"เอฟทีเอ...ออกไปๆๆ สหรัฐอเมริกา ออกไปๆๆ.." เสียงของกลุ่มเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนทั้งหญิงและชายนับหมื่นคนที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศ ดังกระหึ่มก้องไปทั่วท้องถนนกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นเสียงของการคัดค้าน เอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ หรือการประชุมเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ไทย - สหรัฐ รอบ 6 ซึ่งมีขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 9 - 13 ม.ค.นี้

 

ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของประชาชนคนเชียงใหม่ที่อยู่สองฟากฝั่งริมถนน ต่างพากันออกชะเง้อดูด้วยความแปลกใจ เมื่อมองเห็นผู้คนนับหมื่นต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง ผ้าพันคอสีดำที่มีตัวอักษรสีขาว เขียนคำว่า "ต้าน FTA"

 

หลายคนเอ่ยถามกันว่า พวกเขาเป็นใคร มาประท้วงกันเรื่องอะไร และเอฟทีเอ หมายถึงอะไร

 

ขบวนประชาชน เริ่มต้นขึ้นบริเวณหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ก่อนออกเดินไปตามท้องถนนเจริญประเทศ มุ่งหน้าไปยังสะพานนวรัฐ ที่เชื่อมระหว่างสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง ภายในขบวนนั้นมีการประดับประดาด้วยริ้วธง รูปป้ายรณรงค์คัดค้านเอฟทีเอ ป้ายประณามการแอบเจรจาการค้าเสรี พร้อมป้ายชื่อองค์กรเครือข่ายประชาชนกว่า 12 เครือข่ายทั่วประเทศที่ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

 

ไล่เรียงดูมีทั้งหมด ประกอบด้วย เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค จ.ลำปาง สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เครือข่ายสลัมสี่ภาค สภาเครือข่ายองค์กรประชาชนแห่งประเทศไทย สมัชชาคนจน สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน เครือข่ายป่าชุมชนภาคใต้ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และองค์กรพันธมิตรแรงงาน และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน

 

เครือข่ายทั้งหมดรวมกันในนาม "เครือข่ายองค์กรประชาชนต้านการเปิดการค้าเสรีและแปรรูปประเทศไทย"

 

"ที่พวกเราพากันมาในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรณรงค์ให้พ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน ได้รับรู้ถึงผลเสียของเอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ ซึ่งกำลังมีการจัดเจรจารอบ 6 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 9-13 ม.ค.นี้ เพราะมันจะกระทบต่อวิถีชีวิตของคนทุกคนทั่วประเทศ..." เสียงของตัวแทนองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ตะโกนบอกกับคนทั้งสองฟากถนน ในขณะที่กลุ่มรณรงค์ก็เดินแจกจ่ายแผ่นพับเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงต้องคัดค้านการค้าเสรี

 

"เราไม่ได้คัดค้านการค้าขายระหว่างประเทศ เราไม่ได้คัดค้านการพัฒนา แต่เราต่อต้านความไม่เป็นธรรม และคัดค้านการเอาสมบัติของชาติและผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศไปแลกกับผลประโยชน์ของคนเพียงหยิบมือเดียว"

 

ที่ทำให้ผู้คนทั่วไปสนใจกันเป็นพิเศษ ก็คือหุ่นล้อเลียนที่ใส่หน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใส่สูทสวมเนคไทจับมือกันยิ้มร่า โดยถือเชือกลากจูงผู้คนที่แต่งกายเป็นประชาชน ชาวนา แพทย์ พยาบาล นักเรียน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่ถูกผ้าสีดำปิดตา เดินตามกันไปเป็นขบวนแถวยาว

 

นอกจากนั้น ยังมีตัวแทนผู้ป่วยจากเชื้อเอชไอวี นอนบนเตียงล้อเข็นมาพร้อมกับกลุ่มขบวนดังกล่าวเพื่อร่วมคัดค้านการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ไทย-สหรัฐ ในครั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่จะมีการจดสิทธิบัตรยา ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์โดยตรง

 

เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงบริเวณบนสะพานนวรัฐ ทุกคนหยุดอยู่ตรงนั้น เพื่อทำพิธีกรรมบวงสรวงครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ก่อนออกเดินทางต่อ ผ่านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เคลื่อนผ่านตลาดวโรรส โดยไปหยุดตรงบริเวณหน้าสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้น ได้มีการทำพิธีกรรมสาปแช่งกลุ่มผู้ทำการเจรจาการค้าเสรี ไทย-สหรัฐ ก่อนมีการนำหุ่นมาตั้งวางให้เพชรฆาตร่ายรำดาบก่อนตัดคอหุ่นจนขาดกระเด็น

 

จากนั้น ตัวแทนเครือข่ายองค์กรประชาชนต้านการเปิดการค้าเสรีและแปรรูปประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือผ่าน นาย Scott Mansen รองกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำ จ.เชียงใหม่ ถึงหัวหน้าคณะเจรจาเอฟทีเอ ของฝ่ายสหรัฐ ซึ่งกำลังมีการจัดเจรจารอบ 6 ที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 9-13 ม.ค.นี้

 

โดยเนื้อหาหนังสือระบุว่า ในนามเครือข่ายฯ มีความเห็นว่า กระบวนการเจรจาที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่มีความโปร่งใส เนื้อหาในการเจรจาถูกปิดเป็นความลับ และไม่เคยได้รับตรวจสอบโดยสังคมไทย

 

นอกจากนี้ สาระสำคัญของการเจรจาในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสิทธิบัตรสิ่งมีชีวิต สิทธิบัตรยา การเปิดการค้าเสรีสินค้าเกษตร และการเปิดเสรีการลงทุนและการบริการ ล้วนแต่เป็นประเด็นที่อ่อนไหว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ และความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชนทั่วไป

 

ในหนังสือดังกล่าว ยังระบุอีกว่า และด้วยกระบวนการเจรจาที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากการตระหนักถึงการมีส่วนร่วมและการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางเครือข่ายองค์กรประชาชนต้านการเปิดการค้าเสรีและแปรรูปประเทศไทย จึงขอประกาศเจตนารมณ์ต่อหัวหน้าคณะเจรจา ฝ่ายสหรัฐ ว่า ขอคัดค้านการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ไทย - สหรัฐ และยืนยันว่า จะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้การเจรจายุติ

 

หลังจากนั้น นาย Scott Mansen รองกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำ จ.เชียงใหม่ ได้รับหนังสือและกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น และพร้อมที่จะนำข้อเรียกร้องดังกล่าว ไปเสนอให้แก่คณะเจรจาฝ่ายสหรัฐ ได้รับทราบต่อไป

จากนั้น ขบวนประชาชนได้ออกเดินทางไปยังลานข่วงประตูท่าแพ เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณหน้าโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม และเป็นสถานที่พักของตัวแทนเจรจาการค้าฝ่ายสหรัฐ โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ยืนอยู่สองข้างทางให้ความสนใจและปรบมือให้กำลังใจแก่กลุ่มผู้คัดค้าน เอฟทีเอ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายที่ระดมกำลัง นำแผงเหล็กมากั้นปิดทางเข้าออกโรงแรม ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปด้านใน

 

รายงานแจ้งว่า ภายในและด้านหลังของโรงแรม มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอของ จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้ามาเสริมอีกหลายพันนาย เพื่อทำการอารักขาตัวแทนเจรจาการค้าของสหรัฐ โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันจลาจลเอาไว้เตรียมพร้อม หากเกิดสถานการณ์การปะทะกันรุนแรง

 

ทั้งนี้ ตัวแทนของแต่ละองค์กรเครือข่าย ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปยืนบนรถประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบผลเสียของเอฟทีเอ และแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ

 

"เรามาด้วยสำนึกรักและหวงแหนประเทศ มาด้วยความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งการทำข้อตกลงเปิดเสรีการค้า ไทย-สหรัฐ ที่จะสร้างความเดือดร้อนอย่างเลวร้ายทั้งต่อพวกเราและพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี ไทย-สหรัฐอเมริกา จะมีการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าที่เคยเป็นปราการในการป้องกันผลกระทบจากการทุ่มตลาดของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างรุนแรง เกษตรกรรายย่อยต้องล้มละลาย และในที่สุดประเทศไทยจะสูญเสียความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านอาหาร ต้องหวังพึ่งอาหารจากต่างประเทศ และต้องพึ่งพาอาหารจากระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม

 

"นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงเรื่อง สิทธิบัตรยา ที่สหรัฐจะขอขยายเวลาจาก 20 ปี เป็น 25 ปี เพื่อต้องการผูกขาด ซึ่งจะทำให้ยามีราคาที่แพงขึ้น และโดยเฉพาะกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน ไต ที่จำเป็นต้องกินยาต่อเนื่องนั้น ซึ่งพบว่ามียาหลายชนิดที่ติดสิทธิบัตร ซึ่งหากมีการขยายสิทธิบัตรออกไป จะส่งผลให้ผู้ป่วยหมดโอกาสได้รับยา เนื่องจากยาจะมีราคาแพงมากขึ้น

 

"แม้กระทั่ง เรื่อง สิทธิบัตรสิ่งมีชีวิต จะเปิดโอกาสให้บรรษัทข้ามชาติจากสหรัฐ ใช้ความได้เปรียบทางเทคโนโลยี นำข้าวหอมมะลิ สมุนไพร พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ต่างๆ ตลอดจนทรัพยากรชีวภาพ และพันธุกรรมต่างๆ ไปจดสิทธิบัตรผูกขาดครอบครอง และยังบีบให้ประเทศไทยยอมรับการปลูก การขาย และให้เราบริโภคพืชจีเอ็มโอ หรือพืชที่ตัดแต่งพันธุกรรมอีกด้วย

 

"เอฟทีเอ เป็นเพียงเครื่องมือของปีศาจ เป็นเพียงเครื่องมือของนักล่าอาณานิคม โดยขอยกประเด็นตัวอย่าง หลังการเปิดการค้าเสรีกับประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ได้ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรไทย เช่น ลำไย ผักและผลไม้ ที่ส่งผลทำให้ผลผลิตตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เอฟทีเอ ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับแย่ลง

 

นั่น, เป็นเสียงสะท้อนที่ตัวแทนเครือข่ายองค์กรประชาชนต้านการเปิดการค้าเสรีและแปรรูปประเทศไทย ได้ออกมาประกาศเจตนารมณ์ ให้ทุกคนได้รับรู้

 

ด้าน นายวสันต์ สิทธิเขตต์ ตัวแทนศิลปินเพื่อประชาชน ได้ขึ้นไปอ่านบทกวี และท่องบทสวดแผ่เมตตาและบทสวดขับไล่รัฐบาลทักษิณ และกลุ่มผู้เจรจาการค้าเสรี สหรัฐ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมปรบมือกันดังลั่นไปทั่วโรงแรม

 

ต่อจากนั้น เครือข่ายองค์กรประชาชนฯ ได้เคลื่อนขบวนกันกลับไปที่ลานข่วงประตูท่าแพ เพื่อเข้าร่วมรับฟังเวทีวิชาการในหัวข้อเรื่อง "เอฟทีเอไทย-สหรัฐ : หายนะประเทศไทย" ตัวแทนจาก มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ หน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สมาชิกวุฒิสภา จอน อึ๊งภากรณ์ สมาชิกวุฒิสภา และนายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิพากษ์ เอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ หลังจากนั้น กลุ่มเครือข่ายศิลปิน นักคิด นักเขียนจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดแสดงเวทีวัฒนธรรมภาคประชาชน ก่อนจะตั้งขบวนเดินแถวกลับไปพักบริเวณสถานีรถไฟ

 

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจะทำการรณรงค์ในระหว่างเดินขบวนไปที่โรงแรมเชอราตัน อันเป็นหนึ่งในสองสถานที่ที่จัดประชุม ซึ่งคาดว่าจะปักหลักที่โรงแรมแห่งนี้จนกว่าจะมีคำตอบหรือยกเลิกการเจรจา

 

0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0

 

 

  

 

0 0 0

 

          

 

0 0 0

 

  

 

 

0 0 0

 

  

 

0 0 0

 

 

 

  กลับหน้าแรกประชาไท