Skip to main content
sharethis

โครงการข่าวสารทิศทางประเทศไทย (TTMP) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้จัดทำรายงานสถานการณ์และแนวโน้มประเทศไทย เป็นประจำทุกเดือน โดยรวบรมสถานการณ์ทุกด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2548 พบว่าสถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้มีแนวโน้มดีขึ้น เรื่องเศรษกิจยังเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขณะที่การปฏิรูปการศึกษายังอืด โดยสรุปได้ดังนี้


 


เหตุการณ์ในประเทศ


1. สัญญาณดีจากทางใต้ในวังวนทางการเมือง


ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนทางใต้มีสัญญาณดี เมื่อทางรัฐบาลปฏิบัติเชิงรุกได้ผล ในทางการรบสามารถตอบโต้ และจับกุมแกนนำได้จำนวนหนึ่ง ในทางมวลชนสามารถจัดชุมนุมสำแดงกำลังต่อต้านการก่อการร้ายได้สำเร็จ ในทางสาธารณะ เกิดความเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ได้อย่างสันติ ในทางระหว่างประเทศ ประเด็นผู้ลี้ภัย 131 คนคลี่คลายลง การกระทบกระทั่งกับมาเลเซียเพื่อนบ้านได้รับการแก้ไขอย่างน่าพอใจ


 


สัญญาณดีขึ้นนี้เกิดจากเหตุปัจจัยหลายประการ ได้แก่


1) การปรับตัวอย่างต่อเนื่องของทางการรัฐ ในระยะเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มีการกำหนดแผนและเปลี่ยนแผนใหม่ กำหนดหน่วยงานและเปลี่ยนหน่วยงานใหม่ กำหนดบุคลากรดูแลรับผิดชอบและเปลี่ยนบุคลากรใหม่หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งสามารถสร้างกระบวนรุกที่ดูเหมาะสม


 


2) การรวมพลังของมวลชนในพื้นที่ สาธารณชนทั่วไป รวมทั้งสถาบัน องค์กร และวงการต่างๆ ที่แน่นเหนียวในการที่จะดับไฟใต้อย่างสันติ สร้างประเทศไทยที่เหมือนครอบครัวใหญ่ที่ประกอบด้วยชนชาติ ศาสนา และภาษาอันหลากหลาย


 


3) การกระทำที่เลยเถิดของกลุ่มผู้ก่อการร้ายเอง ที่คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของความถูกต้องชอบธรรมแต่เพียงฝ่ายเดียว สร้างการเคลื่อนไหวบนนโยบายแห่งความเคียดแค้นชิงชัง การไม่ประนีประนอม การขีดเส้นแบ่งที่ตายตัว เช่น เป็นพวกมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม พวกตนและไม่ใช่พวกตน ซึ่งขัดกับสถานการณ์โลกที่ต้องพึ่งพากันและกันสูง รวมทั้งต้องการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในความแตกต่างและความหลากหลาย ปฏิบัติการเลยเถิดระยะใกล้ เช่น การสังหาร 2 นาวิกโยธินผู้ตกเป็นเชลยอย่างทรมาน การบุกสังหารภิกษุถึงในวัด ปฏิบัติที่เลยเถิดนี้ย่อมผลักไสผู้บริสุทธิ์ที่เคยเห็นอกเห็นใจต่อขบวนการออกไป สร้างความหวาดกลัวไปจนถึงความโกรธในหมู่มวลชนอีกจำนวนหนึ่ง กลุ่มก่อการร้ายโดดเดี่ยวตัวเองไปทั้งในพื้นที่และในทางสากล


 


4) ในโลกมุสลิมเองก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยชาวมุสลิมส่วนใหญ่ที่เดินทางสายกลาง มีแนวคิดที่จะอยู่อย่างสันติกับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ได้เริ่มมีความรู้สึกว่าไม่ควรจะปล่อยให้พวกมุสลิมหัวรุนแรงทำลายชื่อเสียงของโลกมุสลิมอีกต่อไป  โลกมุสลิมสามารถยืนผงาดในโลกด้วยวิถีทางอารยะ ดังเช่นเคยเกิดขึ้นในอดีต จากความรุ่งเรืองทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วรรณกรรมและการค้า เป็นต้น การประชุมองค์การอิสลามล่าสุดได้มีการทำความตกลงที่จะให้การออกฟัตวา (คำวินิจฉัยทางศาสนาอิสลามโดยผู้นำศาสนาที่มีอำนาจ) โดยกระทำอย่างมีการรับรองอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้


 


แม้มีสัญญาณดี แต่ก็มีงานที่จะต้องกระทำต่อไปอีกมาก เบื้องต้น ได้แก่ การสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างชาวบ้านกับกลไกรัฐ การลดฐานมวลชนของกลุ่มผู้ก่อการร้าย การลดทอนธุรกิจใต้ดินและกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นลงให้มาก รวมถึงการสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน อนึ่ง การที่ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้เกิดความสูญเสียทางชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากในสามจังหวัดภาคใต้ เพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียต่อไปยาวนานในอนาคต น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความแน่วแน่ยิ่งขึ้นในการลบความบาดหมางนี้ให้สำเร็จให้จงได้ในเร็ววัน


 


ปรากฏการณ์วังวนทางการเมืองรอบใหม่ ในระยะใกล้นี้ มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นปรากฏการณ์คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือ กระแสเรียกร้องการปฏิรูปทางการเมือง การแก้ไขหรือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ การโจมตีเรื่องคอร์รัปชั่น ไปจนถึงการอ้างอิงเบื้องสูง เช่น ในคำขวัญว่า "ถวายคืนพระราชอำนาจ" การกระพือข่าวด้านลบต่าง ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและการสาธารณสุข กล่าวโดยรวมพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลทักษิณ มีการชี้กันอย่างหนาหูว่า รัฐบาลถึงช่วงขาลง โดยไม่ระบุชัดว่าเป็นขาขึ้นของใคร


 


อย่างไรก็ตาม วังวนการเมืองครั้งนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ที่นักวิจารณ์บางคนเรียกว่า "ปรากฏการณ์ สนธิ ลิ้มทองกุล" ได้แก่ การที่มีผู้คนจำนวนหลายหมื่นเข้าร่วมชุมนุมฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เป็นเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์


ปรากฏการณ์นี้ เนื้อแท้คือความขัดแย้งในชนชั้นนำไทยที่มีขนาดใหญ่ เป็นที่สังเกตว่าที่ผ่านมาความขัดแย้งในหมู่ชนชั้นนำ มักไต่ระดับสู่การก่อรัฐประหาร เพราะว่าการใช้พลังมวลชนที่เคลื่อนไหวยาวนานมักควบคุมไม่ได้ คาดหมายว่าความขัดแย้งนี้น่าจะยืดเยื้อ เนื่องจากประเทศไทยดูจะอยู่ในภาวะที่จำต้องปรับตัวเองอย่างรวดเร็ว ให้เท่าทันสถานการณ์และการแข่งขัน และการปรับเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลประโยชน์ โดยทั่วไปมักก่อให้เกิดการต่อต้าน เนื่องจากบางกลุ่มได้มาก บางกลุ่มได้น้อย และบางกลุ่มเสียประโยชน์


 


2. ภาวะผิดคาดทางเศรษฐกิจ


ในสภาพปัจจุบัน พบว่า การคาดคะเนภาวะเศรษฐกิจได้กลายเป็นประเด็นการเมืองไปเสียแล้ว นั่นคือ ฝ่ายรัฐบาลจะวาดภาพที่ดูสวยงาม และฝ่ายคัดค้านก็จะขยายภาพอ่อนไหวให้ดูน่ากลัว ปัญหาที่อ่อนไหวหรือชวนกังวลเบื้องหน้า ได้แก่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ระหว่างดอกไม้กับก้อนอิฐนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่เป็นจริง ได้แสดงความยืดหยุ่นและการปรับตัวมากกว่าที่คาด ทั้งในประเทศและทางสากล กล่าวโดยรวมก็คือกระบวนโลกาภิวัตน์ แม้จะอ่อนแรงลงแล้ว แต่ก็ยังคงทรงพลังสูง ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่มีระบบอื่นเข้ามาเทียบแข่งได้


 


ภาวะผิดคาดทางเศรษฐกิจทั้งหลายอาจประมวลได้ดังนี้


1) อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สามของไทยดีเกินคาด แสดงถึงความยืดหยุ่นปรับตัวในด้านการส่งออก การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การรับผลสะเทือนจากการลอยตัวราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีพอสมควร การควบคุมการระบาดของไข้หวัดนก รวมทั้งการสร้างบรรยากาศแห่งความหวังท่ามกลางมรสุมและข่าวร้าย


 


2) เศรษฐกิจของจีนยังคงขยายตัวในอัตราสูงเกินคาด แม้ว่าทางการจีนจะใช้หลายมาตรการเพื่อชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลง


 


3) เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจู่ๆ ก็มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างไม่คาดคิด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์นิคเคอิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายปี


 


4) เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงในสงครามยึดครองอิรักและอัฟกานิสถาน ภาวะน้ำมันราคาแพง การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลงบประมาณอย่างมโหฬาร ตลอดจนการกระหน่ำของพายุเฮอริเคนหลายลูก ฟองสบู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ว่าจะแตกมานานแล้วก็ยังไม่ยอมแตก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่คาดว่าจะตกรูด กลับแข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยนและยูโร ครัวเรือนที่มีการออมน้อย ที่คาดว่าจะถังแตกล้มละลาย ก็ยังคงจับจ่ายสูงต่อไป


 


5) เศรษฐกิจของรัสเซีย ที่คาดกันว่าจะป่วยไข้เกินเยียวยา กลับแข็งแกร่ง การเมืองเกิดความมั่นคง ประธานาธิบดีปูตินได้รับความนิยมอย่างสูงมากจากสาธารณชนชาวรัสเซีย


 


6) เขตเศรษฐกิจที่เคยอยู่ในมุมมืด อย่างเช่นอินเดียและยุโรปตะวันออกหรือยุโรปกลาง กลับผงาดขึ้นมา มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เป็นแหล่งรับงานมืออาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากประเทศพัฒนาแล้วทั้งยุโรป สหรัฐและเอเชีย มีส่วนสำคัญที่ทำให้แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อของโลกลดลง


 


กล่าวโดยสรุป เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์หรือทุนนิยมผูกขาดยังคงมีความแข็งแกร่งเกินคาด มีผู้วิเคราะห์ว่าทุนผูกขาดเป็นทุนนิยมที่ร่อแร่เจียนตายมาราวร้อยปีแล้ว แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ตาย หากกลับขยายตัวไปยังดินแดนทั่วโลก ในระยะใกล้ เช่น ภายใน 15 ปีนี้ ระบบทุนโลกย่อมไม่ประสบความหายนะเสื่อมสูญไป


 


อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่น่าจะเป็นไปตามการคาดคิด ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจทั่วทั้งโลกมีแนวโน้มไปสู่ความไม่แน่นอน การเสี่ยง และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งทดสอบว่าบุคคลหรือประชาชาติใดจะสามารถอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่ อนึ่ง การคัดออกอย่างสันติก็อาจมีความรุนแรงไม่แพ้การพิฆาตในสงคราม


 


3. การปฏิรูปการศึกษาถึงจุดสะดุดอีกครั้ง


การปฏิรูปการศึกษาที่ได้คืบหน้าไปพอสมควรในการจัดโครงสร้างการบริหารใหม่ เช่น การรวมทบวงมหาวิทยาลัยเข้ามา การแบ่งเป็นแท่งอำนาจ การสร้างเขตพื้นที่การศึกษาและอื่นๆ ได้เกิดการสะดุดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สืบเนื่องจากมีกลุ่มครูขนาดใหญ่ชุมนุมต่อต้านการถ่ายโอนการศึกษาไปสู่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่เหตุผลต่างๆ นั้น ดูเหมือนจะถูกกลบด้วยลักษณะเคลื่อนไหวที่เป็นแบบขบวนการและการเร้าอารมณ์ เช่นการโกนหัว การกรีดเลือด ไปจนถึงการสวมเสื้อสีคล้ายเป็นเครื่องแบบ ในที่สุดดูจะกลายเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองไป เช่น การเผาบัตรสมาชิกพรรคการเมืองที่ตนเคยสังกัด


 


ในเรื่องการเคลื่อนไหวและการปฏิรูปการศึกษามีข้อสังเกตดังนี้


 


1) การเคลื่อนไหวเริ่มต้นมีลักษณะใหญ่ครึกโครม แต่ไม่ได้ขยายตัวไป ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เป็นเอกภาพภายใน ส่วนหนึ่งเกิดจากมีกระแสความต้องการให้มีการถ่ายโอนการศึกษาดำรงอยู่ในสังคม โดยเฉพาะในหมู่ปัญญาชน อีกส่วนหนึ่งเกิดคู่พิพาทของกลุ่มครูดังกล่าวไม่ใช่มีเพียงรัฐบาลอย่างที่พุ่งเป้าไป แท้จริงหากเป็นองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ที่มีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น และมีบทบาทอิทธิพลสูงขึ้น จนในปัจจุบันกล่าวได้ว่ามีอิทธิพลสูงกว่ากลุ่มครูที่เคลื่อนไหว


 


2) การศึกษาระดับมัธยมของรัฐบาล อันเป็นที่ยอมรับอย่างสูงจากผู้ปกครอง ถึงขั้นยอมเสียเงินเพื่อนำผู้อยู่ในปกครองเข้าเรียน ดูมีความพร้อมในการโอนไปอยู่กับกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสูงกว่า


 


3) ความคืบหน้าในการปฏิรูปการศึกษาเชิงคุณภาพ เช่น การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่และอื่นๆ มองไม่เห็นชัด เป็นไปได้ว่าการปฏิรูประดับนั้นอาจทำให้สำเร็จได้โดยการจัดให้มีสิ่งแวดล้อมทางโรงเรียนใหม่ การมีสื่อและอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย ซึ่งจะสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนแบบใหม่ขึ้น


 


เหตุการณ์ต่างประเทศ


1. การจลาจลในชานเมืองฝรั่งเศส-ปัญหาทางเชื้อชาติและศาสนา


เกิดเหตุจลาจลในชานเมืองฝรั่งเศสหลายสิบเมืองเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน กินเวลาทั้งหมด 20 คืน มีรถยนต์ถูกเผาเกือบ 9 พันคัน ผู้ถูกจับกุมเกือบ 3 พันคน แต่ผู้ที่เสียชีวิตมีเพียงคนเดียว มูลค่าความเสียหายราว 200 ล้านยูโร เหตุจลาจลยังได้แพร่ไปยังหลายประเทศในยุโรป ได้แก่ เบลเยียม เดนมาร์ก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และสเปน กลายเป็นปัญหาใหญ่ทางสังคม-การเมืองของฝรั่งเศส และอาจรวมประเทศยุโรปอื่น ๆ ด้วย


 


การจลาจลทำนองนี้ได้เกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐ ในปี 1967 และปีอื่นๆ อีกหลายครั้ง อังกฤษในปี 1981 และในฝรั่งเศสก็เคยเกิดการจลาจลคล้ายนี้ใน ปี 1991 สาเหตุมูลฐานมาจากลัทธิเชื้อชาติและการเหยียดผิว ทำให้ชาวผิวสีหรือผู้อพยพผิวสีต้องตกอยู่ในภาวะยากจน อาศัยในย่านที่แออัดและรุนแรง ถูกกีดกันทางสังคม ว่างงาน และมักถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะตำรวจเข้มงวดตรวจตรา ในประเทศฝรั่งเศสเงื่อนไขนี้ดูสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศในยุโรปอื่น นั่นคือมีจำนวนผู้อพยพจากแอฟริกาที่เคยเป็นอาณานิคมเข้ามาอยู่จำนวนมาก จนกระทั่งในปัจจุบันมีจำนวนราว 5 ล้านคน ซึ่งราวครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า 20 ปี นโยบายการกลมกลืนผู้อพยพเหล่านี้ให้เป็นพลเมืองดีของฝรั่งเศสไม่ประสบผล นอกจากนี้ ยังมีปัญหาศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องอีก กล่าวกันว่าชนชั้นนำของฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งเห็นว่าการเคร่งในศาสนา โดยเฉพาะอิสลามที่ผู้อพยพเหล่านี้ศรัทธา คุกคามต่อรัฐแบบโลกวิสัยของฝรั่งเศสในช่วง 100 ปีมานี้


 


การจลาจลในฝรั่งเศส ก่อให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมืองเป็นฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาชัดเจนขึ้นอีก โดยฝ่ายขวาเรียกร้องให้ปราบปรามเด็ดขาด โดยใช้กำลังทหาร ชี้ว่านโยบายกลมกลืนผู้อพยพไม่ได้ผล ต้องใช้ไม้แข็ง ด้านฝ่ายซ้ายเรียกร้องสิทธิมนุษยชน และให้ขับรัฐมนตรีมหาดไทยนายซาร์โกซี ที่ใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวต่อกลุ่มก่อจลาจล ออกจากตำแหน่ง รัฐบาลฝรั่งเศสดูเหมือนจะใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นวม นั่นคือ มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน และใช้กำลังตำรวจจัดการอย่างเฉียบขาด ในอีกด้านหนึ่ง ได้ออกหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานและความเหลื่อมล้ำ เช่น การเปิดแนะนำอาชีพและการสมัครงานแก่ผู้ว่างงานอายุต่ำกว่า 25 ปี การให้เงินแก่ผู้ที่กลับไปทำงาน 1,000 ยูโร การเพิ่มผู้ช่วยครูและนักการศึกษา 5 พันตำแหน่ง การให้ทุนการศึกษา 1 หมื่นทุน เป็นต้น


 


โลกตะวันตกดูกำลังเผชิญกับปัญหาสังคม-การเมืองใหม่ที่แก้ไขได้ยาก นั่นคือ ปัญหาเชื้อชาติผสมศาสนา นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มก่อการจลาจล ใช้วิธีโจมตีแล้วหนี คล้ายสงครามจรยุทธ์ ผสมกับเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ เช่น โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เนต ช่วยในการประสานงาน ทำให้มีลักษณะเหมือนเป็นการลุกขึ้นสู้ในเมืองแบบใหม่


 


2. ความล้มเหลวของนโยบายปฏิบัติการโดยลำพัง


นโยบายปฏิบัติการโดยลำพังที่ทางการสหรัฐถืออยู่ และค่อนข้างมีรากลึก เกิดจากเหตุปัจจัยหลายประการเป็นต้นว่า ความเชื่อมั่นในแสนยานุภาพของตน ภาวะทางภูมิศาสตร์ที่ห่างไกลจากการคุกคามของประเทศเพื่อนบ้าน ความเชื่อว่าสหรัฐเหมือนนครบนภูผา อยู่สูงกว่าชาติอื่นและเป็นผู้ส่องนำทางแก่นานาชาติ ความต้องการความเป็นอิสระในนโยบายต่างประเทศอย่างเต็มที่ การไม่ไว้วางใจองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งพันธมิตร ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในโลก การต้องการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้มีชาติใดขึ้นมาท้าทายอำนาจของสหรัฐได้อีกเหมือนอดีตสหภาพโซเวียต


 


ปฏิบัติการโดยลำพังครั้งใหญ่ล่าสุดของสหรัฐ ได้แก่ การทำสงครามยึดครองอิรักที่มีแหล่งสำรองน้ำมันมากเป็นรองจากซาอุดีอาระเบีย  ประสบความยากลำบากมากขึ้นทุกที จนปัจจุบันกล่าวได้ว่าถึงขั้นล้มเหลว ทุกอย่างดูจะไม่เป็นไปตามแผน และแผนสำรองก็ไม่ได้เตรียมไว้ การติดหล่มสงครามอิรักทำให้ผู้คนมากขึ้นทุกทีเปรียบเทียบกับสงครามเวียดนาม ทั้งค่าใช้จ่ายและความสูญเสีย รวมทั้งทางออกที่ตีบตัน


 


ในรอบเดือนพฤศจิกายนนี้ มีข่าวแสดงความล้มเหลวหลายประการ เช่น จำนวนผู้สนับสนุนสงครามรุกรานอิรักลดลง ในการสำรวจ พบว่าประชาชนกว่าครึ่งต้องการให้ถอนทหารสหรัฐภายใน 12 เดือน เมื่อเทียบกับการสำรวจปี 1970 ที่ราวครึ่งหนึ่งของประชามติ ต้องการให้ถอนทหารสหรัฐออกภายใน 12 เดือน (ยูเอสเอ. ทูเดย์ 161105) แม้กระทั่งสงครามต่อต้านการก่อการร้ายก็มีผู้ตั้งข้อสงสัยมากขึ้น คะแนนนิยมประธานาธิบดีบุชลดต่ำลงมาก ประชาชนอเมริกันถึงร้อยละ 58 สงสัยความซื่อสัตย์ของเขา ประชามติในโลกอาหรับมีทั้งหวาดกลัวและเกลียดชังสหรัฐ พันธมิตรโดยสมัครใจก็ถอนตัวออก สภาคองเกรสเริ่มเปลี่ยนเสียงในการสนับสนุนสงคราม วงในของหน่วยราชการลับทำข่าวลับรั่วสู่สาธารณชนมากขึ้น เช่น กรณีคุกลับ การใช้วิธีการทรมานเชลยอย่างแพร่หลาย การใช้อาวุธเคมีในการโจมตีเมืองฟัลลูจา และยังมีการสำรวจที่ระบุว่านโยบายของบุชเป็นสิ่งที่ทำลายเสถียรภาพของเอเชีย (สำนักข่าวฝรั่งเศส 151105)


 


ในโลกที่มีการพึ่งพาระหว่างกัน มีความหลากหลาย และความสามารถในการเรียนรู้ไม่แพ้กัน ลัทธิปฏิบัติการโดยลำพัง ย่อมก่อภัยต่อผู้ปฏิบัติและคุกคามต่อสันติภาพของโลก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net