Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 


                     


                                    ภาพจาก http://www.reuters.com


 



แดนตากาล็อกระอุไม่แพ้เมืองไทย สื่อมวลชนทั่วโลกพากันหวั่นใจว่าประชาชนฟิลิปปินส์จะถูกผู้นำลิดรอนสิทธิเสรีภาพ จึงมีการประณามประธานาธิบดีกลอเรีย แมคคาปากัล อาร์โรโย ซึ่งประกาศขยายเวลาการใช้ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยมีผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตทางการเมืองซึ่งนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือถูกจับกุมในข้อหาเกี่ยวพันกับการวางแผนล้มล้างรัฐบาล


 


อิกนาชิโอ บันเย โฆษกรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ว่าจะยังมีการดำรงภาวะฉุกเฉินเอาไว้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์ได้จับกุมตัวนายพล เรอนาโต มิแรนดา ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือ รวมถึงสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน และนายทหารที่เกษียณราชการไปแล้วอีกนายหนึ่ง เมื่อวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา


 


หลังจากที่นายพลมิแรนดาถูกจับกุม ได้มีกองกำลังทหารเรือราว 100 นาย บุกเข้ายึดสำนักงานใหญ่ของกองทัพเรือ ซึ่งอยู่ที่ฟอร์ต โบนิฟาซิโอ กลางกรุงมะนิลา ภายใต้การนำของนายพล เอเรียล เกรูบิน และประชาชนชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนได้ออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนด้วย


 


อย่างไรก็ตาม การชุมนุมดังกล่าวสงบลงโดยไม่มีการปะทะกันรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวเตือนผู้ร่วมชุมนุมว่าประกาศภาวะฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้ หากมีผู้ใดรวมตัวกันเกิน 10 คน จะโดนจับกุมตัวทันที แต่ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าประชาชนฟิลิปปินส์คนใดโดนจับกุมตัว


 


แม้ว่าคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีจะแนะนำว่าควรยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่รัฐบาลยังคงยืนกรานที่จะเลื่อนเวลายกเลิกภาวะฉุกเฉินออกไปก่อน


 


การต่อเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินทำให้สื่อมวลชนมองว่ารัฐบาลละเมิดสิทธิของประชาชนในอันที่จะชุมนุมกันอย่างสันติ แต่โฆษกรัฐบาลกล่าวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฟอร์ตโบนิฟาซิโอสะท้อนให้เห็นว่าการคุกคามทางการเมืองยังไม่สิ้นสุดลง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรจึงต้องเลื่อนการยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินไป


 


ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์บอกกับประชาชนว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้เป็นเพียงคำสั่งชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุว่าประกาศภาวะฉุกเฉินจะกินเวลาต่อไปอีกนานเท่าใด









ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net