่ทันโดนแก๊สน้ำตากันหนักๆ เหมือนกัน แสดงว่าเขาไม่ได้แจ้งเลย


 


ละออง- เราก็พยายามสันติที่สุด พอถูกล้อมหนักๆ เราก็พากันนั่ง มีคนเอาดอกไม้ไปให้ตำรวจ ก็หวังว่าเขาจะทำอะไรรุนแรงกับเราน้อยลงหน่อย แล้วพอตกดึกมีการเคลียร์นักข่าวออกทีละคนๆ จนหมด พอถึงตอนสลายการชุมนุม มีการจับกุม ก็ไม่มีนักข่าวเหลือแล้ว


 


สมบุญ- พอถึงโรงพักตอนตี 5 ก็ให้นั่งรอในรถเป็นชั่วโมงๆ ก็มี แล้วก็ออกันที่สถานีตำรวจ อยู่ในขั้นตอนของการเช็คชื่อเช็คพาสปอร์ต พวกเราก็กระจัดกระจาย เขาจะคุมตัวเราหนึ่งต่อหนึ่ง กว่าจะได้เข้าห้องกักบริเวณก็ประมาณบ่ายโมงของอีกวัน อยู่ตรงนั้นอีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถูกจับใส่ห้องขังก็บ่าย


 


เราเคลื่อนไหวอะไรรุนแรงหรือไม่ เขาจึงต้องใช้มาตรการนี้


สมบุญ-ไม่เลย เรานั่งแล้ว เราไม่รู้ตัวเลยว่าเขาจะยิงแก๊สน้ำตาใส่พวกเรา


 


ละออง- ลำบากมากเพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง แล้วก็แบ่งกันเป็นกลุ่มๆ เอาไปเข้าห้องขังต่างๆ


 


แล้วได้รับการดูแลยังไง กินข้าวยังไง


ละออง- ข้าว น้ำ เนิ้มอะไรก็ไม่ได้กิน จนตอนบ่ายไม่ไหวแล้วก็ขอให้แจกข้าว เพราะไม่ได้กินตั้งแต่ตอนเย็น ตอนนั้นถูกล้อมไว้หมด พอเราเอาข้าวกล่องน้ำพริกไข่ต้มออกมากิน กินได้ 2 คำ พวกตำรวจก็ทำท่าจะเข้ามากวาดล้าง ข้าวก็เลยกระจายหมด ไม่ได้กินกัน แต่เขาก็ไม่ได้จับหรอก เหมือนแกล้งให้เราหิว แกล้งให้เราหนาว สังเกตดูจะเห็นว่าคอมมานโดเขาจะเปลี่ยนชุดทุกชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง แต่คนที่โดนกักอยู่ตรงนั้นน่ะหนาวมาก ผ้าห่มไม่มี ข้าวไม่ได้กิน น้ำไม่ได้กิน กดดันเราอย่างหนักเลย ห้องน้ำก็ไม่ได้เข้า


 


เป็นไปได้ยังไง ไม่ได้เข้าห้องน้ำ


สมบุญ- ก็อั้นกันอยู่อย่างนั้น แล้วก็เลยใช้วิธีการขึ้นไปบนเกาะกลางถนน แล้วก็ใช้ผ้าขึงสี่ด้าน ให้ผู้หญิงช่วยกันจับ มันไม่มีรถวิ่งหรอก มีแต่ตำรวจผู้ชายเป็นพันๆ ยืนเต็มหมดสี่ด้าน


 


ละออง- เราไม่เคยกับสภาพนั้น ไม่เคยต้องฉี่กลางสาธารณชน ถึงเอาผ้ากั้นเราก็รู้สึกอาย บอกไม่ถูก แต่มันก็ทนไม่ไหว แล้วเขาบอกว่าเราละเมิดสิทธิของเขา ทำไมเดินถนนเส้นนี้ เขาปิดถนนอีกเส้นไว้ให้แล้ว ทำไมเราไปเดินถนนอีกเส้นหนึ่ง


 


แล้วทำไมเปลี่ยนเส้นทาง


ละออง- ก็เขาเอาแก๊สน้ำตาใส่เรา ตอนเราอยู่ถนนเส้นเดิม ถ้าเขาไม่เอาแก๊สน้ำตามาใส่เราก็ไม่แตกฉานซ่านเซ็นไปอีกเส้นหนึ่งหรอก


 


สมบุญ- แต่กลุ่มที่เราไป 100 คนนี้เราไม่รู้หรอกว่าตรงไหนปิดหรือเปิดให้เดิน เราก็ตามขบวนไป มีกลุ่มชาวนาเกาหลีนำ เพราะเขาเยอะกว่าเรามาก เขาวิ่งเราก็วิ่ง แต่ขบวนเราก็จะมีการละเล่นไปด้วย มีมวยไทย มีการจูงหุ่นจอร์จ บุช


 


ละออง- เราต้องการสื่อสารว่าถ้าให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปได้มีการเปิดเสรี ชาวนาไทยและชาวนาทั่วโลกจะลำบาก แล้วเราก็เดินอย่างสันติ


 


ก่อนจะไปรู้ไหมว่าอาจจะเจอสถานการณ์ปราบปรามแบบนี้


สมบุญ- ไม่รู้เลย  เราก็คิดว่าเป็นการรณรงค์แบบสันติวิธี ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้น มีเต็นท์เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาผลกระทบการค้าเสรีจากหลายๆ ประเทศ แล้ววันหนึ่งก็นัดกันเดินรณรงค์ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจอแก๊สน้ำตาแล้วต้องทำยังไง พี่เจอแล้วน็อคไปเลย เพราะปอดไม่ดีด้วย รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จะไปแล้ว หายใจไม่ออก ตาก็แสบ หน้าก็ร้อนไปหมด ดีว่ามีคนดึงออกมาจากควัน แล้วพี่ผู้ชายคนหนึ่งก็เอาน้ำกรอกปากให้อ้วกๆ


 


หลังจากถูกขังแล้วยังไงต่อ


สมบุญ- ขังห้องละ 6 คนบ้าง 8 คนบ้าง ปนกับผู้หญิงเกาหลี พวกผู้หญิงเกาหลีจะโวยวาย ส่งเสียงดังมาก แต่เราจะเงียบ บางคนเข้าไปก็ร้องไห้เลย แล้วเราก็ร้องขอข้าว เขาก็เอาข้าวมาให้เรา


 


ละออง- แต่ห้องขังของเขา เราเข้าไปก็รับไม่ได้อยู่แล้ว ห้องส้วมมันเปิดโล่งๆ มีที่กั้นนิดเดียว ใครเดินชะเง้อมองก็เห็นหมด เอาข้าวไปให้เราก็กินไม่ลง มันสกปรก กินไม่ลง


 


สมบุญ- เวลาคนหนึ่งไปฉี่ กลิ่นฉี่มันก็คลุ้งอยู่ในนั้น


 


ละออง- แล้วอากาศเย็นนี่ ขนาดที่เรานั่งกับพื้นไม่ได้ แล้วผ้าห่มเขาแจกให้ 2 ผืนก็บ๊างบาง เราต้องเอาผ้าห่มนั้นมาพับเป็น 4 ชั้น มารองพื้นปูน แล้วก็นอนนั่งเบียดกัน อย่าขยับ ปวดตัวมาก ขยับไม่ได้ไอเย็นมันจะเข้า


 


สมบุญ- ถุงมือไม่มี ถุงเท้าต้องถอดออก รองเท้า ผ้าพันคอเขาให้ถอดออกหมด เหลือแต่เสื้อผ้าชุดที่เราใส่เดิน


 


ละออง- มันเย็นขนาดที่ตะคริวจับเส้นท้องเลย จะห่มโปงก็ไม่ได้เพราะผืนมันเล็กมาก แล้วก็เหม็น


 


ทำไมไม่ขอผ้าห่มเพิ่ม


สมบุญ- ไม่มี เขาบอกว่าไม่มี ขนาดขอยาแก้ไข้ เขาก็ยังไม่ให้ ยังนั่งคิดว่าคืนนี้จะรอดไหม จะผ่านคืนนี้ไปยังไง จะนั่งอยู่บนพื้นปูนนี้ได้ยังไง มันสับสนบอกไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันก็กดดัน เครียดมาก กลัวด้วยว่าจะไม่ได้กลับบ้าน ตอนแรกว่าจะปล่อย 3 ทุ่ม แต่จนเที่ยงคืนก็ยังไม่ปล่อย มาปล่อยจริงราวตีหนี่งได้


นี่ขนาดเราโดนแค่นี้เรายังไม่ไหว แล้วเพื่อนเราที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวจะเป็นยังไง เขาอาจจะป่วย


 


ละออง- ผ้าห่มเขามันเล็ก บาง ไม่มีความอบอุ่นเลย มันใช้ไม่ได้กับอุณหภูมิ 8 องศา แล้วก็นั่งไม่รู้วันเวลาเลย


 


อย่างนี้ประสานงานกับคนข้างนอกได้ยังไง


ละออง- พวกล่ามพวกอาจารย์ คนนำที่พูดภาษาอังกฤษได้ เขาจะขออนุญาตโทรศัพท์ เขาจะถูกกันอีกห้องหนึ่ง ล่ามก็บอกว่าไม่เคยอย่างนี้ เขาก็พยายามพูดปลอบใจ ทำให้สถานการณ์เย็นลง แล้วมีการหลอกเราด้วยนะที่สถานีตำรวจ ตอนปล่อยตัวเราบอกว่าติดต่อรถไฟฟ้าไว้แล้วว่าจะรับพวกเรา  แต่ไม่ถึงก็ไม่มีรถไฟฟ้า ต้องหาทางกลับที่พักกันเอง หลอกเราทุกอย่าง ทนายมาก็ไม่บอกเรา ให้ทนายคอยตั้ง 6 ชั่วโมง มันเป็นไปได้ยังไงว่าทนายเราจะไม่บอกว่าเป็นทนายของเรา


 


ท่าทีของเจ้าหน้าที่ดีหรือแย่กับผู้ชุมนุมแค่ไหน


ละออง- เจ้าหน้าที่ชั้นล่างดี แต่คนที่คุมเราแย่มาก เปิดประตูก็ปิดดังปังกระแทกเราตลอด วิ่งขึ้นวิ่งลงกระแทกเท้าหนักๆ ดูวุ่นวาย กวนประสาทตลอดเวลา แล้วบางทีเราจะเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ผู้ชายก็มาชะโงกมองเรา พี่ตกใจร้องฮือ เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้


 


ยาประจำตัวเอาเข้าไปได้ไหม


ละออง- ไม่ เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักยา ไม่ให้กิน ก็พาราเซตามอลนี่เอง มีน้องคนหนึ่งเป็นไข้สูงมาก เขาก็ไม่ให้กินยา บอกว่าจะพาไปหาหมอ แต่ดูจากพฤติกรรมที่เขาทำกับพวกเราแล้ว น้องเขาก็ไม่กล้าไปด้วย เพราะกลัวถูกแยกไปไหนไม่รู้อีก จนกลับมานี่ยังไข้อยู่เลย


 


แล้วมีอีกกรณีหนึ่งคือ มุสลิมผู้หญิงที่ไปด้วยกัน รู้สึกจะมาจากจะนะ (อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา) เขาต้องมีผ้าคาดผมตลอดเวลา เอาออกไม่ได้จะบาป  เจ้าหน้าที่ก็ไปดึงๆ ของเขาออกโดยไม่ฟังอะไรเขาเลย ไม่สนใจ บอกว่านี่เป็นโรงพักเป็นกฎระเบียบของเขา อย่างแว่นตาก็ให้เอาออก ชาวบ้านเขาอายุมากแล้ว ถ้าเอาออกมองไม่เห็น ก็ไม่ฟัง เอาแว่นเขาไปวางกับรองเท้าหน้าห้องขัง


 


สมบุญ- มีลูกน้องพี่คนหนึ่งเป็นคนสายตาสั้นมาก ใส่คอนแทกเลนส์ตอนนี้เขาไม่ได้ถอดเลย 2 วันแล้ว แล้วก็ถูกแยกขังคนเดียว โดยที่ไม่มีล่าม ไม่มีอะไรเลย เขาพูดภาษาอะไรไม่ได้เลย ก็ไม่รู้ทำไมต้องแยกขัง


 


ในขบวนมีการเคลื่อนไหวรณรงค์ยังไงบ้าง


สมบุญ- ชาวเกาหลีเขามีการเดิน 3 ก้าว แล้วไหว้แผ่นดิน กราบลงกับพื้นเลยทั้งขบวน เราไม่ถนัดที่จะก้มกราบ เราก็จะเดินสามก้าวแล้วก็หยุดรอเขา


 


ละออง- ตอนที่เขาก้มกราบพื้น คนที่ไม่ได้เอาผ้าอนามัยรองเข่าแล้วพันผ้าก็จะเลือดออกเลย แต่พอคนฮ่องกงข้างทางรู้ว่าเขากราบเพราะอะไร บางคนก็ร้องไห้ สงสาร


 


แล้วเขากราบเพราะอะไร


ละออง- เขากราบเป็นการเคารพแผ่นดิน ที่ให้ชีวิตเขา ให้เขาได้ทำการเกษตร แล้วก็กราบขอร้อง ให้ยุติการประชุมที่จะฆ่าเขา เกษตรกรรายเล็กๆ ทั่วประเทศ อยากให้ฟังเสียงผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงก็คือชาวนา


 


มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันไหม


ละออง- ชาวนาเกาหลีเขาเข้มแข็งมาก  เขาบอกว่าถ้าเขาไม่เข้มแข็ง แล้วลูกหลานเขาจะอยู่ยังไง อาจจะไม่ได้ทำนาต่อไป อย่างหลายประเทศที่สู้ตรงนี้ไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงต้องไปขายบริการ ผู้ชายต้องไปขายแรงงาน เขาอยากจะสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อลูกหลานของเขา แต่ก็ให้รู้ว่าเขาไม่ได้มาด้วยความรุนแรง พยายามจะสันติที่สุด ในการสื่อสารกับคนอื่นๆ  แต่ก็มีไฮด์ปาร์คร่วมกัน


 


รู้สึกยังไงกับทางการไทย


ละออง- เราไม่เข้าใจว่าทำไมสถานทูตไทยที่นั่นไม่ดูแลเรา เราไปชุมนุมก็ไปชุมนุมโดยสงบ เพราะอยากจะเรียกร้องให้ชาวนาไทยและชาวนาทั่วโลก ก็แค่อยากบอกให้รู้ว่าเราไม่ต้องการการประชุมแบบนี้ เพราะคนยากจนไม่ได้อะไรเลย มีแต่ผลประโยชน์ของบรรษัท นักลงทุน อย่าไปเปิดการค้าเสรีให้เราต้องลำบากกว่านี้ เราอยากอยู่กันแบบเศรษฐกิจพอเพียง  เดินครั้งนี้รัฐบาลไทยก็น่าจะเห็นใจเราบ้าง  แต่พอเราโดนแบบนี้แล้วรัฐบาลเราก็เงียบเลย อย่างเกาหลีรัฐบาลเขาก็มาวิ่งเต้นเอาคนของเขาออก สถานกงสุลของเราไปไหน


 


แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจ คือ ประทับคนคนฮ่องกง ช่วงที่ถูกล้อมอยู่บนถนน คนแก่เอาขนมปังมาให้ ผู้หญิงเอาบ๊วยมาให้ มีคนเอาน้ำมาให้ มีคนเอาของมาให้เรื่อยๆ ตอนเราเดินรณรงค์ก็มีคนยกนิ้วให้ เชียร์เราก็มากอยู่


 


สมบุญ- เรามีเป้าหมายที่จะไปพูดไปบอกกับผู้นำต่างๆ ที่ประชุมอยู่ตรงนั้นว่า การประชุมนี้มันไม่ได้เน้นที่ประชาชนของแต่ละประเทศเป็นตัวตั้ง


 


 


ขบวนการเรียนรู้ตรงนี้มาจากไหน


สมบุญ- มาจากการแลกเปลี่ยนกันระหว่างเครือข่าย จนถึงเครือข่ายระหว่างประเทศที่เราติดต่อสัมพันธ์ด้วย แล้วเครือข่ายต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบทุกวันนี้มันก็เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน เราก็ไม่เห็นเลยว่าการค้าเสรีมันดีกับพวกเรายังไง มีแต่คุยกันว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นไหม มีกำไรมากขึ้นไหม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net