"สนธิ" ย้ำ 4 ก.พ. ฎีการ้องทุกข์ ไม่ได้ขอพระราชทานนายกฯ

"สนธิ" ยืนยันเจตนารมณ์ชุมนุม 4 ก.พ.เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ใช้หลักสงบ สันติ อหิงสา ไม่ใช้ความรุนแรง ยื่นถวายฎีการ้องทุกข์ของแผ่นดิน ทุกข์ของอาณาประชาราษฎร์ที่เดือดร้อนจากการใช้อำนาจมิชอบของรัฐบาลชุดนี้ ระบุใช้ธรรมสู้อธรรมไล่ "ปีศาจกิเลส" ที่กำลังสิงอยู่ภายในให้พ้นไปจาก "ทักษิณ"


 

วันนี้ (27 ม.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ กล่าวในรายการ "สภาท่าพระอาทิตย์" ยืนยันเจตนารมณ์การชุมนุมในวัน 4 ก.พ.2549 ว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ สันติ ยึดหลักอหิงสา เพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์ของประชาชนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ที่ไม่พอใจต่อการบริหารบ้านเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บริหารบ้านเมืองจนเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว

 

"การชุมนุมในครั้งนี้จะขออนุญาตถวายฎีกาแด่พระเจ้าอยู่หัว ผ่านทาง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเล่าถึงความทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ว่ามีอะไรบ้าง มีการใช้อำนาจไม่ถูกต้องอย่างไรบ้าง เป็นข้อๆ ไป เพื่อให้พระองค์ทรงทราบ" นายสนธิกล่าวยืนยันถึงเจตนารมณ์ในการชุมนุมครั้งนี้อีกครั้ง และย้ำว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายสถานที่ราชการ หรือก่อความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น

 

นายสนธิ กล่าวว่า การถวายฎีกาถึงพระเจ้าอยู่หัวถือเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนสามารถทำได้เพื่อให้พระองค์ทรงทราบถึงความเดือดร้อน ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณเหมือนการสั่นกระดิ่งร้องทุกข์ให้พระองค์ทรงลงมาดู แต่ครั้งนี้จะแตกต่างไปโดยเป็นลักษณะร้องทุกข์ของแผ่นดิน

 

"เราไม่ได้ต้องการให้พระองค์ทรงแต่งตั้งนายกฯ คนใหม่ ตามที่มีการบิดเบือนกัน แต่ต้องการมาร้องทุกข์ของแผ่นดินให้พระองค์ทรงทราบ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มักอ้างว่าได้มา 19 ล้านเสียง แต่เมื่อได้อำนาจมาแล้วกลับใช้อำนาจไม่ถูกต้อง ทำให้ประชานเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า" นายสนธิ กล่าว

 

ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ผู้นี้ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแทนที่รัฐบาลจะรับฟังปัญหา หรือพิจารณาถึงข้อร้องทุกข์ดังกล่าว กลับใช้อำนาจอวิชชากีดกัน แล้วยังใช้อำนาจรัฐจัดคนมามาหาเรื่องก่อกวน นอกจากนี้ยังใช้อำนาจปิดกั้นสื่อ ปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งของประชาชน เช่น การสั่งให้ กสท ตัดสัญญาณถ่ายทอดสดของ ASTV และความพยายามในการบล็อกเว็บไซต์ของผู้จัดการอีกด้วย แม้ว่ารัฐจะมีสื่อต่างๆ ทั้งทีวีวิทยุอยู่ในมือมากมายอยู่แล้วก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หมดความชอบธรรมลงไปเรื่อยๆ

 

"ผมจะสู้โดยใช้ธรรมนำหน้า สู้เพื่อให้ธรรมมาแทนอธรรมในสังคม เพื่อลูกหลานได้มีบรรทัดฐาน มีความยุติธรรม มีสันติสุข ให้ผู้นำมีจริยธรรม มีเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เป็นสังคมที่เป็นทาสรับใช้นายทุนเพียงไม่กี่ตระกูลในเมืองไทย ผมสู้ครั้งนี้ไม่ได้หวังลาภสักการะ หรือยศถาบรรดาศักดิ์ที่อาจมีการหยิบยื่นให้ผมในอนาคต ผมก็ไม่รับอย่างเด็ดขาด ผมขอเป็นนายสนธิ เป็นสื่ออย่างนี้ต่อไป" นายสนธิ กล่าวย้ำถึงเจตนารมณ์ของตนเองอีกครั้ง

 

ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการยังย้ำอีกว่า เขาไม่ได้สู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กำลังสู้กับปีศาจกิเลสที่กำลังสิงสู่อยู่ให้ออกไป และถ้าปีศาจตนนี้ยังสิงสู่ในนายกฯคนอื่นก็จะต่อสู้ขับไล่ต่อไปจนกว่าจะตายหรือขึ้นสู่เมรุ และหวังว่าจะมีคนอื่นมาสู้ต่อไป

 

"แม้ว่าภายในวันสองวันนี้อาจถูกตัดสัญญาณ หรือไม่สามารถขออำนาจศาลปกครองเพื่อคุ้มครองฉุกเฉินให้ระงับการตัดสัญญาณถ่ายทอดผ่านทาง ASTV ได้ก็ตาม แต่ขอเรียกร้องให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมเพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์อย่างสงบ สันติ ตามรัฐธรรมนูญ ในวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงตรงเป็นต้นไป" นายสนธิ กล่าว

 

...................................

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท